รอยเตอร์ - การ์โลส สลิม อภิมหาเศรษฐีชาวเม็กซิโก ยังคงสามารถครองตำแหน่งผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ บิล เกตส์ และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกาะอยู่ในอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับทั้งนี้ตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ(9) โดยที่ระบุด้วยว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการที่เศรษฐกิจของเอเชียเฟื่องฟูมาก ทำให้จำนวนอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ ในรัสเซีย, จีน, และบราซิล มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากในปี 2011 นี้
อภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ (บิลเลียนแนร์) ในจีนปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัวเป็น 115 คน ขณะที่ในรัสเซียและบราซิลก็สูงขึ้นเกือบสองในสาม มาอยู่ที่ 101 และ 30 คนตามลำดับ ทั้งนี้ รัสเซียนั้นได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขึ้นแรงมาก ทางด้านบราซิลก็เช่นเดียวกัน แล้วยังได้ปัจจัยเสริมจากการที่ค่าเงินแข็ง
สำหรับอินเดียนั้น ปีนี้มีอภิมหาเศรษฐีพันล้าน 55 คน สูงขึ้นมา 6 คน
เมื่อรวม บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, และจีน หรือที่เรียกกันว่ากลุ่มประเทศบริก (BRIC) ปรากฏว่าเป็นผู้สร้างอภิมหาเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ที่เพิ่งติดอันดับครั้งแรกในปีนี้รวม 107 คน หรือครึ่งหนึ่งของพวกหน้าใหม่ทั้งหมดทีเดียว
ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่มีประเทศอื่นๆ นอกเหนือสหรัฐฯซึ่งมีผู้ติดอันดับเกินจำนวน 100 คน โดยที่สหรัฐฯเองปีนี้มีอภิมหาเศรษฐีพันล้านอยู่ทั้งสิ้น 413 คน ขณะเดียวกัน มอสโกได้แซงหน้านิวยอร์ก กลายเป็นเมืองที่พำนักของอภิมหาเศรษฐีพันล้านมากที่สุดคือ 79 คน ขณะที่นิวยอร์กมีอยู่ 58 คน
ต่อไปนี้ เป็นประวัติความเป็นมาย่อๆ ของผู้มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดของโลกปีนี้ 5 อันดับแรก
อันดับ 1การ์โลส สลิม (เม็กซิโก) ทรัพย์สิน: $74,000ล.ธุรกิจหลัก: โทรคมนาคม
สลิม ซึ่งปัจจุบันอายุ 71 ปี แสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถทางธุรกิจของเขาตั้งแต่เมื่ออายุ 10 ขวบ ในการขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวให้แก่ครอบครัว ต่อมาหลังจากศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และทำงานเป็นเทรดเดอร์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เม็กซิกัน เป็นที่ขึ้นชื่อเลื่องลือกันว่า สลิมซึ่งชอบสูบซิการ์เป็นอาจิณ เป็นผู้ที่มีสัญชาตญาณในเรื่องอ่านเกมขาดว่าควรเข้าไปซื้อกิจการอะไรที่กำลังทำท่าย่ำแย่ แล้วก็เปลี่ยนบริษัทเหล่านี้ให้กลายเป็นตัวทำเงินทำทอง
ทรัพย์สมบัติอันมากมายมหาศาลของเขา ดูขัดแย้งเป็นตรงกันข้ามกับวิถีดำเนินชีวิตของเขาซึ่งนิยมความประหยัดมัธยัสถ์ เวลานี้เขายังคงพำนักอยู่ในบ้านหลังเดียวกับที่เคยอยู่มาถึงราว 40 ปีแล้ว และยังคงขับรถยนต์เมอร์ซิเดส เบนซ์ คันเก่า ถึงแม้มันได้ถูกปรับปรุงติดเกราะกันกระสุน อีกทั้งมีขบวนรถของพวกองครักษ์คอยคุ้มกันอย่างแน่นหนา
