แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า วันนี้ ครม.จะพิจารณาตามที่ครม.มีมติเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.53 อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวกับการปรับบัญชีเงินเดือนค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ รวม 9 ฉบับ และบัญชีค่าตอบแทนของประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ (กงช.) เสนอ และส่งให้ สคก.ตรวจพิจารณา โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.54 เป็นต้นไป เว้นแต่ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินเดือนประจำตำแหน่งและผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ (ฉบับที่..) พ.ศ..ในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มีผลใช้บังคับ เมื่อได้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในครั้งต่อไป และร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมการและกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.. ให้รับความเห็นชอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไป
“ส่วนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการนั้น มีสิทธิ์ปรับเงินเดือนตั้งแต่ 1 เม.ย.54 เช่นเดียวกับข้าราชการอื่น ดังนั้นหากจะกำหนดตามมติคณะรัฐมนตรี โดยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มตามบัญชีเงินประจำตำแหน่ง และเงินเพิ่มเมื่อได้มีการเลือกตั้ง เป็นการทั่วไปในครั้งต่อไปนั้น อาจมีประเด็นในข้อกฎหมายว่ายจะทำให้เกิดความลักลั่นในการได้รับการปรับอัตราค่าตอบแทน เนื่องจากข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองมีที่มาในทำนองเดียวกัน ต่างก็ได้รับการปรับอัตราเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 54”แหล่งข่าวกล่าว
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ (ฉบับที่..) พ.ศ..ในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มีผลใช้บังคับ เมื่อได้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในครั้งต่อไป และร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมการและกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.. ให้รับความเห็นชอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไป
“ส่วนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการนั้น มีสิทธิ์ปรับเงินเดือนตั้งแต่ 1 เม.ย.54 เช่นเดียวกับข้าราชการอื่น ดังนั้นหากจะกำหนดตามมติคณะรัฐมนตรี โดยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มตามบัญชีเงินประจำตำแหน่ง และเงินเพิ่มเมื่อได้มีการเลือกตั้ง เป็นการทั่วไปในครั้งต่อไปนั้น อาจมีประเด็นในข้อกฎหมายว่ายจะทำให้เกิดความลักลั่นในการได้รับการปรับอัตราค่าตอบแทน เนื่องจากข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองมีที่มาในทำนองเดียวกัน ต่างก็ได้รับการปรับอัตราเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 54”แหล่งข่าวกล่าว
