xs
xsm
sm
md
lg

ดินเขาพนมถล่มหายเกือบทั้งหมู่บ้าน-ใต้วิปโยคหนัก!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภาคใต้/ASTVผู้จัดการรายวัน - ในหลวง-ราชินี" พระราชทานเงิน 5 แสนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ล่าสุดดินภูเขาพนม เมืองกระบี่ถล่มใส่บ้านเรือนประชาชนหายไปกับสายน้ำครึ่งหมู่บ้าน เบื้องต้นพบแล้วกว่า 10 ศพ ยังไม่ทราบชะตากรรมอีกร่วม 200 เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ขณะที่หลายจังหวัดวิกฤติหนักทั้ง "ตรัง-สุราษฏร์ฯ-ชุมพร-พัทลุง" จมบาดาลถ้วนหน้า “นายกฯ” ยกคณะลงใต้ เผยหวิดมาไม่ถึงเมืองคอน ยันรัฐบาลเยียวยา 5,000 บาทเหมือนครั้งก่อน ขณะที่ 'อ้อม-พิยดา'เผยนักท่องเที่ยวปลอดภัยออกจากเกาะเต่าแล้ว

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดยังอยู่ในขั้นวิกฤต และจากกรณีที่ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายจนถึงเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) ได้ส่งผลให้หลายพื้นที่ใน จ.กระบี่ ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะที่ อ.เขาพนม ประสบปัญหาหนักที่สุด โดยเฉพาะที่บ้านต้นหาร ม.7 ต.หน้าเขา ดินโคลนจากภูเขาได้ถล่มทับบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 10 หลัง ส่วนที่บ้านห้วยน้ำแก้ว มีดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 20 หลัง ทับถนนหลายจุดและกระแสน้ำท่วมสะพานทางเข้าหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ 1-2 เมตร รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้

**"ในหลวง-ราชินี" พระราชทานเงิน 5 แสนช่วยผู้ประสบอุทกภัยใต้

ขณะเดียวกัน ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัฒน์ นางสนองพระโอฐในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้แทนพระองค์ นำเงินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระบรมราชูปถัมภ์ สภากาชาดไทย และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย จำนวน 500,000 บาท ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยมีนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย รับพระราชทานเงินดังกล่าว ณ ห้องรับรอง อาคารเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระญาณสังวรฯ สภากาชาดไทย

ต่อมาเวลา 12.30 น.เจ้าหน้าที่ อบต.หน้าเขา ทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหาราบที่ 15 และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 411 ได้นำรถบรรทุกทหาร 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ 40 นาย ฝ่ากระแสน้ำเข้าไปช่วยอพยพประชาชนออกจากหมู่บ้านประสบเหตุ ที่คาดว่าจะติดอยู่ตามบ้านเรือนอีกประมาณ 100-200 คน ซึ่งในเบื้องต้นสามารถอพยพชาวบ้านออกมาจากหมู่บ้านได้แล้ว 150 คน โดยให้มารวมตัวกันอยู่ที่วัดถ้ำโกบและวัดถ้ำเขาดิน ต.หน้าเขา

นอกจากนี้ ชาวบ้านห้วยน้ำแก้ว ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม ได้อพยพมารวมกันที่โรงเรียนบ้านห้วยน้ำแก้วแล้วประมาณ 300 คน ซึ่งกำลังรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แต่ถนนหลายสายถูกดินโคลนถล่มทับรถไม่สามารรถสัญจรไปมาได้
ส่วนที่หมู่ที่ 2 บ้านนาเหนือ ต.เขาดิน อีกหนึ่งหมู่บ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก ระดับน้ำยังทรงตัว สูงประมาณ 50-60 ซม.น้ำท่วมบ้านเสียหายประมาณ 40 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุข ช่วยเหลือออกมาได้ 28 คน ยังคงติดอยู่ในบ้านอีกประมาณ 7-8 คน ซึ่งขณะนี้กำลังรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แต่ยังขาดอุปกรณ์ การช่วยเหลือเช่น เรือท้องแบน และเชือกที่ใช้ดึงคนออกมาจากพื้นที่