ในระยะหลังๆ เขาให้ความสนใจเข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องการต่อสู้กำจัดความยากจน, ความไม่รู้หนังสือ, และการรักษาพยาบาลที่ยังย่ำแย่ในแถบละตินอเมริกา รวมทั้งสนใจส่งเสริมโครงการด้านการกีฬาเพื่อคนยากคนจน ทว่าเขายังไม่เคยเอ่ยปากว่ามีแผนการจะตัดแบ่งทรัพย์สินของเขาออกมาก้อนยักษ์ๆ เพื่อบริจาคให้แก่การกุศล
อันดับ 2บิล เกตส์ (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $56,000ล. กิจการหลัก: ไมโครซอฟท์
เพราะสัมผัสรับรู้ว่ายุคแห่งการปฏิวัติโดยเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว เกตส์ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 55 ปี จึงได้ตัดสินใจหยุดเรียนและออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตั้งแต่เมื่อปี 1975 เพื่อมาจัดตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และดำเนินงานด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังจะปรากฏอยู่บนโต๊ะทำงานทุกๆ โต๊ะ และตามบ้านเรือนทุกๆ หลัง ไมโครซอฟท์จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 1986 และพอถึงปีรุ่งขึ้น ราคาหุ้นที่พุ่งลิ่วก็ทำให้เกตส์ที่ตอนนั้นอายุ 31 ปี กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์ผู้มีอายุน้อยที่สุด ในประเภทที่สร้างตัวรวยด้วยตนเอง
ในปี 2008 เขาก้าวลงมาจากกิจการที่เวลานี้ก็ยังคงมีฐานะเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อมาทำงานในมูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ โดยที่ตัวเขาบริจาคทรัพย์สมบัติเป็นมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่มูลนิธิแห่งนี้
นอกจากนั้น เขากับ เมลินดา ผู้ภรรยา และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เพื่อนอภิมหาเศรษฐีของเขา ยังได้ออกเดินสายเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งมีบุคคลผู้ร่ำรวยระดับพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯจำนวน 57 ราย ยินดีร่วมลงนามใน “คำปฏิญาณ” และประกาศต่อสาธารณชนว่า จะบริจาคทรัพย์สินของพวกเขาอย่างน้อยที่สุด 50% ให้แก่การกุศลในช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือภายหลังที่พวกเขาถึงแก่กรรมแล้ว
อันดับ 3วอร์เรน บัฟเฟตต์ (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $50,000ล. กิจการหลัก: เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์
บัฟเฟตต์ เวลานี้อายุ 80 ปี ได้บริหารเครือข่ายธุรกิจอันมีกิจการหลายหลาก จากฐานของเขาในเมืองโอมาฮา มลรัฐเนแบรสกา ตั้งแต่ปี 1965 เครือข่ายธุรกิจดังกล่าวมีตั้งแต่กิจการรถไฟ การประกันภัย ไปจนถึงไอศกรีม
ในปี 2006 เขาประกาศให้สัญญาว่า จะบริจาคทรัพย์สมบัติของเขา 99% ให้แก่มูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ ตลอดจนองค์กรการกุศลต่างๆ ของครอบครัวของเขา จวบจนถึงเวลานี้เขาได้ให้เงินแก่มูลนิธิเกตส์ไปแล้วรวม 8,000 ล้านดอลลาร์
อันดับ 4แบร์กนาร์ อาร์โนลท์ (ฝรั่งแศส)ทรัพย์สิน: $41,000ล.กิจการหลัก: แอลวีเอ็มเอช
