ก่อนอื่น ขอย้อนหลังแต่ไม่ยาวนักกับ “สวัสดีปีใหม่สงกรานต์” ซึ่งนับเป็นประเพณีชาวไทยร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์กับชาวเอเชียถ้วนหน้า ที่ว่าไปแล้วเท่ากับเป็นการฉลองปีใหม่เช่นเดียวกัน
นับตั้งแต่ลัทธิพราหมณ์ ศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธ มีอิทธิพลแพร่ขยายสู่ทวีปเอเชียนับหลายพันปี “การสาดน้ำ” ช่วงเดือนเมษายน ซึ่งนับเป็นฤดูร้อนของภูมิภาคเอเชีย ต่างนับถือประเพณีนี้เป็นประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิมเฉลิมฉลองปีใหม่ เนื่องด้วยเป็นวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 ที่เราต้องยอมรับความจริงว่า ทั้งศาสนาฮินดู ลัทธิพราหมณ์ ศาสนาพุทธ มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันอย่างแน่นแฟ้น
ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว กลุ่มประเทศในแถบอาเซียน (Sean) นั้น ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์กันทั้งมวล ตั้งแต่ประเทศไทย พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม เลยไปจนถึง อินเดีย ศรีลังกา “พิธีรดน้ำดำหัว” เป็นประเพณีหลัก ส่วนเนปาลนั้นใช้แป้งสีส้มสาดกัน ส่วนประเทศอื่นนั้นในแถบเอเชีย น่าจะมีเทศกาลนี้เฉลิมฉลองกัน
ฤดูร้อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นฤดูที่ประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรเป็นฤดูร้อนสูงสุด ดังนั้น “น้ำ” จึงเป็นกลไกสำคัญที่ดับร้อน แต่ในขณะเดียวกัน “พิธีรดน้ำดำหัว” ซึ่งใช้น้ำเป็นสื่อกลางสำคัญในการร่วมพิธีขอพรผู้ใหญ่ ที่น่าจะสื่อความหมายระหว่าง “อดีต-อนาคต” ได้ ทั้งนี้ นั่นคือ “ความเชื่อ”
อย่างไรก็ตาม “น้ำ” ใช้นำมาประกอบพิธีทางศาสนาเยอะพอสมควร ไม่ว่า “พิธีแบบท์ไทส์ (Baptize)” หรือ “การกรวดน้ำ” หรือ “การรดมือพิธีแต่งงาน” ซึ่งหมายความว่า “น้ำ” อาจจะแปลความหมายถึง “ความบริสุทธิ์” และ “ความร่มเย็น” เพราะฉะนั้น “น้ำ” จึงเป็น “สื่อกลาง” สำหรับทุกกรณี
การเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การรณรงค์ของทางราชการ “เมาไม่ขับ” ช่วง “7 วันอันตราย” มีผู้เสียชีวิตไปแล้วประมาณเกือบ 300 ชีวิต ซึ่งน่าจะน้อยกว่าปี 2553 ส่อสัญญาณว่า “ตำรวจไทย” มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลดีกว่าเดิม ในการตรวจตราและเอาจริงเอาจัง แต่ก็น่าเสียดายที่มีดาบตำรวจเสียชีวิตหนึ่งรายและคนขับรถแท็กซี่หนึ่งราย จากการวิสามัญฆาตกรรมของหนุ่มเสพยาบ้าที่ขับรถวนเวียนอาละวาดทั่วกรุง!
