สภาพอากาศเล่นตลก กระทบตลาดแอร์ 3 เดือนแรกหดตัว 15% ลุ้นเม.ย.-พ.ค. หากอากาศร้อนจริง ช่วยดันยอดครึ่งปีแรกได้ “แอลจี” ปรับแผนให้ความสำคัญช่องทางรีเทล ลุ้นมาร์เก็ตแชร์ที่ 22% ขึ้นแท่นอันดับ 2 ของตลาด ฟาก“เซ็นทรัลแอร์” หวังอีก 2 เดือนดึงยอดขายกลับคืน ทั้งปีตั้งเป้ายอดขาย 1 แสนเครื่องเท่าปีก่อน
**แอลจีโฟกัสรีเทล**
นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน โดยเฉพาะในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จากที่คาดว่าปีนี้หน้าร้อนจะมาเร็วและอยู่นานเช่นเดียวกับปีก่อน กลับมีอุณหภูมิลดลงอยู่ในระดับ 10 กว่าองศา และมีฝนตกสลับกันเป็นระยะนั้นได้ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในช่วงไตรมาสแรกหดตัว 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการของตลาดลดลง
ในส่วนของแอลจี จากที่คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 30% เพราะปีนี้บริษัทได้เริ่มทำตลาดแอร์ตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โฟกัสในรุ่นอินเวอร์เตอร์ ภายใต้งบการตลาดตลอดปีที่ 520 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ใช้ราว 400 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าปีนี้จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดแอร์ได้นั้น ปรากฏว่า 3 เดือนที่ผ่านมานี้ แอลจีมีการเติบโตขึ้นเพียง 5% เท่านั้น
แต่ก็ถือว่าดีกว่าภาพรวมตลาดที่เติบโตลดลง
สำหรับการเติบโตของแอลจี มาจากการที่บริษัทปรับปรุงช่องทางขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดกิจกรรมโรดโชว์เดินสายไปทั่วประเทศ คาดว่าภายในเดือนพ.ค.นี้จะทำได้ครบ ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงทางภาคใต้เท่านั้น และจากการที่แอลจีสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งได้ ส่งผลให้ปัจจุบันแอลจีก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสองของตลาดแอร์ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 22% ห่างจากผู้นำตลาดเพียง 2% โดยผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 24% เท่านั้น ทั้งนี้หากสภาพอากาศเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ เชื่อว่าการที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตามที่เคยกล่าวไว้นั้นเป็นไปได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาสสองนี้ บริษัทจะใช้งบการตลาดมากกว่าที่วางไว้ แต่เป็นงบที่ดึงมาจากช่วงไตรมาสแรกที่ใช้ไปเพียงเล็กน้อย โดยจะโฟกัสในส่วนของเครื่องปรับอากาศรุ่นที่มีเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์เป็นหลัก พร้อมให้ความสำคัญกับช่องทางขายรีเทลเป็นหลัก ส่งเสริมการขายหน้าร้านโดยมองว่าขณะนี้อากาศร้อนเริ่มกลับมาแล้วเป็นสัญญาณอันดีโดยเฉพาะในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ ถ้าอากาศกลับมาร้อนอีกครั้ง เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดแอร์กระเตื้องขึ้น หรืออย่างน้อยจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดแอร์ในช่วงครึ่งปีแรกกลับมามีการเติบโตที่ 10% ขณะที่แอลจีนั้นมองว่าภายในครึ่งปีแรกนี้ จะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ได้ที่ 20-22% ครองอันดับสองของตลาดไว้ได้
สำหรับความต้องการในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสสองนี้พบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งขณะนี้พ้นจากสภาวะน้ำท่วมแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นฟู ดังนั้นความต้องการในเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงมีสูง โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องปรับอากาศ เพราะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งทางแอลจี ได้จัดให้มีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นด้วย ในการรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์แอลจีให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
**เซ็นทรัลแอร์มั่นใจยอดขาย1แสนเครื่อง**
ด้านนายเรืองพันธ์ ศรีอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนสยาม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ “เซ็นทรัลแอร์” กล่าวว่า ยอดขาย ช่วงหน้าร้อนปีนี้ลดลง 20% เมื่อกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่ต้องขอดูยอดขายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ด้วย ซึ่งอาจจะกลับมาดีขึ้นได้เพราะอากาศอาจจะกลับมาร้อนอีกครั้ง หรือในครึ่งปีนี้เชื่อว่ายอดขายจะกลับคืนมาตามที่ตั้งเป้าไว้
ทั้งนี้ผลจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้การแข่งขันในตลาดเครื่องปรับอากาศรุนแรงขึ้น โดยมีหลายๆแบรนด์หันมาใช้กลยุทธ์ลดราคากัน แต่สำหรับเซ็นทรัลแอร์ยังคงเดินหน้าทำตามแผนการตลาดที่วางไว้เช่นเดิม ภายใต้งบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ชูจุดขายในเรื่องของความทนทานและประหยัดไฟ รวมถึงบริการหลังการขาย มั่นใจว่าตลอดทั้งปีนี้จะสามารถจำหน่ายสินค้าได้ที่ 1 แสนเครื่องเท่าปีก่อน ก็พอใจแล้ว เพราะปีนี้อากาศไม่ร้อนเท่าปีก่อน