อาร์โนลท์ วัย 62 ปี เป็นเพื่อนคนหนึ่งของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส เขาสำเร็จการศึกษาจาก เอกอลล์ โปลีเตกนีก สถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติในด้านอบรมบ่มเพาะข้าราชการและนักการเมืองของแดนน้ำหอม แต่ตัวเขาเองนั้นเข้าทำงานในบริษัทก่อสร้างของบิดาเมื่อมีอายุ 25ปี เขาได้ชื่อว่าเป็นจอมเขมือบกิจการผู้ไร้ความปรานี ภายหลังที่ใช้ความพยายามจนสามารถขับไล่ไสส่งพวกผู้ถือหุ้นที่เป็นปรปักษ์ เมื่อตอนที่เขากำลังเริ่มต้นสร้างกลุ่มแอลวีเอ็มเอชขึ้นมาในทศวรรษ 1990 โดยที่กลุ่มนี้มี หลุยส์ วิตตอง, โมเอต์, และ เฮนเนสซี เป็นแบรนด์สินค้าหรูหราดังๆ ตัวหลักๆ
ปัจจุบันกลุ่มนี้มีฐานะเป็นกลุ่มกิจการสินค้าหรูหรารายใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้ว แต่ภาพลักษณ์ความเป็นนักล่าเขมือบกิจการยังคงยึดแน่นกับตัวเขาต่อมา เมื่อเขาพยายามเข้าเทคโอเวอร์อาณาจักร กุชชี ในช่วงปี 1999 และ 2000 ทว่าประสบความล้มเหลว อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์นี้เอง เขาสามารถเข้าครอบครอง บุลการี กิจการอัญมณีนามกระเดื่องแห่งกรุงโรม ด้วยราคา 5,180 ล้านดอลลาร์
อันดับ 5แลร์รี เอลลิสัน (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $39,500ล.กิจการหลัก: ออราเคิล คอร์ป
เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทออราเคิล เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการระเบิดอารมณ์เกรี้ยวกราดอย่างเปิดเผยและอย่างไม่มีบันยะบันยัง เข้าใส่เหล่าปรปักษ์ เป็นต้นว่า อดีตซีอีโอของ แซป เอจี บริษัทซอฟต์แวร์ดังสัญชาติเยอรมัน เมื่อปลายปีที่แล้ว เขาได้ออกมาประณามโจมตี ฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด และคณะกรรมการบริหารของบริษัทคอมพิวเตอร์พีซียักษ์ใหญ่แห่งนี้ จากการสั่งปลด มาร์ก เฮิร์ด ออกจากตำแหน่งซีอีโออย่างกะทันหัน เอลลิสันซึ่งเป็นเพื่อนกับเฮิร์ดมายาวนานระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม และจากนั้นก็ว่าจ้างเฮิร์ดให้มาทำงานกับออราเคิล
เอลลิสัน ยังมีชื่อในเรื่องกีฬา โดยเป็นผู้ชนะการแข่งขันเรือยอชต์ในรายการชิงถ้วย “อเมริกาส์ คัป” ปีที่แล้ว ปัจจุบันเขาถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้นำ “คนรุ่นเก่า” ของซิลิคอน แวลลีย์
อภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ (บิลเลียนแนร์) ในจีนปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัวเป็น 115 คน ขณะที่ในรัสเซียและบราซิลก็สูงขึ้นเกือบสองในสาม มาอยู่ที่ 101 และ 30 คนตามลำดับ ทั้งนี้ รัสเซียนั้นได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขึ้นแรงมาก ทางด้านบราซิลก็เช่นเดียวกัน แล้วยังได้ปัจจัยเสริมจากการที่ค่าเงินแข็ง
สำหรับอินเดียนั้น ปีนี้มีอภิมหาเศรษฐีพันล้าน 55 คน สูงขึ้นมา 6 คน
เมื่อรวม บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, และจีน หรือที่เรียกกันว่ากลุ่มประเทศบริก (BRIC) ปรากฏว่าเป็นผู้สร้างอภิมหาเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ที่เพิ่งติดอันดับครั้งแรกในปีนี้รวม 107 คน หรือครึ่งหนึ่งของพวกหน้าใหม่ทั้งหมดทีเดียว
ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่มีประเทศอื่นๆ นอกเหนือสหรัฐฯซึ่งมีผู้ติดอันดับเกินจำนวน 100 คน โดยที่สหรัฐฯเองปีนี้มีอภิมหาเศรษฐีพันล้านอยู่ทั้งสิ้น 413 คน ขณะเดียวกัน มอสโกได้แซงหน้านิวยอร์ก กลายเป็นเมืองที่พำนักของอภิมหาเศรษฐีพันล้านมากที่สุดคือ 79 คน ขณะที่นิวยอร์กมีอยู่ 58 คน