นางสงกรานต์ปีนี้ชื่อ กิริณีเทวี ที่มือซ้ายถือขอ มือขวาถือปืน ส่งสัญญาณว่าปี 2554 ปีเถาะนี้ น่าจะมีอะไรสำแดงฤทธิ์เดชในทางรุนแรงค่อนข้างแน่นอน จนบรรดานักโหราจารย์ทั้งหลายต่างทำนายทายทักว่าปลายปี 2554 นี้ อาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงได้ ไม่ว่าทางสังคมกับการเมือง ส่วนเศรษฐกิจนั้น ไม่ต้องพูดถึง เรียกว่า “โทรมถ้วนหน้า” ไม่ว่า ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เลยไปจนถึงสหรัฐอเมริกา
ส่วนประเทศจีนนั้น อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ น่าจะเป็น “สองตัวเลข” กล่าวคือ ร้อยละ 11-12 อย่างแน่นอน จริงๆ แล้วกลุ่มประเทศเศรษฐีใหม่ที่ปัจจุบันเรียกขานว่า “Brick” ที่แปลว่า “ก้อนอิฐ” เป็นคำย่อมาจาก “B = Brasil R = Russia I = India C = China และ K = เกาหลีใต้” ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ “จีดีพี (GDP)” น่าจะเติบโตตั้งแต่ร้อยละ 8-11
แต่ในขณะเดียวกัน ซีกโลกด้าน “กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU)” ต่างประสบกับ “ปัญหาหนี้สาธารณะ” กันถ้วนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ “PIIGS” ที่ประกอบไปด้วย “P = Portugal, I = Ireland, I = Italy, G = Greeks และ S = Spain” โดยที่ประเทศโปรตุเกส (Portugal) ได้รับการช่วยเหลือจาก “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)” เรียบร้อยแล้ว เท่าที่ทราบจะมี 2 ประเทศ คือ โปรตุเกสกับไอร์แลนด์เดินเข้าสู่กองทุนการเงินระหว่างประเทศไปแล้ว
ส่วนอีกประมาณ 20 กว่าประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรต้องเอาเงินของสกุลยูโรเข้าโอบอุ้มทั้งสองประเทศ และอาจมากกว่านี้ไปเรียบร้อยแล้ว พูดง่ายๆ คือ “เตี้ยอุ้มค่อม” ที่หมายความว่า “ต่างฝ่ายต่างยากจน!” กันถ้วนหน้า จีดีพีปีนี้ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป น่าจะอยู่ที่ระดับสูงสุด ภาพรวมไม่น่าเกินร้อยละ 2.2-2.5 เท่านั้น
ด้านการเมืองบ้านเรานั้น เดินหน้าสู่ “โหมดเลือกตั้ง” เรียบร้อยตั้งแต่สัปดาห์นี้ “กฎหมายลูก 3 ฉบับ” กำลังเดินผ่านวุฒิสภา และน่าจะผ่านศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คงไม่น่าเกินสัปดาห์หน้าแน่นอน
กรณียุบสภาไม่น่าเกิน 6-9 พฤษภาคม นี้ ดังที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้คำมั่นสัญญาไว้ ส่วน “เลือกตั้ง” เห็นตั้งใจว่าน่าจะปลายเดือนมิถุนายน เสร็จแล้วรออีก 30 วันประกาศผล “รัฐบาลใหม่” น่าจะเข้ามาบริหารประเทศชาติได้ ราวปลายเดือนกรกฎาคม อย่างช้าสุดก็เดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม “คำถาม” เกิดขึ้นมากมายว่า “จะมีการเลือกตั้งหรือไม่!” ซึ่งก็ขอฟันธงได้เลยว่า “เลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน!” เพียงแต่ว่า “กลไก-ระบบ” นั้น น่าจะมี “การสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน” กันอย่างมาก ไม่ต้องดูอื่นไกล แค่ “สมาชิกวุฒิสภาสรรหา 73 คน” ก็น่าจะเข้าใจชัดเจนกันแล้ว
มีการทำนายทายทักว่า ปี 2554-2555 น่าจะเป็น “ปีแห่งความดุเดือดเลือดพล่าน” ทั้งด้าน “ภัยธรรมชาติ” เท่านั้นยังไม่พอ “ข้าวยากหมากแพง” ปี 2554-2555 น่าจะสูงสุดเพิ่มอีกร้อยละ 15-20 กันเลยทีเดียว
ด้านการเมืองนั้น รับรองได้ว่า “ไม่นิ่งแน่!” ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล น่าจะมีการประท้วงเคลื่อนไหว “กีฬาสี” เกิดแน่นอน ทั้งสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน ดีที่สุดน่าจะเป็นการรวมตัวกันตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” สัก 2-3 ปี ให้ “พื้นที่อำนาจ” แก่กัน ตลอดจน “รู้รักสามัคคี” น่าจะดีที่สุด
ทั้งนี้ “ประชาธิปไตย” ยังคงเกิดขึ้นอยู่ ขอให้ทุกคนมีความสุข ความเจริญ อยู่รอดปลอดภัยตลอดปีนี้ด้วย!
