สินค้าหน้าร้อนไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม เครื่องปรับอากาศ ชุดว่ายน้ำ ปืนฉีดน้ำ และละอื่นๆ ก็หวังที่จะพึ่งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน-พฤษภาคม หรือหน้าร้อนนี้ในการผลักดันยอดขาย เพราะเป็นถดูกาลขายสินค้าที่สำคัญนั่นเอง
ทว่าปีนี้กลับเป็นปีที่สร้างความประหลาดใจให้กับสินค้าหน้าร้อน เพราะอากาศในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งหนาว ทั้งร้อน ทั้งฝนตกสลับกันเป็นว่าเล่น ทำเอา ยอดขายไม่เป็นไปตามที่วางเป้าหมายไว้ ผิดหวังกันเป็นทิวแถว จากสภาพอากาศที่แปรปรวนนั่นเอง
อย่างไรก็ดี พอเข้าเดือนเมษายน หลายค่ายกลับใจชื้นขึ้นมามาก เมื่อพบว่า อากาศเริ่มเข้าสู่ความร้อนแบบปรกติแล้ว ฝนก็ไม่หลงฤดูอีกแล้ว
เครื่องปรับอากาศก็เป็นอีกหนึ่งตลาด จึงมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง
ที่วาดหวังว่า ช่วงซัมเมอร์จะโกยยอดขายได้ดี ด้วยพื้นฐานของสถานการณ์ทุกอย่างที่กลับคืนสู่สภาพปรกติแล้ว
ตลาดเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ในไทยมีมูลค่ามากกว่า 14,500 ล้านบาท หรือมีจำนวนประมาณ 1 ล้านยูนิตต่อปีโดยเฉลี่ย
ทั้งนี้ผู้ประกอบการต่างคาดกันว่าในปีนี้ตลาดแอร์รวมน่าจะมีการเติบโตอย่างต่ำ 8% ทั้งในแง่ของมูลค่าและปริมาณ ไม่ต่างกับปีที่แล้วมากนัก
อย่างไรก็ดี แนวทางที่หลายค่ายใหญ่ต่างมุ่งเน้นแข่งขันกันในปีนี้น่าจะเป็นการผลักดันตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์เข้าตลาดให้มากที่สุด และหวังช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดทั้งแอร์ทั่วไปและแอร์อินเวอร์เตอร์ให้มาทที่สุดเช่นกัน
***ตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์รุ่ง
นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้จัดการธุรกิจเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ผู้ทำตลาดแอร์ซัมซุง มองว่า ปีนี้จะมุ่งเน้นรายใหม่เข้ามาทำตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์มากขึ้น ขณะนี้รายเก่าที่ทำมาก่อนหน้านี้แล้วก็จะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญมากกว่าเดิมอีก ทั้งการออกสินค้ารุ่นใหม่และการทำโปรโมชั่นต่างๆ เพราะมองว่าแนวโน้มของตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์นี้จะมีความต้องการมากขึ้นในอนาคตเพราะคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าแอร์เดิมทั่วไป และความห่วงใยในสุขภาพของผู้บริโภคมากขึ้นและที่สำคัญราคาของแอร์อินเวอร์เตอร์ก็เริ่มมีการปรับลดลงมาแล้วเช่นกันอย่างน้อย 10%
โดยประเมินว่าปีนี้ตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์ จะมีการเติบโตที่ดีจากปีที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนในตลาดแอร์รวมประมาณ 10% เพิ่มเป็น 25% ในปีนี้ ขณะที่ตลาดแอร์ทั่วไป จะมีการเติบโต 20% หรือเพิ่มเป็น 1.2 ล้านเครื่องในปีนี้
***ซัมซุง-แอลจี รุกหนักอินเวอร์เตอร์
สำหรับค่ายซัมซุงได้เปิดตัวแอร์อินเวอร์เตอร์ จำนวน 8 รุ่น ราคาตั้งแต่ 20,900 – 56,400 บาท จากทั้งหมดที่เปิดตัวแอร์ใหม่ในปีนี้ 28 รุ่น โดยที่เหลือเป็นแอร์ระบบมาตรฐานทั่วไป 20 น ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท และได้มีการนำเอา “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย โดยวางงบตลาดแอร์ไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งซัมซุงมั่นใจว่าปีนี้แอร์อินเวอร์เตอร์จะมีส่วนช่วยให้ทำยอดขายรวมเติบโต และจะเพิ่มแชร์ในตลาดแอร์รวมเป็น 22% จากปีที่แล้ว 17%
นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอร์อินเวอร์เตอร์จะเป็นหัวหอกที่สำคัญของแอร์แอลจีในปีนี้ ซึ่งมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ เช่น รุ่นอินเวอร์เตอร์ V4D เทคโนโลยีฟอกอากาศ 4 มิติ
ที่สำคัญเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น ปีนี้แอลจียังได้ขยายกำลังผลิตกลุ่มอินเวอร์เตอร์เป็นหลัก จากการเพิ่มกำลังผลิตรวมจาก 1.5 ล้านเครื่องต่อปีเป็น 2 ล้านเครื่องต่อปี ด้วยงบลงทุน 150 ล้านบาท
โดยงบการตลาดปีนี้ตั้งไว้รวมในกลุ่มแอร์ที่ 520 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ 400 ล้านบาท ทั้งนี้ปีนี้กว่า 400 ล้านบาทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์ ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปีนี้แอลจีจะมีสัดส่วนรายได้มาจากแอร์อินเวอร์เตอร์ประมาณ 20% จากสัดส่วน 12% ในปีที่แล้ว จากปริมาณยอดขายแอร์รวมปีนี้ของแอลจีประมาณ 3.5 แสนเครื่อง เติบโต 32% หรือมีรายได้ 5,000 ล้านบาทจากปีที่แล้วรายได้ 3,800 ล้านบาทในกลุ่มแอร์
**ค่ายอื่นเคลื่อนไหวคึกคัก
ค่ายมิตซูบิชิ จัดงาน ฮิตาชิเซฟวิ่งเซลส์ ถึงวันที่ 15 เมษายนนี้เช่นกัน ในการผลักดันยอดขายกลุ่มดับร้อนเช่น แอร์ ตู้เย็น เป็นต้น โดยในส่วนของแอร์นั้น ก็เร่งปั้นยอดขายรุ่นอินเวอร์เตอร์ใหม่ๆเต็มที่ ทั้งนี้มีโปรโมชั่นหลักคือ การลุ้นโชค 3 ต่อ
ต่อที่ 1 รับส่วนลดสูงสุดที่ 30% ต่อที่ 2 รับของพรีเมียมสูงสุดมูลค่า 4,590 บาท และต่อที่สามลุ้นรับแพคเกจถ่ายภาพ มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท ที่มิลานสตูดิโอ
ทั้งนี้นายมาซาโนริ อูเอมูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า รายได้รวมของปีงบประมาณ 2553 (เม.ย. 52 – มี.ค. 53)เติบโตมากกว่า 15% หรือมีรายได้ 8,100 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยหลักๆมาจากการเติบโตของกลุ่มเครื่องปรับอากาศ
ขณะที่ในปีงบประมาณ 2554 นี้ ก็ยังมั่นใจว่า แอร์จะเป็นกลุ่มที่ทำให้มีการเติบโตอย่างดี หลังจากที่มิตซูบิชิเริ่มทำตลาดแอร์ขนาดใหญ่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยปีนี้ใช้งบประมาณการตลาดกว่า 750 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 50 ล้านบาท แต่ก็โหมหนักในทุกกลุ่มตามสัดส่วนทั้งแอร์ขนาดใหญ่ แอร์ในบ้าน โดยขณะนี้มิตซูบิชิ มีส่วนแบ่งตลาดแอร์รวมอยู่ที่ 30% โดยปีนี้มั่นใจว่าตลาดแอร์ของมิตซูบิชิจะเติบโตอีก 10%
ด้านโมเดิร์นแอร์ก็มีการออกแอร์รุ่นใหม่ระบบอินเวอร์เตอร์และทำโปรโมชั่นเต็มที่เพื่อผลักดันยอดขายระบบนี้ด้วย โดยออกแอร์อินเวอร์เตอร์รุ่น V4D พร้อมกับโปรโมชั่นล่าสุดที่ 30% ตามร้านค้าทั่วไป และยังลุ้นรับฟรีมือถือแอลจี รุ่น T300 ราคา 2,990 บาทอีกด้วย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 เมษายนศกนี้
นายสมชาย พิศิษฐ์จริง ประธาน บริษัท มีเดีย อีเล็คทริค เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ทำตลาดแอร์มีเดีย กล่าวว่า ไตรมาสแรกนี้ได้นำแอร์รุ่นใหม่มาทำตลาดโดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ทั้งแบบติดผนัง 2 รุ่นใหม่คือ เอ็กซ์ซีรี่ย์ และรุ่น กลอรี่ ส่วนแบบเคลื่อนที่จะมีรุ่นโนวา เป็นตัวหลัก โดยจะทำตลาดภายใต้แนวคิดกรีนเทคโนโลยี โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายแอร์ไว้ 35,000 เครื่อง
