xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ชุมนุมเกลื่อนเมือง สะท้อนมาร์คเหลว มีผลประโยชน์แอบแฝง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เอแบคโพลล์เผยผลสำรวจประชาชนต่อการชุมนุมประท้วงทางการเมือง พบว่าร้อยละ 85 เกิดจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาลเอง เพราะเรื่องผลประโยชน์และการต่อรองอำนาจ ขณะที่สวนดุสิตโพลพบคนไทยหนุนฝ่ายค้านยื่นซักฟอก เน้นปัญหาปากท้อง

วานนี้ (6 มี.ค.) สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องประชาธิปไตยและการชุมนุมประท้วงทางการเมือง กับการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนของตำรวจ จากกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2,167 ตัวอย่าง เมื่อถามถึงสาเหตุของการชุมนุมประท้วงของกลุ่มการเมืองต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.1 ระบุเป็นเพราะความผิดพลาดในการทำงานของรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 27.9 ระบุไม่ใช่ นอกจากนี้ ร้อยละ 85.7 ระบุว่า เรื่องผลประโยชน์ การแย่งชิงอำนาจต่อรองแลกเปลี่ยนต่างๆ ยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ให้เกิดการชุมนุม ที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติของแกนนำผู้ชุมนุมประท้วงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พบว่าร้อยละ 63.2 คาดหวังให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำไปตามระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ร้อยละ 19.4 เท่านั้น ที่เห็นว่าเป็นไปตามความคาดหวังจริงๆ

เมื่อถามถึงความพึงพอใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลสถานการณ์การชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่างๆ พบว่า ร้อยละ 51.3 พอใจมากถึงมากที่สุด และร้อยละ 65.5 รู้สึกเห็นใจมากถึงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 80.5 เห็นด้วยกับการมีกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงขึ้นมาเป็นการเฉพาะ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.8 เห็นด้วยที่รัฐบาลและกลไกของหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ต้องเร่งปฏิรูปเปลี่ยนแปลงเพื่อสามารถรองรับปัญหาต่างๆ เพื่อป้องกันการชุมนุมประท้วงในอนาคต และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.5 เห็นด้วยกับความจำเป็นที่ต้องมีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐในการแก้ปัญหา การชุมนุมประท้วงโดยตรง ไม่ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานดูแลความปลอดภัยของประชาชนในชีวิตประจำวัน

ด้านสวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วไปต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ โดยประชาชนถึงร้อยละ 56.87 เห็นด้วยที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยร้อยละ 35.39 มองว่าจะได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นจริงและชัดเจนมากขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย

ส่วนผู้ที่จะเป็นผู้นำในการอภิปรายนั้น ในซีกรัฐบาล คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มากที่สุด รองลงมา คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายชวน หลีกภัย ตามลำดับ ขณะที่ฝ่ายค้าน ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มากที่สุด รองลงมา คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ตามลำดับ

ขณะที่เรื่องที่อยากให้มีการอภิปรายมากที่สุด คือ การดูแล ควบคุมราคาสินค้า น้ำมัน น้ำมันพืช น้ำตาล มากถึงร้อยละ 23.04 รองลงมา ได้แก่ การทุจริตคอร์รัปชั่น และการบริหารเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง

อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 47.83 มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่มีผลให้เกิดการยุบสภา ขณะเดียวกัน เห็นว่าการประชุมท้วงของกลุ่มคนเสื้อสีต่างๆ ไม่มีผลต่อการยุบสภา ถึงร้อยละ 44.92
กำลังโหลดความคิดเห็น