**เผยนาทีระทึกก่อนดินโคลนภูเขาถล่ม

นายก้าน ลิ้มซี้ ชาวบ้าน ม.7 ต.หน้าเขา ผู้ประสบเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงประมาณเวลา 10.00 น.ของวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ฝนกำลังตกหนัก ได้ยินเสียงดังคลื่นๆมาจากยอดเขาพนมเบญจา อยู่ห่างจากบ้านตน ประมาณ 100 เมตร ชั่วพริบตา น้ำจากยอดเขาได้ไหลทะลักมาอย่างรวดเร็ว เหมือนกับน้ำจากลำคลองขนาดมหึมาพัดเอาทุกสิ่งที่ขว้างหน้าหายไปกับสายน้ำ แม้แต่บ้านที่อาศัย เหลือเพียงแต่เสื้อผ้าชุดเดียว โชคดีที่ตนและครอบครัวหนีออกมาได้ทัน พร้อมเพื่อนบ้านอีกจำนวนหนึ่ง

**ผู้ว่าฯกระบี่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือชาวบ้าน

นายประสิทธิ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เผยว่าได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ทหารกองพันพัฒนาที่ 1 เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ อ.เขาพนมอย่างเร่งด่วน หลังจากที่ถูกน้ำและดินจากภูเขาสไลด์ลงมาซัดและทับบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่บริเวณเชิงเขาพนมเบญจาในเขตพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.หน้าเขา ต.โคกหาร และ ต.เขาดิน ส่งผลให้ชาวบ้านมากกว่า 300 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

โดยเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านมากกว่า 10 คนถูกน้ำป่าซัดสูญหายไป ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือและอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนแล้ว แต่เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ประกอบกับน้ำไหลเชี่ยวมากทำให้รถและเรือท้องแบบเข้าไปในพื้นที่ด้วยความยากลำบาก ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าพบศพชาวบ้านในพื้นที่แล้ว 4 รายและคาดว่าจะมีผู้สูญหายอีกมากกว่า 100 ราย เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในจุดเกิดเหตุยืนยันว่าในช่วงเกิดเหตุทุกคนอยู่ในบ้าน แต่ทันทีที่กระแสน้ำซัดเข้ามาอย่างรุนแรงทุกคนต่างกระจัดกระจายและได้จมหายไปกับสายน้ำจนไม่ทราบชะตากรรม

**นอภ.เขาพนมยันพบแล้ว 10 ศพ

นายสุพจน์ ชนะกิจ นายอำเภอเขาพนม จ.กระบี่ เปิดเผยว่า จากการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือช่วยบ้านในพื้นที่ประสบเหตุน้ำท่วมและดินสไลด์ในเขตพื้นที่ 3 ตำบล โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลหน้าเขาซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากเป็นจุดแรกที่น้ำจากเขาพนมเบญจาไหลลงมาทับบ้านเรือนจนทำให้บ้านทั้งหลังจมหายไปกับสายน้ำจำนวนหลายหลังคาเรือน เบื้องต้นในการเข้าช่วยเหลือได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ ชุดที่เข้าค้นหาผู้สูญหายซึ่งล่าสุดพบศพชาวบ้านประมาณ 10 ศพซึ่งลอยมากับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากจึงได้เข้าทำการเก็บกู้ศพมาไว้ที่ปลอดภัยเพื่อรอการตรวจสอบต่อไป

ในขณะนี้ที่กำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งเข้าทำการช่วยเหลือชาวบ้านไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือไว้ที่วัดเทพพนม และศาลาเอนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน

**กู้ภัยกระบี่ช่วยผู้บาดเจ็บได้อีก18คน

ด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทร จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ทีมช่วยเหลือพบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มบริเวณหมู่ 7 และหมู่ 10 บ้านคลองแห้ง บ้านหน้าเขา อ.เขาพนม 10 ศพ และนำร่างออกมาแล้วโดยการประสานงานร่วมกับหน่วยกู้ภัยเจ้าหน้าที่ทางจังหวัด และทหาร

นอกจากนี้ ยังได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอีก 18 ราย จากทั้งหมด 300 คน นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเขาพนม ทั้งนี้ การติดต่อสื่อสารภายในหมู่บ้านถูกตัดขาด ไฟฟ้าดับ น้ำประปาไม่ไหล และยังต้องผวาดินโคลนถล่มซ้ำอีก ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก

**ระดมเครื่องจักรกลเปิดทางช่วย ปชช.

นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ เผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำเครื่องจักกลและเครื่องมือช่างต่างๆ เข้าพื้นที่ ณ จุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากเส้นทางการเข้าพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก แม้อุปกรณ์ต่างๆได้มีการเตรียมความพร้อมในการลำเลียงเข้าพื้นที่ก็ตาม โดยเบื้องต้นจึงต้องเน้นการช่วยเหลือในการนำสิ่งของประเภอทอาหารแห้งไปมอบให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยก่อนเป็นภารกิจเร่งด่วน เนื่องจากมีชาวบ้านมากกว่า 300 คนที่ยังรอการช่วยเหลืออยู่ตามศูนย์ช่วยเหลืออย่างน้อย 4 แห่งในพื้นที่ อ.เขาพนม เช่น ที่ศูนย์โรงเรียนบ้านถ้ำโกบ,โรงเรียนบ้านห้วยน้ำแก้ว,โรงเรียนบ้านห้วยภู และวัดเทพพนม

