ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “โสภณ”แจง“หลินปิง”มีแววได้อยู่ต่ออีก 2 ปี แต่ต้องทางการจีนลงนาม-ประกาศเป็นทางการเอง ถ้าได้ถือเป็นประเทศที่สองในโลกที่จีนขยายสัญญาให้ ส่วนแฟนคลับเสียงแตกทั้งที่อยากส่งกลับบ้านไปอยู่ตามธรรมชาติ กับที่อยากให้อยู่ต่อไม่อยากให้พรากแม่-ลูก
นายโสภณ ดำนุ้ย อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ไทยได้เจรจากับจีน เพื่อขอขยายระยะเวลาการอยู่ในประเทศไทยของแพนด้าหลินปิงออกไปอีกสองปีว่า ขณะนี้ในส่วนของเอกสารสัญญาของทั้งสองฝ่ายนั้นจัดทำขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับทางฝ่ายจีนว่าจะลงนามและประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อใด โดยในระหว่างนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีการประสานงานระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายโสภณ กล่าวว่า แนวโน้มของการเจรจาก็คือ หลินปิงน่าจะได้อยู่ในประเทศไทยต่อไปอีกสองปี โดยที่ไทยจะต้องให้การสนับสนุนในส่วนของศูนย์อนุรักษ์แพนด้าเป็นเงินประมาณ 5 ล้านบาท แต่การยืนยันอย่างเป็นทางการนั้นต้องรอให้ผู้ใหญ่ของทางฝ่ายจีนเป็นผู้ลงนาม ซึ่งคาดว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้ของจีน
อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สามารถเลี้ยงแพนด้าต่อไปได้โดยไม่ต้องส่งกลับ แม้ว่าจะครบกำหนดตามระยะเวลาที่ทำไว้กับจีนแล้ว ขณะที่ประเทศอื่นๆ เมื่อครบกำหนดก็ต้องส่งแพนด้ากลับไปยังประเทศจีนทั้งหมด หากหลินปิงได้อยู่ต่อในประเทศไทยต่อไปอีกสองปี ก็จะถือว่าไทยเป้นประเทศที่สองที่จีนยินยอมให้แพนด้าขยายเวลาอยู่ในประเทศต่อได้
ขณะที่ความเคลื่อนไหวในประเทศไทยนั้น นายโสภณกล่าวว่ากลุ่มแฟนคลับของหลินปิงมีความเห็นออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเห็นว่าควรส่งกลับเพื่อให้หลินปิงได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ แต่อีกส่วนหนึ่งไม่ต้องการให้ส่งกลับ เนื่องจากอยากให้หลินปิงอยู่ในประเทศไทยต่อ และเห็นว่าเป็นการพรากหลินปิงไปจากแม่คือหลินฮุ่ย
โดยในขณะนี้ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้แยกหลินปิงกับหลินฮุ่ยออกจากกันมาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ก็คือ หลินฮุ่ยยังไม่มีอาการติดสัด ทั้งที่ตามปกติในช่วงเดือน ก.พ.จะเป็นช่วงที่แพนด้าพร้อมผสมพันธุ์ แต่เนื่องจากเมื่อแยกลุกแพนด้าออกจากแม่แล้ว ต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 50-60 วัน แม่แพนด้าจึงจะพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์อีกครั้ง ทำให้การผสมพันธุ์ตามธรรมชาติกับช่วงช่วงนั้นคงจะไม่ทัน ซึ่งทางสวนสัตว์คงจะใช้วิธีการผสมเทียมทดแทน โดยจะมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการผสมเทียมให้ได้ลูกแฝดด้วยว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
นายโสภณ ดำนุ้ย อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ไทยได้เจรจากับจีน เพื่อขอขยายระยะเวลาการอยู่ในประเทศไทยของแพนด้าหลินปิงออกไปอีกสองปีว่า ขณะนี้ในส่วนของเอกสารสัญญาของทั้งสองฝ่ายนั้นจัดทำขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับทางฝ่ายจีนว่าจะลงนามและประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อใด โดยในระหว่างนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีการประสานงานระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายโสภณ กล่าวว่า แนวโน้มของการเจรจาก็คือ หลินปิงน่าจะได้อยู่ในประเทศไทยต่อไปอีกสองปี โดยที่ไทยจะต้องให้การสนับสนุนในส่วนของศูนย์อนุรักษ์แพนด้าเป็นเงินประมาณ 5 ล้านบาท แต่การยืนยันอย่างเป็นทางการนั้นต้องรอให้ผู้ใหญ่ของทางฝ่ายจีนเป็นผู้ลงนาม ซึ่งคาดว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้ของจีน
อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สามารถเลี้ยงแพนด้าต่อไปได้โดยไม่ต้องส่งกลับ แม้ว่าจะครบกำหนดตามระยะเวลาที่ทำไว้กับจีนแล้ว ขณะที่ประเทศอื่นๆ เมื่อครบกำหนดก็ต้องส่งแพนด้ากลับไปยังประเทศจีนทั้งหมด หากหลินปิงได้อยู่ต่อในประเทศไทยต่อไปอีกสองปี ก็จะถือว่าไทยเป้นประเทศที่สองที่จีนยินยอมให้แพนด้าขยายเวลาอยู่ในประเทศต่อได้
ขณะที่ความเคลื่อนไหวในประเทศไทยนั้น นายโสภณกล่าวว่ากลุ่มแฟนคลับของหลินปิงมีความเห็นออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเห็นว่าควรส่งกลับเพื่อให้หลินปิงได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ แต่อีกส่วนหนึ่งไม่ต้องการให้ส่งกลับ เนื่องจากอยากให้หลินปิงอยู่ในประเทศไทยต่อ และเห็นว่าเป็นการพรากหลินปิงไปจากแม่คือหลินฮุ่ย
โดยในขณะนี้ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้แยกหลินปิงกับหลินฮุ่ยออกจากกันมาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ก็คือ หลินฮุ่ยยังไม่มีอาการติดสัด ทั้งที่ตามปกติในช่วงเดือน ก.พ.จะเป็นช่วงที่แพนด้าพร้อมผสมพันธุ์ แต่เนื่องจากเมื่อแยกลุกแพนด้าออกจากแม่แล้ว ต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 50-60 วัน แม่แพนด้าจึงจะพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์อีกครั้ง ทำให้การผสมพันธุ์ตามธรรมชาติกับช่วงช่วงนั้นคงจะไม่ทัน ซึ่งทางสวนสัตว์คงจะใช้วิธีการผสมเทียมทดแทน โดยจะมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการผสมเทียมให้ได้ลูกแฝดด้วยว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด