ASTVผู้จัดการรายวัน - สงกรานต์เลือด 3 วันแรกเกิดอุบัติเหตุรวมแล้วกว่า 1,600 ครั้ง ยอดผู้เสียชีวิต 116 ราย กรุงเทพฯ นำโด่งยอดตายมากสุ 7 ราย สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เมาสุรา ร้อยละ 45.16 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จักรยานยนต์ ร้อยละ 82.72 ด้าน “อภิสิทธิ์” ส่งสารชวนคนไทยร่วมใจสร้างสรรค์ ยึดประราชดำริดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
วานนี้ (14 เม.ย.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสรุปสถานการณ์วันที่ 13 เม.ย. ในการรณรงค์ "สงกรานต์ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์" พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 733 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 166 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 29.28 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้วลดลง 137 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 15.75 ผู้เสียชีวิต 57 ราย เทียบกับวันที่ 3 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.62 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลง 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.39 ผู้บาดเจ็บ 784 ราย เทียบกับวันที่ 3 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 171 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.90 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้วลดลง 145 ราย คิดเป็นร้อยละ 15.61
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เมาสุรา ร้อยละ 45.16 ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 32.70 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จักรยานยนต์ ร้อยละ 82.72 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 57.16 บนถนนอบต.และหมู่บ้าน ร้อยละ 33.15 ทางหลวงแผ่นดินร้อยละ 32.06 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุคือ 16.01-20.00 น. ร้อยละ 32.88 ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อายุ 20-49 ปี ร้อยละ 55.41
ขณะที่ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช 40 ครั้ง มหาสารคาม 27 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ กทม.และขอนแก่น จังหวัดละ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช 42 ราย เชียงราย 31 ราย มีการตั้งจุดตรวจ 2,514 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 70,317 นาย เรียกตรวจพาหนะ 75,9774 คัน โดยดำเนินคดี 97,391 ราย ความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 31,683 ราย ไม่มีใบขับขี่ 27,860 ราย
ส่วนยอดอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 1,626 ครั้ง ลดลงจากปีที่แล้ว 368 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 18.46 ผู้เสียชีวิตรวม 116 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 50 ราย คิดเป็นร้อยละ 30.12 ผู้บาดเจ็บรวม 1,760 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 389 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.10 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช 78 ครั้ง รองลงมา เชียงราย 77 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ กทม. 7 ราย เชียงใหม่ 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดคือ เชียงราย 85 ราย นครศรีธรรมราช 82 ราย
สำหรับสถิติวันที่ 13 เม.ย. มีสถิติเสียชีวิตสูงกว่าวันที่ 11-12 เม.ย. สาเหตุมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำสงกรานต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย และมีอาการเมาสุรา รวมทั้งขับรถเร็ว ส่วนใหญ่ผู้ประสบเหตุเป็นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี คือร้อยละ 30 จึงมีการสั่งการให้แต่ละจังหวัดและตำรวจ ตั้งจุดตรวจให้เข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และสั่งการสรรพาสามิตให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ทั้งนี้ หากเกิดเหตุขึ้น จะมีหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินเข้าไปในพื้นที่ภายใน 10 นาที โทรศัพท์แจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 1669
*** “มาร์ค”แนะยึดแนวศก.พอเพียงถวายในหลวง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสารถึงประชาชนเนื่องในวันแห่งครอบครัว ว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ วันแห่งครอบครัวปีนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมมือร่วมใจกันสร้างสรรค์และพัฒนาครอบครัว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติตามหน้าที่ และบทบาทของตน มอบความรักความอบอุ่นแก่กัน และดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้สังคมไทยเข้มแข็ง และมั่นคงต่อไป
ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายเสริมสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง ด้วยปลูกฝังค่านิยม และจิตสำนึกที่ดีร่วมกับสถาบันทางศาสนา สถาบันศึกษา และสถาบันทางสังคมอื่นๆ เพื่อให้สมาชิกครอบครัวเป็นคนดีมีคุณภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักบทบาทและหน้าที่ของตน อันจะส่งผลให้สถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ และไม่เป็นภาระต่อสังคมในอนาคต รวมถึงมีมาตรการเฝ้าระวังผลกระทบต่างๆ ในสังคมต่อเด็ก และเยาวชน ตลอดจนการสนับสนุนการผลิตสื่อสร้างสรรค์ และเป็นพื้นที่สาธารณะที่ดีให้แก่เด็ก และเยาวชนไทย
