วานนี้(5 เม.ย) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคฯ กล่าวภายหลังประชุมพรรเพื่อไทยว่า นายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรค ได้แจ้งให้สมาชิกทราบผลการประชุมกรรมการบริหารพรรคที่ได้มอบหมายให้นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และประธานวิปฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แทน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ลาออกจากตำแหน่ง
ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ เพื่อผลักดันร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 3 ฉบับ ให้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรภายในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้นายกรัฐมนตรีเลื่อนกำหนดเวลายุบสภาที่ได้ประกาศไว้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.
“แต่ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการหาตำแหน่งที่เหมาะสมของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และนายเสนาะก็ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย แต่ได้เดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อมาหารือและเยี่ยมเยียนกรรมการบริหารพรรคและพูดคุยกับแกนนำ”
ทั้งนี้ ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. พรรคจะเปิดตัวนโยบายหลัก 10 ข้อ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคลำดับที่ 1 ที่จะเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคฯ ได้นำบัตรเหลืองปลอมที่ใช้แทนบัตรประชาชนชั่วคราวมาแสดงให้สื่อมวลชนดู พร้อมระบุว่าอาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทุจริตเลือกตั้งได้ ซึ่งพรรคจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า บุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคนั้นขณะนี้ช่วงเวลายังไม่เหมาะสม เพราะพรรคยังเป็นฝ่ายค้านและยังไม่ได้ยุบสภาจึงจะประกาศภายหลังอีกครั้ง และพรรคเพื่อไทยยืนยันจะไม่โกงและไม่ซื้อเสียงอย่างแน่นอน และหากพรรคกลับมาบริหารประเทศ เชื่อว่าจะทำให้ทิศทางต่างๆดีขึ้น โดยมั่นใจพรรคจะได้ที่นั่ง 270 เสียง
วันเดียวกันนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้เดินทางมายังพรรคเพื่อไทย ร่วมรับประทานอาหารกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และได้เดินทางกลับ โดยไม่ได้มีการเข้าร่วมการประชุม
ในที่ประชุมของพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามาพูดคุยกับสมาชิกของพรรคโดยเน้นผู้สมัครหน้าใหม่และให้กำลังใจสมาชิก และได้เตือนผู้สมัครรับเลือกตั้งว่าอย่าประมาทในการลงพื้นที่ โดยแนะนำการปราศรัยหาเสียงาจะต้องเป็นการปราศรัยแบบสร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อประชาชน อย่าเอานโยบายไปขายฝัน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า พรรคเพื่อไทยดึง นายเสนาะ เข้าร่วมงานเพื่อป้องกันความขัดแย้งในพรรค ว่าไม่เป็นความจริง เพราะการเข้ามาของนายเสนาะ ทำให้พรรคเพื่อไทยมีความสมบูรณ์มากขึ้น
นายไชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผู้สมัครพื้นที่ภาคอีสานพร้อมแล้วกว่าร้อยละ 90
ขณะที่พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯว่า ปกติท่านสุเทพ เป็นคนน่ารักดี แต่ช่วงนี้คงหวั่นไหวไป ให้สังเกต ดูสิผมก็หงอกหัวขาวเต็มเลย แล้วดูหน้าเหี่ยว ยับเชียวผมขอแนะนำให้ไปใช้พอนด์ส
**“ปชป.” ไล่บิ๊กจิ๋วกลับไปโดดน้ำตาย
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะประกาศนโยบายชุดใหญ่ของพรรคเพื่อไทยหลังช่วงสงกรานต์วันที่ 14 เม.ย.ว่า พรรคเห็นว่าภายหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินก็จะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองรูปแบบต่างๆ ทั้งการชุมนุมและความขัดแย้ง ซึ่งวิตกว่าการโฟนอินช่วงหลังเป็นการเตรียมการชุมนุม จึงอยากให้จับตาดูตั้งแต่ช่วง 10 เม.ย.ไปถึง 19 พ.ค.อาจจะมีความเสี่ยงในบ้านเมืองจากการเคลื่อนไหวนอกสภา
