เอเอฟพี - ลาวต้องเผชิญกับแรงกดดันจากประเทศเพื่อนบ้านในเมื่อวานนี้ (19 ) ที่ต้องการให้ชะลอการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขง ภายหลังการเจรจาหารือที่ยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ เกี่ยวกับโครงการซึ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เจ้าหน้าที่จากไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ได้ประชุมกันที่กรุงเวียงจันทน์ วานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการของรัฐบาลลาวที่จะก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าไซยะบุรี ขึ้นทางภาคเหนือของประเทศ โครงการนี้มีมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์ และมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,260 เมกะวัตต์
คำแถลงที่ออกมาหลังการประชุมระบุว่า กัมพูชา ไทย และเวียดนาม ยังคงวิตกเกี่ยวกับการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการนี้ โดยเห็นว่ายังคงศึกษาไม่เพียงพอ ในขณะที่ลาวระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหารือในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมอีก
ทางด้านเวียดนามได้แสดงความกังวลเป็นอย่างมากในประเด็นยังมีการศึกษาผลกระทบไม่เพียงพอเช่นนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้เลื่อนโครงการไปอย่างน้อย 10 ปี
โครงการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี จะเป็นเขื่อนแรกจากข้อเสนอที่จะสร้างกันทั้งหมด 11 เขื่อน บนแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยที่ปัจจุบันประเทศทั้ง 4 ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ได้มีข้อกำหนดว่าหากชาติใดจะทำโครงการที่มีผลกระทบต่อชาติอื่น ซึ่งรวมถึงโครงการเขื่อนไซยะบุรีนี้ ให้หารือกันในระดับรัฐมนตรีก่อน เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่จะร่วมมือพัฒนาเส้นทางน้ำอย่างยั่งยืน
แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะก่อสร้างเขื่อนต่อไปหรือไม่จะขึ้นอยู่กับลาว ซึ่งเวลานี้ดูเหมือนมุ่งมั่นที่จะดำเนินการต่อ โดยแม้กระทั่งก่อนหน้าการประชุมครั้งนี้ สื่อทางการของลาวก็รายงานคาดการณ์ว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้ และว่ารัฐบาลลาวมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าโครงการนี้หรือไม่
"ผู้พัฒนาโครงการได้เริ่มต้นสร้างถนนไปยังพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนแล้ว ขณะที่รัฐบาลกำลังพิจารณาข้อตกลงสัมปทาน" หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์รายงานในฉบับวานนี้ (19) และว่าผู้พัฒนาคาดหวังจะเริ่มต้นการสร้างเขื่อนไฟฟ้าไซยะบุรีบนแม่น้ำโขงได้ในอนาคตอันใกล้ โดยจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 8 ปี
ก่อนหน้านี้ กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ WWF ออกมาเตือนว่าปลาบึก ที่เป็นหนึ่งในปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาจเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์หากแผนการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าบนแม่น้ำโขงยังคงเดินหน้าต่อไป
บรรยายภาพ Laos Dam pic