ต่อไปนี้ เป็นประวัติความเป็นมาย่อๆ ของผู้มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดของโลกปีนี้ 5 อันดับแรก
อันดับ 1การ์โลส สลิม (เม็กซิโก) ทรัพย์สิน: $74,000ล.ธุรกิจหลัก: โทรคมนาคม
สลิม ซึ่งปัจจุบันอายุ 71 ปี แสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถทางธุรกิจของเขาตั้งแต่เมื่ออายุ 10 ขวบ ในการขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวให้แก่ครอบครัว ต่อมาหลังจากศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และทำงานเป็นเทรดเดอร์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เม็กซิกัน เป็นที่ขึ้นชื่อเลื่องลือกันว่า สลิมซึ่งชอบสูบซิการ์เป็นอาจิณ เป็นผู้ที่มีสัญชาตญาณในเรื่องอ่านเกมขาดว่าควรเข้าไปซื้อกิจการอะไรที่กำลังทำท่าย่ำแย่ แล้วก็เปลี่ยนบริษัทเหล่านี้ให้กลายเป็นตัวทำเงินทำทอง
ทรัพย์สมบัติอันมากมายมหาศาลของเขา ดูขัดแย้งเป็นตรงกันข้ามกับวิถีดำเนินชีวิตของเขาซึ่งนิยมความประหยัดมัธยัสถ์ เวลานี้เขายังคงพำนักอยู่ในบ้านหลังเดียวกับที่เคยอยู่มาถึงราว 40 ปีแล้ว และยังคงขับรถยนต์เมอร์ซิเดส เบนซ์ คันเก่า ถึงแม้มันได้ถูกปรับปรุงติดเกราะกันกระสุน อีกทั้งมีขบวนรถของพวกองครักษ์คอยคุ้มกันอย่างแน่นหนา
ในระยะหลังๆ เขาให้ความสนใจเข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องการต่อสู้กำจัดความยากจน, ความไม่รู้หนังสือ, และการรักษาพยาบาลที่ยังย่ำแย่ในแถบละตินอเมริกา รวมทั้งสนใจส่งเสริมโครงการด้านการกีฬาเพื่อคนยากคนจน ทว่าเขายังไม่เคยเอ่ยปากว่ามีแผนการจะตัดแบ่งทรัพย์สินของเขาออกมาก้อนยักษ์ๆ เพื่อบริจาคให้แก่การกุศล
อันดับ 2บิล เกตส์ (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $56,000ล. กิจการหลัก: ไมโครซอฟท์
เพราะสัมผัสรับรู้ว่ายุคแห่งการปฏิวัติโดยเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว เกตส์ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 55 ปี จึงได้ตัดสินใจหยุดเรียนและออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตั้งแต่เมื่อปี 1975 เพื่อมาจัดตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และดำเนินงานด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังจะปรากฏอยู่บนโต๊ะทำงานทุกๆ โต๊ะ และตามบ้านเรือนทุกๆ หลัง ไมโครซอฟท์จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 1986 และพอถึงปีรุ่งขึ้น ราคาหุ้นที่พุ่งลิ่วก็ทำให้เกตส์ที่ตอนนั้นอายุ 31 ปี กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์ผู้มีอายุน้อยที่สุด ในประเภทที่สร้างตัวรวยด้วยตนเอง
ในปี 2008 เขาก้าวลงมาจากกิจการที่เวลานี้ก็ยังคงมีฐานะเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อมาทำงานในมูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ โดยที่ตัวเขาบริจาคทรัพย์สมบัติเป็นมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่มูลนิธิแห่งนี้
นอกจากนั้น เขากับ เมลินดา ผู้ภรรยา และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เพื่อนอภิมหาเศรษฐีของเขา ยังได้ออกเดินสายเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งมีบุคคลผู้ร่ำรวยระดับพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯจำนวน 57 ราย ยินดีร่วมลงนามใน “คำปฏิญาณ” และประกาศต่อสาธารณชนว่า จะบริจาคทรัพย์สินของพวกเขาอย่างน้อยที่สุด 50% ให้แก่การกุศลในช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือภายหลังที่พวกเขาถึงแก่กรรมแล้ว
