นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เบื้องต้นวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน มีมติร่วมกันคือกำหนดกรอบการอภิปราย 66 ชั่วโมง 4 วัน และลงมติวันที่ 5 แต่ขั้นตอนทั้งหมดอยู่ที่กระบวนการสภา เนื่องจากเอกสารฝ่ายค้านไม่พร้อม เพราะหายไป 3 แผ่น และลายเซ็นไม่ตรงกับของเดิม
ทั้งนี้หากประธานสภาสามารถบรรจุได้ในวันนี้ (4 มี.ค.) ก็จะเริ่มอภิปรายได้ในวันที่ 9 มี.ค. แต่หากไม่เสร็จ ก็ต้องเลื่อนเป็นสัปดาห์ถัดไป
**"เหลิม"บอก"เจ๊มิ่ง" พลาดท่า
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตนได้มอบประเด็นข้อมูลให้กับทีมอภิปรายหมดแล้ว และ ต้องการเปิดโอกาสให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส. สัดส่วน ในฐานะหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ทั้งนี้ตนจะรอดูในวันที่ 12 มี.ค. หากข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ตนก็จะเป็นผู้อภิปราย ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะอภิปราย 4 วัน เพราะจะทำให้รัฐบาลได้ประโยชน์ รวมถึงไม่ควรยื่นซักฟอกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะมีความสามารถในการชี้แจงให้ประชาชนคล้อยตามได้
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวด้วยว่า การอภิปรายในครั้งนี้จะชี้วัดการเลือกตั้งในครั้งหน้าเพียงบางส่วนเท่านั้น พร้อมทั้งปฏิเสธการวิจารณ์การทำหน้าที่ของนายมิ่งขวัญโดยอยากให้ติดตามการอภิปรายในสภา อาจจะมีทีเด็ดก็ได้
** ปัดเล่นเกมนอกสภา-ในสภา
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ออกมากล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทย เล่นการเมืองแบบตีสองหน้า เล่นการเมืองทั้งในสภา และนอกสภา โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 9 – 12 มี.ค.54 และกลุ่ม นปช.หรือ คนเสื้อแดง จะชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค.54 เพื่อหวังกดดันรัฐบาลพร้อมกันทั้ง 2 ด้านนั้น พรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธว่าไม่มีการตีสองหน้า ตามที่นายสุเทพกล่าวหา และโยนบาปมาให้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันเวลา 9 – 12 มี.ค.54 ฝั่งรัฐบาลเป็นผู้กำหนดโดยประธานวิปฝ่ายรัฐบาล ซึ่งน่าจะผ่านการเห็นชอบจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ มาเรียบร้อยแล้ว และเป็นการกำหนดร่วมกัน ตนอยากถามว่า แล้วทำไมฝ่ายรัฐบาลจึงไม่กำหนดเวลาการอภิปรายในช่วงหลังการชุมนุม ทั้ง ๆที่ตัวเองเป็นผู้กำหนดเกมวันเวลาการให้อภิปราย ตนจึงอยากถามกลับไปยังนายสุเทพ ว่า ที่เร่งกำหนดวันเวลาอภิปราย เพื่อจะเร่งวันยุบสภาหนีปัญหา ทั้งวิกฤตสินค้าแพง วิกฤตความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่ทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดฮวบฮาบ
" ผมรู้มาว่าจากการสำรวจล่าสุดของพรรคปชป. คะแนนนิยมเริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ และจะเสียเปรียบพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงกรณีที่คนเสื้อแดง จะมีการชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค. นั้น ก็เป็นการชุมนุมครบรอบ 1 ปี ที่มีการนัดหมายและประกาศกันล่วงหน้าไว้แล้ว ไม่ใช่รัฐบาลไม่รู้ นี่คือสิ่งที่นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ผู้นำรัฐบาล แสดงอาการหวั่นไหวจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน จึงออกมาใช้น้ำลายทำลายเครดิตพรรคเพื่อไทย กล่าวหาพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง เหมือนคนพูดน่าจะเป็นคนป่วยวิตกจริต แล้วเก็บอาการไม่อยู่ ออกมาโวยวายรายวัน "
** เย้ย"เทือก"ควรส่องกระจกดูตัวเอง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ขอให้นายสุเทพ หยุดกล่าวหาและใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยรายวัน เพื่อหวังผลทางการเมือง ในการดิสเครดิตทำลายน้ำหนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ควรหันเอาเวลาไปส่องกระจกดูผลงานของรัฐบาล และตัวเองที่ผ่านมาว่าบริหารมา 2 ปีกว่า มีฝีมือแค่ไหน ทำไมจึงมีแต่การทุจริต มีแต่การโกงกิน ปล่อยให้สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา แถมยังขาดตลาด สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยถ้วนหน้า โดยที่รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ และไร้น้ำยาในการแก้ไข ตนก็ไม่แปลกใจว่าทุกโพลที่สำรวจความนิยมว่ารัฐบาลชุดนี้สอบตกวิชาการบริหารเกือบทุกโพล เพราะข้อเท็จจริงแทนที่รัฐบาลชุดนี้จะบริหารโดยฝีมือ แต่กลับบริหารโดยฝีปาก มีแต่น้ำลายท่วมจอทุกๆวัน เป็นช่วงขาลงของรัฐบาลที่คะแนนตกต่ำ จึงหวังสร้างคะแนนนิยม โดยกล่าวหาพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงให้เป็นแพะทางการเมือง ถ้านายสุเทพ คนพูดยังไม่รู้สึกตัว ตนก็จะฝากกระจกไปให้เพื่อจะได้ส่องดูตัวเอง