ภาพแฟ้ม 27 มี.ค.2010 ราษฎรชาวลาวยกยออยู่ใกล้ๆ เรือหาปลา ที่จอดอยู่ริมแม่น้ำโขงบริเวณบ้านธาตุขาว นครเวียงจันทน์ ที่นี่เป็นบริเวณที่น้ำในแม่น้ำโขงลึกที่สุดช่วงหนึ่งในตอนที่ไหลผ่านเมืองหลวงของลาว หน้าแล้งปีที่แล้วบริษัทน้ำประปานครเวียงจันทน์ประสบปัญหาหนักเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำลดต่ำลงกว่าปรกติ ทำให้ต้องนำเครื่องสูบน้ำลงไปถึงบริเวณกลางแม่น้ำและขุดดินเลนเป็นทางให้น้ำไหลเข้าไปจึงสามารถนำขึ้นไปใช้ได้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดนับตั้งแต่จีนสร้างเขื่อนหลายแห่งกั้นแม่น้ำโขงตอนบน ทว่าคราวนี้ลาวจะสร้างเองบ้าง ท่ามกลางความกังวลของเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่จากไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ได้ประชุมกันที่กรุงเวียงจันทน์ วานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการของรัฐบาลลาวที่จะก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าไซยะบุรี ขึ้นทางภาคเหนือของประเทศ โครงการนี้มีมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์ และมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,260 เมกะวัตต์
คำแถลงที่ออกมาหลังการประชุมระบุว่า กัมพูชา ไทย และเวียดนาม ยังคงวิตกเกี่ยวกับการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการนี้ โดยเห็นว่ายังคงศึกษาไม่เพียงพอ ในขณะที่ลาวระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหารือในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมอีก
ทางด้านเวียดนามได้แสดงความกังวลเป็นอย่างมากในประเด็นยังมีการศึกษาผลกระทบไม่เพียงพอเช่นนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้เลื่อนโครงการไปอย่างน้อย 10 ปี
โครงการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี จะเป็นเขื่อนแรกจากข้อเสนอที่จะสร้างกันทั้งหมด 11 เขื่อน บนแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยที่ปัจจุบันประเทศทั้ง 4 ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ได้มีข้อกำหนดว่าหากชาติใดจะทำโครงการที่มีผลกระทบต่อชาติอื่น ซึ่งรวมถึงโครงการเขื่อนไซยะบุรีนี้ ให้หารือกันในระดับรัฐมนตรีก่อน เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่จะร่วมมือพัฒนาเส้นทางน้ำอย่างยั่งยืน
แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะก่อสร้างเขื่อนต่อไปหรือไม่จะขึ้นอยู่กับลาว ซึ่งเวลานี้ดูเหมือนมุ่งมั่นที่จะดำเนินการต่อ โดยแม้กระทั่งก่อนหน้าการประชุมครั้งนี้ สื่อทางการของลาวก็รายงานคาดการณ์ว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้ และว่ารัฐบาลลาวมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าโครงการนี้หรือไม่
"ผู้พัฒนาโครงการได้เริ่มต้นสร้างถนนไปยังพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนแล้ว ขณะที่รัฐบาลกำลังพิจารณาข้อตกลงสัมปทาน" หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์รายงานในฉบับวานนี้ (19) และว่าผู้พัฒนาคาดหวังจะเริ่มต้นการสร้างเขื่อนไฟฟ้าไซยะบุรีบนแม่น้ำโขงได้ในอนาคตอันใกล้ โดยจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 8 ปี
ก่อนหน้านี้ กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ WWF ออกมาเตือนว่าปลาบึก ที่เป็นหนึ่งในปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาจเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์หากแผนการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าบนแม่น้ำโขงยังคงเดินหน้าต่อไป
บรรยายภาพ Laos Dam pic
ภาพแฟ้ม 27 มี.ค.2010 ราษฎรชาวลาวยกยออยู่ใกล้ๆ เรือหาปลา ที่จอดอยู่ริมแม่น้ำโขงบริเวณบ้านธาตุขาว นครเวียงจันทน์ ที่นี่เป็นบริเวณที่น้ำในแม่น้ำโขงลึกที่สุดช่วงหนึ่งในตอนที่ไหลผ่านเมืองหลวงของลาว หน้าแล้งปีที่แล้วบริษัทน้ำประปานครเวียงจันทน์ประสบปัญหาหนักเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำลดต่ำลงกว่าปรกติ ทำให้ต้องนำเครื่องสูบน้ำลงไปถึงบริเวณกลางแม่น้ำและขุดดินเลนเป็นทางให้น้ำไหลเข้าไปจึงสามารถนำขึ้นไปใช้ได้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดนับตั้งแต่จีนสร้างเขื่อนหลายแห่งกั้นแม่น้ำโขงตอนบน ทว่าคราวนี้ลาวจะสร้างเองบ้าง ท่ามกลางความกังวลของเพื่อนบ้าน
