ไทยปะทะเขมรยืดเยื้อ กระทบท่องเที่ยว ทัวร์ข้ามแดนยกเลิก 100% ททท.โหมโปรโมต พื้นที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ผ่านออนไลน์ ไครซีท ยันยังมีหลายพื้นที่เที่ยวไทย เข็น 3 กิจกรรมฟื้นเที่ยวภาคใต้ และ 3 กิจกรรมฟื้นตลาดญี่ปุ่น คุยภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติยังโตต่อเนื่อง
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) รับทราบ แนวทางการติดตามการฟื้นฟูและผลกระทบ จากปัญหาทางการเมืองและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตามที่ ททท.ได้นำเสนอ โดยรายงานแจ้งว่า ผลจากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา บริเวณชายแดน ซึ่งสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ จึงต้องเฝ้าติดตามใกล้ชิด และ ยังไม่สามารถประเมินผลความเสียหายที่เกิดกับธุรกิจท่องเที่ยวได้
แต่เบื้องต้น สำนักงาน ททท. จ.สุรินทร์ รายงานว่า ผลจากการปะทะ ทำให้ นักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ที่จะเดินทางเพื่อข้ามไปเที่ยว นครวัด นครธม ยกเลิกการเดินทาง 100% และ พื้นที่ปราสาทตาเมือนซึ่งยังไม่ปลอดภัย นอกจากนั้นผลของการปิด 2 ด่าน ชายแดน คือ ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ และ ด่านช่องสงัม จ.ศรีสะเกษ ทำให้ คนไทยที่จะเดินทางไปเล่นคาสิโน ก็ยกเลิกทั้งหมด
รวมถึงการชอปปิ้งตลาดการค้าชายแดน ก็ต้องปิดชั่วคราวด้วย ขณะที่อัตราเข้าพักโรงแรม ในพื้นที่ดังกล่าวกลับสูงขึ้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่เข้าไปปฎิบัติงาน เข้าไปใช้บริการ โดยรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ผลจากการปะทะทำให้สูญเสียรายได้จากการค้าชายแดนเฉลี่ยวันละ 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ททท.จะเร่งสร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย ว่ายังมีอีกหลายแหล่งท่องเที่ยวที่ยังเดินทางได้ตามปกติ เพราะอยู่ห่างไกลจุดปะทะ เช่น ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทพนมรุ้ง และหมู่บ้านช้าง สุรินทร์ เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลได้จาก ออนไลน์ ไครซีท ซึ่ง ททท.จะขึ้นแผนที่แหล่งท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าว เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นได้ชัดเจนว่า แหล่งท่องเที่ยวใดอยู่ที่ใด
ส่วนการฟื้นฟูท่องเที่ยวภาคใต้หลังประสบอุทกภัย จะใช้งบ 6 ล้านบาท จัด 3 กิจกรรม ในระยะเวลา 4 เดือน (เม.ย.-ก.ค.54) ได้แก่ 1. ฟื้นบรรยากาศท่องเที่ยวผ่านการสื่อสารระบบออนไลน์และออฟไลน์ 2.สนับสนุนกิจกรรมการตลาด เช่น เปิด 150 บูธ ที่ งาน “มหัศจรรย์ สองฝั่งทะเลใต้” 26-29 พ.ค.ศกนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ให้แก่ผู้ประกอบการภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบออกร้านฟรี, ร่วมมือ สมาคมท่องเที่ยวสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้ เพื่อ 3.แผนฟื้นฟูการเดินทางในประเทศ เช่น จัดกิจกรรม กอล์ฟ ชาเรนจ์ ,โครงการนั่งรถไฟ กอดเมืองใต้
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น เตรียม จัด 3 กิจกรรม เพื่อฟื้นฟู ได้แก่ จัดแฟมทริปเชิญบริษัททัวร์ด้านพำนักระยะยาวสำรวจพื้นที่ประเทศไทย11-15 พ.ค.54เชิญทัวร์ 60 ราย ร่วมงาน ไทยแลนด์ ทราเวลมาร์ท มิ.ย.นี้ และ ร่วมโฮลเซลเลอร์ จัดแพกเกจทัวร์เที่ยวประเทสไทย และแบ่งรายได้ช่วยชาวญี่ปุ่น โดยคาดว่า เดือนพ.ค.ซึ่งเป็นโกลเด้นวีค จะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาเที่ยวประเทศไทย 70%จากช่วงปกติ โดย 3 เดือนแรกปีนี้ชาวญี่ปุ่นเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 323,435 คน เพิ่มขึ้น 5.8% จากปีก่อน
นอกจากนั้น ที่ประชุมบอร์ด ยังรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากสนามบินสุวรรณภูมิเทียบกับปีก่อน ระหว่างวันที่ 1-26 เม.ย.54 มีจำนวน 898,328 คน เพิ่มขึ้น 44.26% ที่สนามบินภูเก็ต 1-23 เม.ย.54 มีจำนวน 123,934 คน เพิ่มขึ้น 30.95% ส่วนภาพรวมทุกด่าน ระหว่าง ม.ค.-มี.ค. 54 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 5,356,935 คน เพิ่มขึ้น 14.96% ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวประจำปี 2553 มีจำนวน 15,936,400 คน เพิ่มจากปี 2552 ราว 12.63% มีรายได้592,794.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.18% มีวันพักเฉลี่ย 9.12 วัน เพิ่มขึ้น 0.13% ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวัน 4,077 บาท เพิ่มขึ้น 1.68%