นับตั้งแต่ลัทธิพราหมณ์ ศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธ มีอิทธิพลแพร่ขยายสู่ทวีปเอเชียนับหลายพันปี “การสาดน้ำ” ช่วงเดือนเมษายน ซึ่งนับเป็นฤดูร้อนของภูมิภาคเอเชีย ต่างนับถือประเพณีนี้เป็นประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิมเฉลิมฉลองปีใหม่ เนื่องด้วยเป็นวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 ที่เราต้องยอมรับความจริงว่า ทั้งศาสนาฮินดู ลัทธิพราหมณ์ ศาสนาพุทธ มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันอย่างแน่นแฟ้น
ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว กลุ่มประเทศในแถบอาเซียน (Sean) นั้น ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์กันทั้งมวล ตั้งแต่ประเทศไทย พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม เลยไปจนถึง อินเดีย ศรีลังกา “พิธีรดน้ำดำหัว” เป็นประเพณีหลัก ส่วนเนปาลนั้นใช้แป้งสีส้มสาดกัน ส่วนประเทศอื่นนั้นในแถบเอเชีย น่าจะมีเทศกาลนี้เฉลิมฉลองกัน
ฤดูร้อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นฤดูที่ประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรเป็นฤดูร้อนสูงสุด ดังนั้น “น้ำ” จึงเป็นกลไกสำคัญที่ดับร้อน แต่ในขณะเดียวกัน “พิธีรดน้ำดำหัว” ซึ่งใช้น้ำเป็นสื่อกลางสำคัญในการร่วมพิธีขอพรผู้ใหญ่ ที่น่าจะสื่อความหมายระหว่าง “อดีต-อนาคต” ได้ ทั้งนี้ นั่นคือ “ความเชื่อ”
อย่างไรก็ตาม “น้ำ” ใช้นำมาประกอบพิธีทางศาสนาเยอะพอสมควร ไม่ว่า “พิธีแบบท์ไทส์ (Baptize)” หรือ “การกรวดน้ำ” หรือ “การรดมือพิธีแต่งงาน” ซึ่งหมายความว่า “น้ำ” อาจจะแปลความหมายถึง “ความบริสุทธิ์” และ “ความร่มเย็น” เพราะฉะนั้น “น้ำ” จึงเป็น “สื่อกลาง” สำหรับทุกกรณี
การเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การรณรงค์ของทางราชการ “เมาไม่ขับ” ช่วง “7 วันอันตราย” มีผู้เสียชีวิตไปแล้วประมาณเกือบ 300 ชีวิต ซึ่งน่าจะน้อยกว่าปี 2553 ส่อสัญญาณว่า “ตำรวจไทย” มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลดีกว่าเดิม ในการตรวจตราและเอาจริงเอาจัง แต่ก็น่าเสียดายที่มีดาบตำรวจเสียชีวิตหนึ่งรายและคนขับรถแท็กซี่หนึ่งราย จากการวิสามัญฆาตกรรมของหนุ่มเสพยาบ้าที่ขับรถวนเวียนอาละวาดทั่วกรุง!