แต่เนื่องจากในพื้นที่บางจุดไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในช่วงกลางคืนทำให้การช่วยเหลืออาจล่าช้าและเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่ฝนก็ยังคงตกอยู่ตลอดเวลา เป็นอุปสรรคสำคัญในการติดตามและช่วยเหลือผู้ที่สุญหายที่คาดว่ามีมากกว่า 200 คน

**ผอ.รพ.เขาพนมขอกำลังบุคลากรแพทย์

นพ.สันติ ยูตนันท์ ผอ.โรงพยาบาลเขาพนม ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า จากเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม ตอนนี้ที่รับคนเจ็บมา 39 คนแล้ว เป็นผู้ชาย 19 คน ผู้หญิง 20 คน ในนี้สาหัส 7 คน ส่วนใหญ่เจอไม้กระแทก และในจำนวนผู้บาดเจ็บ มีเด็ก12คน การรักษาถ้าบาดเจ็บเล็กน้อยก็จะดูแลรักษาที่โรงพยาบาลเลย แต่ถ้าสาหัสก็ประสานส่งต่อไปที่ โรงพยาบาลกระบี่ สิ่งที่ต้องการอย่างมากในตอนนี้ คือบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรองรับคนเจ็บที่กำลังทยอยออกมาเรื่อยๆ และในจำนวนผู้บาดเจ็บมี เด็ก 2 คน เล่าว่า "พ่อแม่" ของเขาถูกน้ำพัดหายไปต่อหน้าต่อตา เจอศพแม่แล้ว ส่วนพ่อยังไม่รู้ชะตากรรม

**สุราษฎร์ฯอพยพอีก 5 หมู่บ้าน

ด้านสถานการณ์น้ำท่วม จ.สุราษฎร์ธานี ยังวิกฤตหนักหลายพื้นที่เริ่มขาดแคลนอาหาร เนื่องจากน้ำท่วมติดต่อกันนานหลายวัน ผู้ประสบภัยน้ำท่วมไม่สามารถออกไปหาซื้ออาหารได้ ส่วนที่เกาะพะลวย อ.เกาะสมุย มีคลื่นลมแรงชาวบ้านกว่า 180 ครัวเรือนเริ่มขนาดแคลนอาหาร เนื่องจากไม่สามารถนำเรือออกจากเกาะเพื่อซื้ออาหารเพิ่มเติมได้ ขณะที่ทางจังหวัดฯได้ประกาศอพยพประชาชน 5 หมู่บ้าน ใน อ.เมืองฯ เพื่อความปลอดภัย เพราะเกรงจะเกิดน้ำป่าเนื่องจากเกิดพายุลูกใหม่

**ตรังอ่วม-ร้านค้าปิดกิจการชั่วคราว

ที่ จ.ตรัง ยังคงวิกฤตต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดรอยต่อกับจังหวัดพัทลุง ได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มริมคลองนางน้อย ในเขต อ.นาโยง และ อ.เมืองตรัง รวมทั้งตลาดและชุมชนในเขตเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง ทำให้ประชาชนประมาณ 2,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในตรอกซอกซอยต่างๆ เขตเทศบาล ซึ่งบางจุดมีระดับน้ำสูงมากถึง 1.50 เมตร ส่วนถนนสายตรัง-พัทลุง ก็มีระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร เป็นระยะทางยาว 4-5 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน น้ำยังไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งอยู่ทางฝั่งด้านทิศตะวันออกและทางฝั่งด้านทิศใต้ของตัวเมืองตรัง ทำให้หลายชุมชนซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและเพิ่งจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเมื่อปลายปี 53 ต้องกลับมาสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้งหนึ่ง ถนนสายสายในเขตเทศบาลไม่สามารถสัญจรไปมาได้ หน่วยงานราชการ และบริษัทห้างร้านจำนวนมากต้องปิดกิจการ ขณะที่บ้านเรือนหลายร้อยหลังก็ประสบปัญหาน้ำท่วม อีกทั้งทรัพย์สินก็เสียหายไปจำนวนมาก เนื่องจากขนหนีน้ำไม่ทัน และไม่นึกว่าจะเกิดน้ำท่วมในช่วงหน้าแล้ง