ส่วนพล.อ.ชวลิต ระบุว่าจะทำยอดส.ส.ให้สูงถึง 250-270 คนนั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคเชื่อว่าจะมีการทำทุกวิถีทางให้ได้เสียงข้างมาก และหากไม่ได้ก็เตรียมที่จะใส่ร้ายฝ่ายรัฐบาลว่ามีการโกงการเลือกตั้ง โดยพรรคยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างความเข้าใจผิด อยากย้อนถามว่าเป็นการเตรียมการกรณีที่ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ โดยกล่าวหาว่าหากรวมเสียงไม่พอนั้น เป็นเพราะเกิดจากการโกงเสียงเลือกตั้ง
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต ไล่พรรคประชาธิปัตย์ไปกระโดดน้ำตาย หลังปล่อยให้น้ำท่วมภาคใต้ ว่า คงเอาสาระกับคำพูดของพล.อ.ชวลิต ยาก และน้ำท่วมภาคใต้ถือเป็นภัยธรรมชาติ ที่ไม่มีใครห้ามได้ และผมคิดว่ารัฐบาลทำได้ดี ส่วนที่พล.อ.ชวลิต วิจารณ์ก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านก็กระโดดน้ำตายไปหลายปีแล้ว
ส่วนที่พล.อ.ชวลิต ระบุจะเจาะฐานเสียงภาคใต้ให้ได้ 6 - 8 ที่นั่งนั้น เห็นว่า ไม่ควรประมาท เพราะทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า ผู้สมัครทุกคนเตรียมถ่ายรูปจัดทำโปสเตอร์รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในวันที่ 5-7 เม.ย. และหลังช่วงสงกรานต์ จะได้ผู้สมัครทั้งระบบเขตและสัดส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีการทำบุญครบรอบ 65 ปี ของการก่อตั้งพรรคในวันที่6 เม.ย. ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธี
** 7 เม.ย.เปิด“รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน”
ที่รัฐสภา นายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ ผู้อำนวยการพรรครวมชาติพัฒนา เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ พรรครวมชาติพัฒนาและพรรคเพื่อแผ่นดิน จะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าในการร่วมมือทางการเมือง ที่โรงแรมสยามแคมเพนสกี้ หลังศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นจะมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมชาติพัฒนา กับนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของทั้ง 2 พรรค ร่วมในการแถลงข่าวและจะมีความชัดเจนวันนั้น
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบเรื่องดังกล่าวกับ นายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่ม 3 พี ได้ความเพียงว่า ในวันดังกล่าวจะเดินทางไปร่วมงานด้วย ส่วนเนื้อหาของการแถลงข่าวขอให้ไปดูในวันที่ 7 เม.ย.นี้
นพ.ภูมินทร์ ลีกิจธีระประเสริฐ โฆษกวอร์รูมพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ในงานวันที่ 7 เม.ย.เป็นเพียงการทำพิธีหมั้นเท่านั้น เบื้องต้นได้รับการยืนยันจากนายชาญชัย ว่าจะเดินทางไปร่วมงานและร่วมแถลงข่าว ส่วนความชัดเจนเรื่องการควบรวมจะเกิดขึ้นภายหลังการยุบสภา สำหรับโครงสร้างใหม่ ทราบว่าจะใช้โครงสร้างเดิมของพรรครวมชาติพัฒนาที่มี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินจะเป็นส่วนเสริมในโครงสร้างบริหารดังกล่าว เพราะไม่ยึดติดกับตำแหน่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา นายพินิจ ได้เรียกผู้บริหารของพรรคในสายของตัวเองเข้ารับทราบความคืบหน้าโดยนายชาญชัยแสดงความไม่เห็นด้วยว่าการร่วมมือกับนายสุวัจน์จะเป็นประโยชน์เฉพาะในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่ง ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พีดูแลอยู่เท่านั้น ส่วนในพื้นที่อื่นๆอาทิ จ.มหาสารคาม ที่นายชาญชัยดูแล หรือ จ.อุบลราชธานี ที่มีนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ดูแลอยู่นั้น จะไม่ได้ประโยชน์ ทั้งยังอาจเป็นผลเสียต่อฐานคะแนนเสียงของผู้สมัครในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน
รวมถึงส่วนของเงินสนับสนุนประจำปีที่ได้จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งพรรคได้มาเป็นอันดับ 2 คิดเป็นเงิน 27 ล้านบาท จะทำให้แผนต้องสะดุดลง หากย้ายจริง ก็จะมีผู้บริหารบางส่วนยังอยู่ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นนายชาญชัยหรือนายกว้าง โดยสามารถใช้เป็นพรรคอะไหล่ หากเกิดอุบัติเหตุถูกยุบพรรค
ด้านนพ.อลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ว่าเบื้องต้นผู้ใหญ่ทั้ง 2 พรรค อาจจะใช้ชื่อพรรคใหม่ว่า “รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน” เพราะว่าชื่อทั้งสองพรรคประชาชนรู้จักทั่วประเทศ .
ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ เพื่อผลักดันร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 3 ฉบับ ให้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรภายในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้นายกรัฐมนตรีเลื่อนกำหนดเวลายุบสภาที่ได้ประกาศไว้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.
“แต่ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการหาตำแหน่งที่เหมาะสมของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และนายเสนาะก็ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย แต่ได้เดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อมาหารือและเยี่ยมเยียนกรรมการบริหารพรรคและพูดคุยกับแกนนำ”
ทั้งนี้ ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. พรรคจะเปิดตัวนโยบายหลัก 10 ข้อ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคลำดับที่ 1 ที่จะเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคฯ ได้นำบัตรเหลืองปลอมที่ใช้แทนบัตรประชาชนชั่วคราวมาแสดงให้สื่อมวลชนดู พร้อมระบุว่าอาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทุจริตเลือกตั้งได้ ซึ่งพรรคจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า บุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคนั้นขณะนี้ช่วงเวลายังไม่เหมาะสม เพราะพรรคยังเป็นฝ่ายค้านและยังไม่ได้ยุบสภาจึงจะประกาศภายหลังอีกครั้ง และพรรคเพื่อไทยยืนยันจะไม่โกงและไม่ซื้อเสียงอย่างแน่นอน และหากพรรคกลับมาบริหารประเทศ เชื่อว่าจะทำให้ทิศทางต่างๆดีขึ้น โดยมั่นใจพรรคจะได้ที่นั่ง 270 เสียง
วันเดียวกันนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้เดินทางมายังพรรคเพื่อไทย ร่วมรับประทานอาหารกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และได้เดินทางกลับ โดยไม่ได้มีการเข้าร่วมการประชุม
ในที่ประชุมของพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามาพูดคุยกับสมาชิกของพรรคโดยเน้นผู้สมัครหน้าใหม่และให้กำลังใจสมาชิก และได้เตือนผู้สมัครรับเลือกตั้งว่าอย่าประมาทในการลงพื้นที่ โดยแนะนำการปราศรัยหาเสียงาจะต้องเป็นการปราศรัยแบบสร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อประชาชน อย่าเอานโยบายไปขายฝัน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า พรรคเพื่อไทยดึง นายเสนาะ เข้าร่วมงานเพื่อป้องกันความขัดแย้งในพรรค ว่าไม่เป็นความจริง เพราะการเข้ามาของนายเสนาะ ทำให้พรรคเพื่อไทยมีความสมบูรณ์มากขึ้น
นายไชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผู้สมัครพื้นที่ภาคอีสานพร้อมแล้วกว่าร้อยละ 90
ขณะที่พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯว่า ปกติท่านสุเทพ เป็นคนน่ารักดี แต่ช่วงนี้คงหวั่นไหวไป ให้สังเกต ดูสิผมก็หงอกหัวขาวเต็มเลย แล้วดูหน้าเหี่ยว ยับเชียวผมขอแนะนำให้ไปใช้พอนด์ส
**“ปชป.” ไล่บิ๊กจิ๋วกลับไปโดดน้ำตาย
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะประกาศนโยบายชุดใหญ่ของพรรคเพื่อไทยหลังช่วงสงกรานต์วันที่ 14 เม.ย.ว่า พรรคเห็นว่าภายหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินก็จะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองรูปแบบต่างๆ ทั้งการชุมนุมและความขัดแย้ง ซึ่งวิตกว่าการโฟนอินช่วงหลังเป็นการเตรียมการชุมนุม จึงอยากให้จับตาดูตั้งแต่ช่วง 10 เม.ย.ไปถึง 19 พ.ค.อาจจะมีความเสี่ยงในบ้านเมืองจากการเคลื่อนไหวนอกสภา
ส่วนพล.อ.ชวลิต ระบุว่าจะทำยอดส.ส.ให้สูงถึง 250-270 คนนั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคเชื่อว่าจะมีการทำทุกวิถีทางให้ได้เสียงข้างมาก และหากไม่ได้ก็เตรียมที่จะใส่ร้ายฝ่ายรัฐบาลว่ามีการโกงการเลือกตั้ง โดยพรรคยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างความเข้าใจผิด อยากย้อนถามว่าเป็นการเตรียมการกรณีที่ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ โดยกล่าวหาว่าหากรวมเสียงไม่พอนั้น เป็นเพราะเกิดจากการโกงเสียงเลือกตั้ง