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 กำหนดให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปีเป็นวันครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงบทบาทอันยิ่งใหญ่ของสถาบันครอบครัว ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนา และเสริมสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง
วานนี้ (14 เม.ย.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสรุปสถานการณ์วันที่ 13 เม.ย. ในการรณรงค์ "สงกรานต์ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์" พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 733 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 166 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 29.28 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้วลดลง 137 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 15.75 ผู้เสียชีวิต 57 ราย เทียบกับวันที่ 3 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.62 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลง 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.39 ผู้บาดเจ็บ 784 ราย เทียบกับวันที่ 3 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 171 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.90 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้วลดลง 145 ราย คิดเป็นร้อยละ 15.61
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เมาสุรา ร้อยละ 45.16 ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 32.70 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จักรยานยนต์ ร้อยละ 82.72 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 57.16 บนถนนอบต.และหมู่บ้าน ร้อยละ 33.15 ทางหลวงแผ่นดินร้อยละ 32.06 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุคือ 16.01-20.00 น. ร้อยละ 32.88 ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อายุ 20-49 ปี ร้อยละ 55.41
ขณะที่ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช 40 ครั้ง มหาสารคาม 27 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ กทม.และขอนแก่น จังหวัดละ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช 42 ราย เชียงราย 31 ราย มีการตั้งจุดตรวจ 2,514 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 70,317 นาย เรียกตรวจพาหนะ 75,9774 คัน โดยดำเนินคดี 97,391 ราย ความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 31,683 ราย ไม่มีใบขับขี่ 27,860 ราย
ส่วนยอดอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 1,626 ครั้ง ลดลงจากปีที่แล้ว 368 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 18.46 ผู้เสียชีวิตรวม 116 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 50 ราย คิดเป็นร้อยละ 30.12 ผู้บาดเจ็บรวม 1,760 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 389 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.10 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช 78 ครั้ง รองลงมา เชียงราย 77 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ กทม. 7 ราย เชียงใหม่ 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดคือ เชียงราย 85 ราย นครศรีธรรมราช 82 ราย
สำหรับสถิติวันที่ 13 เม.ย. มีสถิติเสียชีวิตสูงกว่าวันที่ 11-12 เม.ย. สาเหตุมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำสงกรานต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย และมีอาการเมาสุรา รวมทั้งขับรถเร็ว ส่วนใหญ่ผู้ประสบเหตุเป็นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี คือร้อยละ 30 จึงมีการสั่งการให้แต่ละจังหวัดและตำรวจ ตั้งจุดตรวจให้เข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และสั่งการสรรพาสามิตให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ทั้งนี้ หากเกิดเหตุขึ้น จะมีหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินเข้าไปในพื้นที่ภายใน 10 นาที โทรศัพท์แจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 1669
*** “มาร์ค”แนะยึดแนวศก.พอเพียงถวายในหลวง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสารถึงประชาชนเนื่องในวันแห่งครอบครัว ว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ วันแห่งครอบครัวปีนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมมือร่วมใจกันสร้างสรรค์และพัฒนาครอบครัว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติตามหน้าที่ และบทบาทของตน มอบความรักความอบอุ่นแก่กัน และดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้สังคมไทยเข้มแข็ง และมั่นคงต่อไป
ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายเสริมสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง ด้วยปลูกฝังค่านิยม และจิตสำนึกที่ดีร่วมกับสถาบันทางศาสนา สถาบันศึกษา และสถาบันทางสังคมอื่นๆ เพื่อให้สมาชิกครอบครัวเป็นคนดีมีคุณภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักบทบาทและหน้าที่ของตน อันจะส่งผลให้สถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ และไม่เป็นภาระต่อสังคมในอนาคต รวมถึงมีมาตรการเฝ้าระวังผลกระทบต่างๆ ในสังคมต่อเด็ก และเยาวชน ตลอดจนการสนับสนุนการผลิตสื่อสร้างสรรค์ และเป็นพื้นที่สาธารณะที่ดีให้แก่เด็ก และเยาวชนไทย
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 กำหนดให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปีเป็นวันครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงบทบาทอันยิ่งใหญ่ของสถาบันครอบครัว ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนา และเสริมสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง
