ASTVผู้จัดการรายวัน - DRT ทุ่มงบ 114 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 142 ไร่ ขยายพื้นที่โรงงานเพิ่ม หวังแก้ปัญหาพื้นที่โรงงานเดิมใช้เต็มพิกัดสต๊อกสินค้าได้เพียง 15 วัน จากปกติ 30 วัน ทำเสียโอกาสขายสินค้าช่วงฤดูขาย 40-50 ล้านบาท
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ได้เร่งแก้ปัญหาการใช้พื้นที่โรงงานแห่งเดิมที่มีขนาดพื้นที่ 147 ไร่ ปัจจุบันใช้พื้นที่โรงงานเต็ม 100% และไม่สามารถขยายพื้นที่ได้อีก โดยปัจจุบันมีสายการผลิต 14 สาย ทั้งกลุ่มกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์, กระเบื้องคอนกรีต และผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่องในการเพิ่มกำลังการผลิตและขยายโอกาสการขายสินค้ารองรับการเติบโตและความต้องการสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าว ได้ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องสูญเสียโอกาสขายสินค้าในช่วงฤดูกาลขายถึง 40-50 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพื่อรอการขายไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้บริษัทฯ สามารถสต็อกสินค้าเพื่อรอการขายได้เพียง 15 วัน จากเดิมต้องสต็อกสินค้า 30 วัน จึงจะเพียงพอต่อความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภค
“พื้นที่โรงงานแห่งเดิมเราใช้พื้นที่เต็มจนไม่สามารถขยายพื้นที่ได้อีก ทำให้เราไม่สามารถผลิตสินค้าบางรายการเพื่อสต็อกสินค้าได้ทันต่อความต้องการซื้อ เนื่องจากพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้ามีไม่เพียงพอ ทำให้เราต้องเร่งแก้ไขปัญหาด้วยการจัดหาพื้นที่โรงงานแห่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสทางการขายและรองรับการเติบโตทางธุรกิจ” นายสาธิต กล่าว
ดังนั้น บริษัทฯ ได้ตัดสินใจใช้เงินลงทุนในราว 114 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินจำนวน 142 ไร่ ที่ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามโรงงานแห่งเดิม เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นผลิตภัณฑ์ตราเพชร ซึ่งมีแผนขยายธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาการบริหารจัดการเรื่องของพื้นที่จัดเก็บสินค้าและสต็อกสินค้าคงคลังเพื่อรอการขายให้ได้ 30 วัน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการสินค้าของลูกค้า ซึ่งจะลดความสูญเสียโอกาสทางการขายและสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าของบริษัทฯ ให้มากขึ้น โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดวางผังการใช้พื้นที่ของโรงงานแห่งใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้สอยและเอื้อต่อการขยายธุรกิจให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การใช้ประโยชน์ของพื้นที่โรงงานแห่งใหม่ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจและสร้างรายได้ทางธุรกิจให้มีการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อรองรับกับอัตราการเติบโตของตลาดวัสดุก่อสร้างในอนาคต
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ได้เร่งแก้ปัญหาการใช้พื้นที่โรงงานแห่งเดิมที่มีขนาดพื้นที่ 147 ไร่ ปัจจุบันใช้พื้นที่โรงงานเต็ม 100% และไม่สามารถขยายพื้นที่ได้อีก โดยปัจจุบันมีสายการผลิต 14 สาย ทั้งกลุ่มกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์, กระเบื้องคอนกรีต และผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่องในการเพิ่มกำลังการผลิตและขยายโอกาสการขายสินค้ารองรับการเติบโตและความต้องการสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าว ได้ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องสูญเสียโอกาสขายสินค้าในช่วงฤดูกาลขายถึง 40-50 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพื่อรอการขายไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้บริษัทฯ สามารถสต็อกสินค้าเพื่อรอการขายได้เพียง 15 วัน จากเดิมต้องสต็อกสินค้า 30 วัน จึงจะเพียงพอต่อความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภค
“พื้นที่โรงงานแห่งเดิมเราใช้พื้นที่เต็มจนไม่สามารถขยายพื้นที่ได้อีก ทำให้เราไม่สามารถผลิตสินค้าบางรายการเพื่อสต็อกสินค้าได้ทันต่อความต้องการซื้อ เนื่องจากพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้ามีไม่เพียงพอ ทำให้เราต้องเร่งแก้ไขปัญหาด้วยการจัดหาพื้นที่โรงงานแห่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสทางการขายและรองรับการเติบโตทางธุรกิจ” นายสาธิต กล่าว
ดังนั้น บริษัทฯ ได้ตัดสินใจใช้เงินลงทุนในราว 114 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินจำนวน 142 ไร่ ที่ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามโรงงานแห่งเดิม เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นผลิตภัณฑ์ตราเพชร ซึ่งมีแผนขยายธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาการบริหารจัดการเรื่องของพื้นที่จัดเก็บสินค้าและสต็อกสินค้าคงคลังเพื่อรอการขายให้ได้ 30 วัน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการสินค้าของลูกค้า ซึ่งจะลดความสูญเสียโอกาสทางการขายและสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าของบริษัทฯ ให้มากขึ้น โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดวางผังการใช้พื้นที่ของโรงงานแห่งใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้สอยและเอื้อต่อการขยายธุรกิจให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การใช้ประโยชน์ของพื้นที่โรงงานแห่งใหม่ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจและสร้างรายได้ทางธุรกิจให้มีการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อรองรับกับอัตราการเติบโตของตลาดวัสดุก่อสร้างในอนาคต