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต ไล่พรรคประชาธิปัตย์ไปกระโดดน้ำตาย หลังปล่อยให้น้ำท่วมภาคใต้ ว่า คงเอาสาระกับคำพูดของพล.อ.ชวลิต ยาก และน้ำท่วมภาคใต้ถือเป็นภัยธรรมชาติ ที่ไม่มีใครห้ามได้ และผมคิดว่ารัฐบาลทำได้ดี ส่วนที่พล.อ.ชวลิต วิจารณ์ก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านก็กระโดดน้ำตายไปหลายปีแล้ว
ส่วนที่พล.อ.ชวลิต ระบุจะเจาะฐานเสียงภาคใต้ให้ได้ 6 - 8 ที่นั่งนั้น เห็นว่า ไม่ควรประมาท เพราะทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า ผู้สมัครทุกคนเตรียมถ่ายรูปจัดทำโปสเตอร์รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในวันที่ 5-7 เม.ย. และหลังช่วงสงกรานต์ จะได้ผู้สมัครทั้งระบบเขตและสัดส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีการทำบุญครบรอบ 65 ปี ของการก่อตั้งพรรคในวันที่6 เม.ย. ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธี
** 7 เม.ย.เปิด“รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน”
ที่รัฐสภา นายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ ผู้อำนวยการพรรครวมชาติพัฒนา เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ พรรครวมชาติพัฒนาและพรรคเพื่อแผ่นดิน จะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าในการร่วมมือทางการเมือง ที่โรงแรมสยามแคมเพนสกี้ หลังศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นจะมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมชาติพัฒนา กับนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของทั้ง 2 พรรค ร่วมในการแถลงข่าวและจะมีความชัดเจนวันนั้น
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบเรื่องดังกล่าวกับ นายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่ม 3 พี ได้ความเพียงว่า ในวันดังกล่าวจะเดินทางไปร่วมงานด้วย ส่วนเนื้อหาของการแถลงข่าวขอให้ไปดูในวันที่ 7 เม.ย.นี้
นพ.ภูมินทร์ ลีกิจธีระประเสริฐ โฆษกวอร์รูมพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ในงานวันที่ 7 เม.ย.เป็นเพียงการทำพิธีหมั้นเท่านั้น เบื้องต้นได้รับการยืนยันจากนายชาญชัย ว่าจะเดินทางไปร่วมงานและร่วมแถลงข่าว ส่วนความชัดเจนเรื่องการควบรวมจะเกิดขึ้นภายหลังการยุบสภา สำหรับโครงสร้างใหม่ ทราบว่าจะใช้โครงสร้างเดิมของพรรครวมชาติพัฒนาที่มี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินจะเป็นส่วนเสริมในโครงสร้างบริหารดังกล่าว เพราะไม่ยึดติดกับตำแหน่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา นายพินิจ ได้เรียกผู้บริหารของพรรคในสายของตัวเองเข้ารับทราบความคืบหน้าโดยนายชาญชัยแสดงความไม่เห็นด้วยว่าการร่วมมือกับนายสุวัจน์จะเป็นประโยชน์เฉพาะในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่ง ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พีดูแลอยู่เท่านั้น ส่วนในพื้นที่อื่นๆอาทิ จ.มหาสารคาม ที่นายชาญชัยดูแล หรือ จ.อุบลราชธานี ที่มีนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ดูแลอยู่นั้น จะไม่ได้ประโยชน์ ทั้งยังอาจเป็นผลเสียต่อฐานคะแนนเสียงของผู้สมัครในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน
รวมถึงส่วนของเงินสนับสนุนประจำปีที่ได้จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งพรรคได้มาเป็นอันดับ 2 คิดเป็นเงิน 27 ล้านบาท จะทำให้แผนต้องสะดุดลง หากย้ายจริง ก็จะมีผู้บริหารบางส่วนยังอยู่ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นนายชาญชัยหรือนายกว้าง โดยสามารถใช้เป็นพรรคอะไหล่ หากเกิดอุบัติเหตุถูกยุบพรรค
ด้านนพ.อลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ว่าเบื้องต้นผู้ใหญ่ทั้ง 2 พรรค อาจจะใช้ชื่อพรรคใหม่ว่า “รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน” เพราะว่าชื่อทั้งสองพรรคประชาชนรู้จักทั่วประเทศ .