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) รับทราบ แนวทางการติดตามการฟื้นฟูและผลกระทบ จากปัญหาทางการเมืองและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตามที่ ททท.ได้นำเสนอ โดยรายงานแจ้งว่า ผลจากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา บริเวณชายแดน ซึ่งสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ จึงต้องเฝ้าติดตามใกล้ชิด และ ยังไม่สามารถประเมินผลความเสียหายที่เกิดกับธุรกิจท่องเที่ยวได้
แต่เบื้องต้น สำนักงาน ททท. จ.สุรินทร์ รายงานว่า ผลจากการปะทะ ทำให้ นักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ที่จะเดินทางเพื่อข้ามไปเที่ยว นครวัด นครธม ยกเลิกการเดินทาง 100% และ พื้นที่ปราสาทตาเมือนซึ่งยังไม่ปลอดภัย นอกจากนั้นผลของการปิด 2 ด่าน ชายแดน คือ ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ และ ด่านช่องสงัม จ.ศรีสะเกษ ทำให้ คนไทยที่จะเดินทางไปเล่นคาสิโน ก็ยกเลิกทั้งหมด
รวมถึงการชอปปิ้งตลาดการค้าชายแดน ก็ต้องปิดชั่วคราวด้วย ขณะที่อัตราเข้าพักโรงแรม ในพื้นที่ดังกล่าวกลับสูงขึ้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่เข้าไปปฎิบัติงาน เข้าไปใช้บริการ โดยรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ผลจากการปะทะทำให้สูญเสียรายได้จากการค้าชายแดนเฉลี่ยวันละ 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ททท.จะเร่งสร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย ว่ายังมีอีกหลายแหล่งท่องเที่ยวที่ยังเดินทางได้ตามปกติ เพราะอยู่ห่างไกลจุดปะทะ เช่น ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทพนมรุ้ง และหมู่บ้านช้าง สุรินทร์ เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลได้จาก ออนไลน์ ไครซีท ซึ่ง ททท.จะขึ้นแผนที่แหล่งท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าว เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นได้ชัดเจนว่า แหล่งท่องเที่ยวใดอยู่ที่ใด
ส่วนการฟื้นฟูท่องเที่ยวภาคใต้หลังประสบอุทกภัย จะใช้งบ 6 ล้านบาท จัด 3 กิจกรรม ในระยะเวลา 4 เดือน (เม.ย.-ก.ค.54) ได้แก่ 1. ฟื้นบรรยากาศท่องเที่ยวผ่านการสื่อสารระบบออนไลน์และออฟไลน์ 2.สนับสนุนกิจกรรมการตลาด เช่น เปิด 150 บูธ ที่ งาน “มหัศจรรย์ สองฝั่งทะเลใต้” 26-29 พ.ค.ศกนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ให้แก่ผู้ประกอบการภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบออกร้านฟรี, ร่วมมือ สมาคมท่องเที่ยวสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้ เพื่อ 3.แผนฟื้นฟูการเดินทางในประเทศ เช่น จัดกิจกรรม กอล์ฟ ชาเรนจ์ ,โครงการนั่งรถไฟ กอดเมืองใต้
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น เตรียม จัด 3 กิจกรรม เพื่อฟื้นฟู ได้แก่ จัดแฟมทริปเชิญบริษัททัวร์ด้านพำนักระยะยาวสำรวจพื้นที่ประเทศไทย11-15 พ.ค.54เชิญทัวร์ 60 ราย ร่วมงาน ไทยแลนด์ ทราเวลมาร์ท มิ.ย.นี้ และ ร่วมโฮลเซลเลอร์ จัดแพกเกจทัวร์เที่ยวประเทสไทย และแบ่งรายได้ช่วยชาวญี่ปุ่น โดยคาดว่า เดือนพ.ค.ซึ่งเป็นโกลเด้นวีค จะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาเที่ยวประเทศไทย 70%จากช่วงปกติ โดย 3 เดือนแรกปีนี้ชาวญี่ปุ่นเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 323,435 คน เพิ่มขึ้น 5.8% จากปีก่อน
นอกจากนั้น ที่ประชุมบอร์ด ยังรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากสนามบินสุวรรณภูมิเทียบกับปีก่อน ระหว่างวันที่ 1-26 เม.ย.54 มีจำนวน 898,328 คน เพิ่มขึ้น 44.26% ที่สนามบินภูเก็ต 1-23 เม.ย.54 มีจำนวน 123,934 คน เพิ่มขึ้น 30.95% ส่วนภาพรวมทุกด่าน ระหว่าง ม.ค.-มี.ค. 54 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 5,356,935 คน เพิ่มขึ้น 14.96% ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวประจำปี 2553 มีจำนวน 15,936,400 คน เพิ่มจากปี 2552 ราว 12.63% มีรายได้592,794.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.18% มีวันพักเฉลี่ย 9.12 วัน เพิ่มขึ้น 0.13% ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวัน 4,077 บาท เพิ่มขึ้น 1.68%