นางสงกรานต์ปีนี้ชื่อ กิริณีเทวี ที่มือซ้ายถือขอ มือขวาถือปืน ส่งสัญญาณว่าปี 2554 ปีเถาะนี้ น่าจะมีอะไรสำแดงฤทธิ์เดชในทางรุนแรงค่อนข้างแน่นอน จนบรรดานักโหราจารย์ทั้งหลายต่างทำนายทายทักว่าปลายปี 2554 นี้ อาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงได้ ไม่ว่าทางสังคมกับการเมือง ส่วนเศรษฐกิจนั้น ไม่ต้องพูดถึง เรียกว่า “โทรมถ้วนหน้า” ไม่ว่า ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เลยไปจนถึงสหรัฐอเมริกา
ส่วนประเทศจีนนั้น อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ น่าจะเป็น “สองตัวเลข” กล่าวคือ ร้อยละ 11-12 อย่างแน่นอน จริงๆ แล้วกลุ่มประเทศเศรษฐีใหม่ที่ปัจจุบันเรียกขานว่า “Brick” ที่แปลว่า “ก้อนอิฐ” เป็นคำย่อมาจาก “B = Brasil R = Russia I = India C = China และ K = เกาหลีใต้” ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ “จีดีพี (GDP)” น่าจะเติบโตตั้งแต่ร้อยละ 8-11
แต่ในขณะเดียวกัน ซีกโลกด้าน “กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU)” ต่างประสบกับ “ปัญหาหนี้สาธารณะ” กันถ้วนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ “PIIGS” ที่ประกอบไปด้วย “P = Portugal, I = Ireland, I = Italy, G = Greeks และ S = Spain” โดยที่ประเทศโปรตุเกส (Portugal) ได้รับการช่วยเหลือจาก “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)” เรียบร้อยแล้ว เท่าที่ทราบจะมี 2 ประเทศ คือ โปรตุเกสกับไอร์แลนด์เดินเข้าสู่กองทุนการเงินระหว่างประเทศไปแล้ว
ส่วนอีกประมาณ 20 กว่าประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรต้องเอาเงินของสกุลยูโรเข้าโอบอุ้มทั้งสองประเทศ และอาจมากกว่านี้ไปเรียบร้อยแล้ว พูดง่ายๆ คือ “เตี้ยอุ้มค่อม” ที่หมายความว่า “ต่างฝ่ายต่างยากจน!” กันถ้วนหน้า จีดีพีปีนี้ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป น่าจะอยู่ที่ระดับสูงสุด ภาพรวมไม่น่าเกินร้อยละ 2.2-2.5 เท่านั้น
ด้านการเมืองบ้านเรานั้น เดินหน้าสู่ “โหมดเลือกตั้ง” เรียบร้อยตั้งแต่สัปดาห์นี้ “กฎหมายลูก 3 ฉบับ” กำลังเดินผ่านวุฒิสภา และน่าจะผ่านศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คงไม่น่าเกินสัปดาห์หน้าแน่นอน
กรณียุบสภาไม่น่าเกิน 6-9 พฤษภาคม นี้ ดังที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้คำมั่นสัญญาไว้ ส่วน “เลือกตั้ง” เห็นตั้งใจว่าน่าจะปลายเดือนมิถุนายน เสร็จแล้วรออีก 30 วันประกาศผล “รัฐบาลใหม่” น่าจะเข้ามาบริหารประเทศชาติได้ ราวปลายเดือนกรกฎาคม อย่างช้าสุดก็เดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม “คำถาม” เกิดขึ้นมากมายว่า “จะมีการเลือกตั้งหรือไม่!” ซึ่งก็ขอฟันธงได้เลยว่า “เลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน!” เพียงแต่ว่า “กลไก-ระบบ” นั้น น่าจะมี “การสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน” กันอย่างมาก ไม่ต้องดูอื่นไกล แค่ “สมาชิกวุฒิสภาสรรหา 73 คน” ก็น่าจะเข้าใจชัดเจนกันแล้ว
มีการทำนายทายทักว่า ปี 2554-2555 น่าจะเป็น “ปีแห่งความดุเดือดเลือดพล่าน” ทั้งด้าน “ภัยธรรมชาติ” เท่านั้นยังไม่พอ “ข้าวยากหมากแพง” ปี 2554-2555 น่าจะสูงสุดเพิ่มอีกร้อยละ 15-20 กันเลยทีเดียว
ด้านการเมืองนั้น รับรองได้ว่า “ไม่นิ่งแน่!” ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล น่าจะมีการประท้วงเคลื่อนไหว “กีฬาสี” เกิดแน่นอน ทั้งสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน ดีที่สุดน่าจะเป็นการรวมตัวกันตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” สัก 2-3 ปี ให้ “พื้นที่อำนาจ” แก่กัน ตลอดจน “รู้รักสามัคคี” น่าจะดีที่สุด
ทั้งนี้ “ประชาธิปไตย” ยังคงเกิดขึ้นอยู่ ขอให้ทุกคนมีความสุข ความเจริญ อยู่รอดปลอดภัยตลอดปีนี้ด้วย!