ทว่าปีนี้กลับเป็นปีที่สร้างความประหลาดใจให้กับสินค้าหน้าร้อน เพราะอากาศในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งหนาว ทั้งร้อน ทั้งฝนตกสลับกันเป็นว่าเล่น ทำเอา ยอดขายไม่เป็นไปตามที่วางเป้าหมายไว้ ผิดหวังกันเป็นทิวแถว จากสภาพอากาศที่แปรปรวนนั่นเอง
อย่างไรก็ดี พอเข้าเดือนเมษายน หลายค่ายกลับใจชื้นขึ้นมามาก เมื่อพบว่า อากาศเริ่มเข้าสู่ความร้อนแบบปรกติแล้ว ฝนก็ไม่หลงฤดูอีกแล้ว
เครื่องปรับอากาศก็เป็นอีกหนึ่งตลาด จึงมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง
ที่วาดหวังว่า ช่วงซัมเมอร์จะโกยยอดขายได้ดี ด้วยพื้นฐานของสถานการณ์ทุกอย่างที่กลับคืนสู่สภาพปรกติแล้ว
ตลาดเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ในไทยมีมูลค่ามากกว่า 14,500 ล้านบาท หรือมีจำนวนประมาณ 1 ล้านยูนิตต่อปีโดยเฉลี่ย
ทั้งนี้ผู้ประกอบการต่างคาดกันว่าในปีนี้ตลาดแอร์รวมน่าจะมีการเติบโตอย่างต่ำ 8% ทั้งในแง่ของมูลค่าและปริมาณ ไม่ต่างกับปีที่แล้วมากนัก
อย่างไรก็ดี แนวทางที่หลายค่ายใหญ่ต่างมุ่งเน้นแข่งขันกันในปีนี้น่าจะเป็นการผลักดันตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์เข้าตลาดให้มากที่สุด และหวังช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดทั้งแอร์ทั่วไปและแอร์อินเวอร์เตอร์ให้มาทที่สุดเช่นกัน
***ตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์รุ่ง
นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้จัดการธุรกิจเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ผู้ทำตลาดแอร์ซัมซุง มองว่า ปีนี้จะมุ่งเน้นรายใหม่เข้ามาทำตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์มากขึ้น ขณะนี้รายเก่าที่ทำมาก่อนหน้านี้แล้วก็จะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญมากกว่าเดิมอีก ทั้งการออกสินค้ารุ่นใหม่และการทำโปรโมชั่นต่างๆ เพราะมองว่าแนวโน้มของตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์นี้จะมีความต้องการมากขึ้นในอนาคตเพราะคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าแอร์เดิมทั่วไป และความห่วงใยในสุขภาพของผู้บริโภคมากขึ้นและที่สำคัญราคาของแอร์อินเวอร์เตอร์ก็เริ่มมีการปรับลดลงมาแล้วเช่นกันอย่างน้อย 10%
โดยประเมินว่าปีนี้ตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์ จะมีการเติบโตที่ดีจากปีที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนในตลาดแอร์รวมประมาณ 10% เพิ่มเป็น 25% ในปีนี้ ขณะที่ตลาดแอร์ทั่วไป จะมีการเติบโต 20% หรือเพิ่มเป็น 1.2 ล้านเครื่องในปีนี้
***ซัมซุง-แอลจี รุกหนักอินเวอร์เตอร์
สำหรับค่ายซัมซุงได้เปิดตัวแอร์อินเวอร์เตอร์ จำนวน 8 รุ่น ราคาตั้งแต่ 20,900 – 56,400 บาท จากทั้งหมดที่เปิดตัวแอร์ใหม่ในปีนี้ 28 รุ่น โดยที่เหลือเป็นแอร์ระบบมาตรฐานทั่วไป 20 น ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท และได้มีการนำเอา “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย โดยวางงบตลาดแอร์ไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งซัมซุงมั่นใจว่าปีนี้แอร์อินเวอร์เตอร์จะมีส่วนช่วยให้ทำยอดขายรวมเติบโต และจะเพิ่มแชร์ในตลาดแอร์รวมเป็น 22% จากปีที่แล้ว 17%
นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอร์อินเวอร์เตอร์จะเป็นหัวหอกที่สำคัญของแอร์แอลจีในปีนี้ ซึ่งมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ เช่น รุ่นอินเวอร์เตอร์ V4D เทคโนโลยีฟอกอากาศ 4 มิติ
ที่สำคัญเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น ปีนี้แอลจียังได้ขยายกำลังผลิตกลุ่มอินเวอร์เตอร์เป็นหลัก จากการเพิ่มกำลังผลิตรวมจาก 1.5 ล้านเครื่องต่อปีเป็น 2 ล้านเครื่องต่อปี ด้วยงบลงทุน 150 ล้านบาท
โดยงบการตลาดปีนี้ตั้งไว้รวมในกลุ่มแอร์ที่ 520 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ 400 ล้านบาท ทั้งนี้ปีนี้กว่า 400 ล้านบาทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์ ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปีนี้แอลจีจะมีสัดส่วนรายได้มาจากแอร์อินเวอร์เตอร์ประมาณ 20% จากสัดส่วน 12% ในปีที่แล้ว จากปริมาณยอดขายแอร์รวมปีนี้ของแอลจีประมาณ 3.5 แสนเครื่อง เติบโต 32% หรือมีรายได้ 5,000 ล้านบาทจากปีที่แล้วรายได้ 3,800 ล้านบาทในกลุ่มแอร์
**ค่ายอื่นเคลื่อนไหวคึกคัก
ค่ายมิตซูบิชิ จัดงาน ฮิตาชิเซฟวิ่งเซลส์ ถึงวันที่ 15 เมษายนนี้เช่นกัน ในการผลักดันยอดขายกลุ่มดับร้อนเช่น แอร์ ตู้เย็น เป็นต้น โดยในส่วนของแอร์นั้น ก็เร่งปั้นยอดขายรุ่นอินเวอร์เตอร์ใหม่ๆเต็มที่ ทั้งนี้มีโปรโมชั่นหลักคือ การลุ้นโชค 3 ต่อ
ต่อที่ 1 รับส่วนลดสูงสุดที่ 30% ต่อที่ 2 รับของพรีเมียมสูงสุดมูลค่า 4,590 บาท และต่อที่สามลุ้นรับแพคเกจถ่ายภาพ มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท ที่มิลานสตูดิโอ
ทั้งนี้นายมาซาโนริ อูเอมูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า รายได้รวมของปีงบประมาณ 2553 (เม.ย. 52 – มี.ค. 53)เติบโตมากกว่า 15% หรือมีรายได้ 8,100 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยหลักๆมาจากการเติบโตของกลุ่มเครื่องปรับอากาศ
ขณะที่ในปีงบประมาณ 2554 นี้ ก็ยังมั่นใจว่า แอร์จะเป็นกลุ่มที่ทำให้มีการเติบโตอย่างดี หลังจากที่มิตซูบิชิเริ่มทำตลาดแอร์ขนาดใหญ่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยปีนี้ใช้งบประมาณการตลาดกว่า 750 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 50 ล้านบาท แต่ก็โหมหนักในทุกกลุ่มตามสัดส่วนทั้งแอร์ขนาดใหญ่ แอร์ในบ้าน โดยขณะนี้มิตซูบิชิ มีส่วนแบ่งตลาดแอร์รวมอยู่ที่ 30% โดยปีนี้มั่นใจว่าตลาดแอร์ของมิตซูบิชิจะเติบโตอีก 10%
ด้านโมเดิร์นแอร์ก็มีการออกแอร์รุ่นใหม่ระบบอินเวอร์เตอร์และทำโปรโมชั่นเต็มที่เพื่อผลักดันยอดขายระบบนี้ด้วย โดยออกแอร์อินเวอร์เตอร์รุ่น V4D พร้อมกับโปรโมชั่นล่าสุดที่ 30% ตามร้านค้าทั่วไป และยังลุ้นรับฟรีมือถือแอลจี รุ่น T300 ราคา 2,990 บาทอีกด้วย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 เมษายนศกนี้
นายสมชาย พิศิษฐ์จริง ประธาน บริษัท มีเดีย อีเล็คทริค เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ทำตลาดแอร์มีเดีย กล่าวว่า ไตรมาสแรกนี้ได้นำแอร์รุ่นใหม่มาทำตลาดโดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ทั้งแบบติดผนัง 2 รุ่นใหม่คือ เอ็กซ์ซีรี่ย์ และรุ่น กลอรี่ ส่วนแบบเคลื่อนที่จะมีรุ่นโนวา เป็นตัวหลัก โดยจะทำตลาดภายใต้แนวคิดกรีนเทคโนโลยี โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายแอร์ไว้ 35,000 เครื่อง