**นายกฯถึงตรังต่อรถเข้าแหลมตะลุมพุก

วันเดียวกันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพบกถึงสนามบิน จ.ตรัง โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปยัง ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราชล่าสุดพบศพผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 10 แล้ว จมน้ำในคลองกระเบียด หลังเกิดเหตุน้ำท่วม ตำรวจสอบสวนพบว่าผู้ตายได้กระโดดลงไปช่วยเพื่อน แต่ตัวเองกลับจมน้ำหายไปและมาพบศพวานนี้

**"มาร์ค"เผยเกือบมาไม่ถึงเมืองคอน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า วันนี้เกือบเดินทางมาเยี่ยมประชาชนไม่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศปิดเครื่องบินไม่สามารถบินลงที่สุราษฎร์ธานีได้จึงเปลี่ยนไปลงที่ จ.ตรังแทน แล้วนั่งรถยนต์เดินทางมาเยี่ยมประชาชนชาว ต.แหลมตะลุมพุก เป็นจุดแรกก่อน ตนมีความเป็นห่วงพี่น้องชาว จ.นครศรีธรรมราชและชาวภาคใต้ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมดินถล่มอยู่ในขณะนี้

โดยเฉพาะพี่น้องชาว อ.เขาพนม จ.กระบี่ ที่ทราบว่าเกิดภูเขาถล่มใส่หมู่บ้านคาดว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 20-30 คน และสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้งส่งกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเป็นการด่วนแล้ว

"หลายพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติในขณะนี้เพราะไม่เคยเจอปัญหาภัยพิบัติแบบนี้มาก่อน จึงรับมือไม่ทัน เพราะฉะนั้นจึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนได้ระมัดระวังติดตามสถานการณ์ดินฟ้าอากาศตลอดเวลาอย่าประมาท ให้ทุกคนระมัดระวังและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อลดการสูญเสียให้มากที่สุด” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

**ยันช่วยเหลือผู้ประสบภัย5พันบาท

สำหรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5,000 บาทนั้น ทางรัฐบาลก็ยังให้การช่วยเหลือเหมือนเดิม แต่ปัญหารอบที่แล้วหลายพื้นที่เงินช่วยเหลือยังจ่ายไม่ได้ เพราะมีบางพื้นที่โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราชยังมีตัวเลขที่เกินความเป็นจริง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดจึงทำให้ล่าช้า คนที่เดือดร้อนจริงๆ เดือดร้อนหนักก็พลอยไม่ได้รับไปด้วย คราวนี้ตนก็อยากให้ราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมดินถล่มจริงๆ แจ้งรายชื่อขอความช่วยเหลือกันเข้ามาเพื่อจะได้ช่วยเหลือไปตามหลักเกณฑ์ ที่สำคัญเงินงบประมาณมีจำนวนจำกัด เงินสำรองฉุกเฉินก็ใกล้จะหมดแล้วจึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด

นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราชว่า ท่วมหมดทั้ง 23 อำเภอ โดยเฉพาะล่าสุดยังมีฝนตกหนักและน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ ในขณะนี้มีราษฎรที่ประสบภัย 161 ตำบล 1,366 หมู่บ้าน 96,714ครัวเรือน บ้านพังเสียหาย 114 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 163,969 ไร่ ถนนและสะพานขาดเสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายในขณะนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

** 'สุเทพ'ให้เพิ่มงบทดลองจ่ายจ.น้ำท่วม

วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่า รัฐบาลมีคณะกรรมการที่ดูแลประชาชนในเวลาที่ประสบภัย โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งจะดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ที่ประสบภัย ซึ่งจะมีการประชุมและเสนอครม.ในวันจันทร์ที่ 4 เม.ย.นี้ เพื่ออนุมัติความช่วยเหลือที่กำหนดแนวทางเอาไว้เพิ่มเติม สำหรับงบประมาณที่จะนำไปช่วยนั้น ปกติในจังหวัดจะมีงบประมาณ 50 ล้านบาท เป็นเงินทดลองจ่าย ที่ผู้ว่าฯ สามารถสั่งจ่ายได้ทันที และขณะนี้นายสาทิตย์ ก็ได้ขยายวงเงินให้เป็น 100 ล้านบาทในจังหวัดที่ประสบภัยแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งที่จะต้องขออนุมัติจาก ครม.ในวันจันทร์นี้ ก็คืองบกลางที่ทาง ศชอ. จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบครัวละ 5 พันบาท และเมื่อครม.อนุมัติ ก็สามารถจ่ายเงินชดเชยให้ได้ทันที

