“มาสเตอร์คูล” วืดแผนโกยรายได้ครั้งแรกในรอบ 8 ปี ปรับแผนชะลอออกสินค้าใหม่ หันจับ ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม
นายพรชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายพัดลมไอน้ำหรือระบบทำความเย็นภายนอกอาคาร ภายใต้แบรนด์ มาสเตอร์คูล “MASTERKOOL" เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน”ว่า ถือเป็นปีแรกในรอบ 8 ปี ที่ดำเนินธุรกิจที่คาดการณ์ผลประกอบการผิดพลาด เนื่องจากสภาพอากาศที่ผ่านมา แปรปรวน และ ไม่ร้อน เท่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตน้อยมากหรือทรงตัวเท่าปีก่อน
ดังนั้นบริษัทจึงปรับแผนรองรับใหม่ ด้วยการชะลอออกสินค้าใหม่ แต่ยังพอมีออกทดลองทำตลาดอยู่บ้าง โดยมุ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องอิงกับสภาพอากาศและมีความจำเป็นในการใช้พัดลมไอน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดที่เข้าถึงผู้บริโภคทั่วไป พร้อมลดการทำกิจกรรมการขายลงเชื่อว่าจะพอส่งให้ภาพรวมการขายในประเทศปีนี้ทรงตัวได้เท่าปีที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมตลาดพัดลมไอน้ำแล้ว คาดว่าจะทรงตัวเท่าปีก่อนเช่นกัน หรือมีมูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท
ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบัน จำหน่ายผ่านตัวแทนไปแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% ทำให้ภาพรวมรายได้ของบริษัทปีนี้ น่าจะทำได้ถึง 260 ล้านบาท เติบโตราว 10%มาจากยอดขายในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30%
นายพรชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายพัดลมไอน้ำหรือระบบทำความเย็นภายนอกอาคาร ภายใต้แบรนด์ มาสเตอร์คูล “MASTERKOOL" เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน”ว่า ถือเป็นปีแรกในรอบ 8 ปี ที่ดำเนินธุรกิจที่คาดการณ์ผลประกอบการผิดพลาด เนื่องจากสภาพอากาศที่ผ่านมา แปรปรวน และ ไม่ร้อน เท่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตน้อยมากหรือทรงตัวเท่าปีก่อน
ดังนั้นบริษัทจึงปรับแผนรองรับใหม่ ด้วยการชะลอออกสินค้าใหม่ แต่ยังพอมีออกทดลองทำตลาดอยู่บ้าง โดยมุ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องอิงกับสภาพอากาศและมีความจำเป็นในการใช้พัดลมไอน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดที่เข้าถึงผู้บริโภคทั่วไป พร้อมลดการทำกิจกรรมการขายลงเชื่อว่าจะพอส่งให้ภาพรวมการขายในประเทศปีนี้ทรงตัวได้เท่าปีที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมตลาดพัดลมไอน้ำแล้ว คาดว่าจะทรงตัวเท่าปีก่อนเช่นกัน หรือมีมูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท
ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบัน จำหน่ายผ่านตัวแทนไปแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% ทำให้ภาพรวมรายได้ของบริษัทปีนี้ น่าจะทำได้ถึง 260 ล้านบาท เติบโตราว 10%มาจากยอดขายในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30%