อันดับ 3วอร์เรน บัฟเฟตต์ (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $50,000ล. กิจการหลัก: เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์
บัฟเฟตต์ เวลานี้อายุ 80 ปี ได้บริหารเครือข่ายธุรกิจอันมีกิจการหลายหลาก จากฐานของเขาในเมืองโอมาฮา มลรัฐเนแบรสกา ตั้งแต่ปี 1965 เครือข่ายธุรกิจดังกล่าวมีตั้งแต่กิจการรถไฟ การประกันภัย ไปจนถึงไอศกรีม
ในปี 2006 เขาประกาศให้สัญญาว่า จะบริจาคทรัพย์สมบัติของเขา 99% ให้แก่มูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ ตลอดจนองค์กรการกุศลต่างๆ ของครอบครัวของเขา จวบจนถึงเวลานี้เขาได้ให้เงินแก่มูลนิธิเกตส์ไปแล้วรวม 8,000 ล้านดอลลาร์
อันดับ 4แบร์กนาร์ อาร์โนลท์ (ฝรั่งแศส)ทรัพย์สิน: $41,000ล.กิจการหลัก: แอลวีเอ็มเอช
อาร์โนลท์ วัย 62 ปี เป็นเพื่อนคนหนึ่งของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส เขาสำเร็จการศึกษาจาก เอกอลล์ โปลีเตกนีก สถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติในด้านอบรมบ่มเพาะข้าราชการและนักการเมืองของแดนน้ำหอม แต่ตัวเขาเองนั้นเข้าทำงานในบริษัทก่อสร้างของบิดาเมื่อมีอายุ 25ปี เขาได้ชื่อว่าเป็นจอมเขมือบกิจการผู้ไร้ความปรานี ภายหลังที่ใช้ความพยายามจนสามารถขับไล่ไสส่งพวกผู้ถือหุ้นที่เป็นปรปักษ์ เมื่อตอนที่เขากำลังเริ่มต้นสร้างกลุ่มแอลวีเอ็มเอชขึ้นมาในทศวรรษ 1990 โดยที่กลุ่มนี้มี หลุยส์ วิตตอง, โมเอต์, และ เฮนเนสซี เป็นแบรนด์สินค้าหรูหราดังๆ ตัวหลักๆ
ปัจจุบันกลุ่มนี้มีฐานะเป็นกลุ่มกิจการสินค้าหรูหรารายใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้ว แต่ภาพลักษณ์ความเป็นนักล่าเขมือบกิจการยังคงยึดแน่นกับตัวเขาต่อมา เมื่อเขาพยายามเข้าเทคโอเวอร์อาณาจักร กุชชี ในช่วงปี 1999 และ 2000 ทว่าประสบความล้มเหลว อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์นี้เอง เขาสามารถเข้าครอบครอง บุลการี กิจการอัญมณีนามกระเดื่องแห่งกรุงโรม ด้วยราคา 5,180 ล้านดอลลาร์
อันดับ 5แลร์รี เอลลิสัน (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $39,500ล.กิจการหลัก: ออราเคิล คอร์ป
เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทออราเคิล เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการระเบิดอารมณ์เกรี้ยวกราดอย่างเปิดเผยและอย่างไม่มีบันยะบันยัง เข้าใส่เหล่าปรปักษ์ เป็นต้นว่า อดีตซีอีโอของ แซป เอจี บริษัทซอฟต์แวร์ดังสัญชาติเยอรมัน เมื่อปลายปีที่แล้ว เขาได้ออกมาประณามโจมตี ฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด และคณะกรรมการบริหารของบริษัทคอมพิวเตอร์พีซียักษ์ใหญ่แห่งนี้ จากการสั่งปลด มาร์ก เฮิร์ด ออกจากตำแหน่งซีอีโออย่างกะทันหัน เอลลิสันซึ่งเป็นเพื่อนกับเฮิร์ดมายาวนานระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม และจากนั้นก็ว่าจ้างเฮิร์ดให้มาทำงานกับออราเคิล
เอลลิสัน ยังมีชื่อในเรื่องกีฬา โดยเป็นผู้ชนะการแข่งขันเรือยอชต์ในรายการชิงถ้วย “อเมริกาส์ คัป” ปีที่แล้ว ปัจจุบันเขาถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้นำ “คนรุ่นเก่า” ของซิลิคอน แวลลีย์