**เตรียมขออนุมัติงบ ครม.ซับน้ำใต้ 2 พันล้านจันทร์นี้

นายวิทเยนทร์ มุตตามุระ รองผู้อำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (คชอ.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมได้เสนอให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ครอบครัวละ 5,000 บาท ตามหลักเกณฑ์เดิม แม้ในบางครอบครัวอาจจะได้รับซ้ำในพื้นที่เดิม แต่ถือเป็นน้ำท่วมคนละคราว และความเสียหายต่างกัน บื้องต้นจะขออนุมัติงบ ครม. ให้แก่ผู้ประสบภัย 3 แสนครอบครัว ประมาณ 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้กรอบที่จะขอยังไม่ได้กำหนดชัดเจน ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปแต่คาดไม่น่าจะเกิน 2 ,000 ล้านบาท

**ประกาศเตือนทุกพื้นที่เฝ้าระวัง

ด้านนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองอธบดีกรมป้องกันสาธารณภัย กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษนั้น ในตอนนี้ได้มีการประกาศเตือนทุกพื้นที่ ที่อยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาและบริเวณที่เคยมีประสบการณ์น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ตรงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะบนภูเขาจะมีการอุ้มน้ำอยู่จำนวนมาก และฝนก็ตกหนักต่อเนื่อง ดังนั้นพื้นที่ที่อยู่ติดเชิงเขามีโอกาสได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามในพื้นที่เสี่ยงพิเศษเราจะดำเนินการให้หน่วยราชการเข้าไปอพยบเอาคนออก

**ผบ.ทร.ยันเอพยพนักท่องเที่ยวจากเกาะเต่า -พะงัน เสร็จภายในเย็นนี้

พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ได้สั่งการให้ พล.ร.อ.ณรงค์ เทศวิศาล ผบ.กองเรือยุทธการ จัดส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร พร้อมเฮลิคอปเตอร์และเรือท้องแบนมุ่งไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า จ.ชุมพร ประมาณ 2,000 คนและที่เกาะสมุย จ.สุราษฎรธานี 1,000 คน ซึ่งหากไม่ติดปัญหาเรื่องคลื่นลมและสภาพอากาศสามารถอพยพ นักท่องเที่ยวกลับได้ในเวลา 18.00 น.ของวานนี้(30 มี.ค.) เบื้องต้นจะส่งไปที่ท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่รองรับ นอกจากนี้อีกส่วนหนึ่งหากต้องการกลับไปลงเรือที่ ฐานทัพเรือสัตหีบก็ได้เช่นกัน

**'อ้อม-พิยดา'เผยนักท่องเที่ยวปลอดภัยออกจากเกาะเต่า

จากสถานณ์ฝนตกหนักน้ำท่วม คลื่นลมแรงที่ภาคใต้ทำให้นักท่องเที่ยวติดอยู่ที่เกาะต่างๆ ในเหตุการณ์นี้มีดารานักแสดง ป้อง-ณวัฒน์? กุลรัตนรักษ์ พระเอกจากละครเรื่องค่าของคน อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล นักแสดงสาว พร้อมสามี อาท-ศรา จุฑารัตนกุล ติดอยู่ที่เกาะเต่า พร้อมด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง ที่ติดอยู่ที่เกาะเต่า เป็นเวลาหลายวัน ซึ่งก่อนหน้านี้เรือหลวงจักกรีนฤเบศร ไม่สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ที่เกาะเต่าได้

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 มี.ค. นักแสดงสาว กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงสถานการณ์ที่เกาะเต่า ว่า ตอนนี้นักท่องเที่ยวทุกคนปลอดภัยและทยอยขึ้นเรือหลวงจักกรีนฤเบศร ที่มาช่วยนักท่องเที่ยวกลับขึ้นฝั่งเกือบหมดแล้ว ก่อนที่ตนจะออกมา เหลือนักท่องเที่ยวอยู่ประมาณ 50 คนที่รอขึ้นเรืออยู่ ส่วนตนกับสามี และพระเอก ป้อง-ณวัฒน์ กำลังจะขับรถกลับกรุงเทพฯ เพื่อลุยงานต่อ

**กรมชลฯเตือนแม่นำโก-ลกจ่อล้นตลิ่ง

ล่าสุดกรมชลประทาน ออกประกาศว่า แนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลก ยังคงสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณริมแม่น้ำ ในเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก ตลาดบ้านมูโนะ และพื้นทีอำเภอตากใบ ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในเวลา 04.00น.(31มี.ค.)
กำลังโหลดความคิดเห็น