**แอลจีโฟกัสรีเทล**
นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน โดยเฉพาะในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จากที่คาดว่าปีนี้หน้าร้อนจะมาเร็วและอยู่นานเช่นเดียวกับปีก่อน กลับมีอุณหภูมิลดลงอยู่ในระดับ 10 กว่าองศา และมีฝนตกสลับกันเป็นระยะนั้นได้ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในช่วงไตรมาสแรกหดตัว 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการของตลาดลดลง
ในส่วนของแอลจี จากที่คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 30% เพราะปีนี้บริษัทได้เริ่มทำตลาดแอร์ตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โฟกัสในรุ่นอินเวอร์เตอร์ ภายใต้งบการตลาดตลอดปีที่ 520 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ใช้ราว 400 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าปีนี้จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดแอร์ได้นั้น ปรากฏว่า 3 เดือนที่ผ่านมานี้ แอลจีมีการเติบโตขึ้นเพียง 5% เท่านั้น
แต่ก็ถือว่าดีกว่าภาพรวมตลาดที่เติบโตลดลง
สำหรับการเติบโตของแอลจี มาจากการที่บริษัทปรับปรุงช่องทางขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดกิจกรรมโรดโชว์เดินสายไปทั่วประเทศ คาดว่าภายในเดือนพ.ค.นี้จะทำได้ครบ ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงทางภาคใต้เท่านั้น และจากการที่แอลจีสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งได้ ส่งผลให้ปัจจุบันแอลจีก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสองของตลาดแอร์ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 22% ห่างจากผู้นำตลาดเพียง 2% โดยผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 24% เท่านั้น ทั้งนี้หากสภาพอากาศเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ เชื่อว่าการที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตามที่เคยกล่าวไว้นั้นเป็นไปได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาสสองนี้ บริษัทจะใช้งบการตลาดมากกว่าที่วางไว้ แต่เป็นงบที่ดึงมาจากช่วงไตรมาสแรกที่ใช้ไปเพียงเล็กน้อย โดยจะโฟกัสในส่วนของเครื่องปรับอากาศรุ่นที่มีเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์เป็นหลัก พร้อมให้ความสำคัญกับช่องทางขายรีเทลเป็นหลัก ส่งเสริมการขายหน้าร้านโดยมองว่าขณะนี้อากาศร้อนเริ่มกลับมาแล้วเป็นสัญญาณอันดีโดยเฉพาะในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ ถ้าอากาศกลับมาร้อนอีกครั้ง เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดแอร์กระเตื้องขึ้น หรืออย่างน้อยจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดแอร์ในช่วงครึ่งปีแรกกลับมามีการเติบโตที่ 10% ขณะที่แอลจีนั้นมองว่าภายในครึ่งปีแรกนี้ จะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ได้ที่ 20-22% ครองอันดับสองของตลาดไว้ได้
สำหรับความต้องการในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสสองนี้พบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งขณะนี้พ้นจากสภาวะน้ำท่วมแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นฟู ดังนั้นความต้องการในเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงมีสูง โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องปรับอากาศ เพราะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งทางแอลจี ได้จัดให้มีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นด้วย ในการรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์แอลจีให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
**เซ็นทรัลแอร์มั่นใจยอดขาย1แสนเครื่อง**
ด้านนายเรืองพันธ์ ศรีอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนสยาม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ “เซ็นทรัลแอร์” กล่าวว่า ยอดขาย ช่วงหน้าร้อนปีนี้ลดลง 20% เมื่อกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่ต้องขอดูยอดขายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ด้วย ซึ่งอาจจะกลับมาดีขึ้นได้เพราะอากาศอาจจะกลับมาร้อนอีกครั้ง หรือในครึ่งปีนี้เชื่อว่ายอดขายจะกลับคืนมาตามที่ตั้งเป้าไว้
ทั้งนี้ผลจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้การแข่งขันในตลาดเครื่องปรับอากาศรุนแรงขึ้น โดยมีหลายๆแบรนด์หันมาใช้กลยุทธ์ลดราคากัน แต่สำหรับเซ็นทรัลแอร์ยังคงเดินหน้าทำตามแผนการตลาดที่วางไว้เช่นเดิม ภายใต้งบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ชูจุดขายในเรื่องของความทนทานและประหยัดไฟ รวมถึงบริการหลังการขาย มั่นใจว่าตลอดทั้งปีนี้จะสามารถจำหน่ายสินค้าได้ที่ 1 แสนเครื่องเท่าปีก่อน ก็พอใจแล้ว เพราะปีนี้อากาศไม่ร้อนเท่าปีก่อน