** "ปู่จิ้น"ตั้งวอร์รูมป้อมข้อมูลให้รมต.
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้แสดงความหนักใจกับการที่พรรคเพื่อไทยจะใช้เวลาในการอภิปรายนานถึง 4 วัน โดยบอกว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ห่วงว่าจะเป็นการถูกดิสเครดิต เพราะการชี้แจงครั้งนี้จะทำให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้น และสุดท้ายพรรคได้คะแนนนิยมมากขึ้น รัฐมนตรีของพรรคทุกคน พร้อมที่จะชี้แจงตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน
" ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ละกระทรวงก็จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อสนับสนุนข้อมูลให้รัฐมนตรี ได้ชี้แจงในเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ การแต่งตั้งข้าราชการ สมาร์ทการ์ด ซึ่งเป็นเรื่องเดิมที่ได้เคยชี้แจงไปแล้ว ส่วนกรณีของรัฐมนตรีของพรรคอื่นเท่าที่ได้รับทราบไม่มีใครน่าห่วง ทุกคนพร้อม "
เมื่อถามว่าหากรัฐมนตรีคนไหนของพรรคชี้แจงไม่เคลียร์ จะต้องปรับเปลี่ยนหลังจากนั้นหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่ไม่มีน่ามีอะไร แต่ถ้าหากมีการอภิปรายนอกเรื่อง ที่ไม่ได้ทำ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
**ท้าอภิปรายสัญชาติ"มาร์ค"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า รัฐบาลได้ทำตามข้อเสนอที่ฝ่ายค้านเรียกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กำหนดวัน หรือเวลา แต่ทางพรรคเพื่อไทย ก็ยังขัดแย้งกันเอง อย่างกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า การอภิปรายระยะเวลา 5 วันนั้นยาวนานเกินไป และจะทำให้มีเนื้อหาในการอภิปรายไม่เพียงพอ ตนอยากจะให้พรรคเพื่อไทย ไปตกลงทำความเข้าใจกันด้วย แต่สหรับรัฐบาลนั้นมีความพร้อมที่จะชี้แจง เพื่อให้เกิดความกระจ่างก่อนการเลือกตั้งอย่างเต็มที่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงเรื่องสัญชาติ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี ที่พรรคเพื่อไทย พยายามหาประเด็นมาเพื่อไต่ถามนายกฯว่า เหตุใดนายกฯ ถึงไม่มีการสลับสัญชาตินั้น ตนคิดว่า เรื่องนี้หากพรรคเพื่อไทยมีข้อข้องใจ ก็น่าจะเอาเรื่องนี้เข้าสู่การอภิปรายได้ อีกทั้งการที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า นายกฯ ใช้สัญชาติอังกฤษ เพื่อเป็นเกราะกำบังนั้น ตนคิดว่านายอภิสิทธิ์ ไม่จำเป็นต้องให้เกราะกำบังใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าดูจากการบริหารประเทศที่ผ่านมา ซึ่งไม่เหมือนกับอดีตผู้นำของไทยบางคน
ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากกระบวนการทางสภาเสร็จสิ้นภายในวันนี้ การอภิปราย ก็สามารถเริ่มได้ตามกำหนดของวิปรัฐบาล คือตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. แต่หากไม่เสร็จสิ้น ก็อาจเลื่อนไปในสัปดาห์ต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมกับการชี้แจงอยู่แล้ว
ทั้งนี้หากประธานสภาสามารถบรรจุได้ในวันนี้ (4 มี.ค.) ก็จะเริ่มอภิปรายได้ในวันที่ 9 มี.ค. แต่หากไม่เสร็จ ก็ต้องเลื่อนเป็นสัปดาห์ถัดไป
**"เหลิม"บอก"เจ๊มิ่ง" พลาดท่า
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตนได้มอบประเด็นข้อมูลให้กับทีมอภิปรายหมดแล้ว และ ต้องการเปิดโอกาสให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส. สัดส่วน ในฐานะหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ทั้งนี้ตนจะรอดูในวันที่ 12 มี.ค. หากข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ตนก็จะเป็นผู้อภิปราย ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะอภิปราย 4 วัน เพราะจะทำให้รัฐบาลได้ประโยชน์ รวมถึงไม่ควรยื่นซักฟอกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะมีความสามารถในการชี้แจงให้ประชาชนคล้อยตามได้
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวด้วยว่า การอภิปรายในครั้งนี้จะชี้วัดการเลือกตั้งในครั้งหน้าเพียงบางส่วนเท่านั้น พร้อมทั้งปฏิเสธการวิจารณ์การทำหน้าที่ของนายมิ่งขวัญโดยอยากให้ติดตามการอภิปรายในสภา อาจจะมีทีเด็ดก็ได้
** ปัดเล่นเกมนอกสภา-ในสภา
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ออกมากล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทย เล่นการเมืองแบบตีสองหน้า เล่นการเมืองทั้งในสภา และนอกสภา โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 9 – 12 มี.ค.54 และกลุ่ม นปช.หรือ คนเสื้อแดง จะชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค.54 เพื่อหวังกดดันรัฐบาลพร้อมกันทั้ง 2 ด้านนั้น พรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธว่าไม่มีการตีสองหน้า ตามที่นายสุเทพกล่าวหา และโยนบาปมาให้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันเวลา 9 – 12 มี.ค.54 ฝั่งรัฐบาลเป็นผู้กำหนดโดยประธานวิปฝ่ายรัฐบาล ซึ่งน่าจะผ่านการเห็นชอบจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ มาเรียบร้อยแล้ว และเป็นการกำหนดร่วมกัน ตนอยากถามว่า แล้วทำไมฝ่ายรัฐบาลจึงไม่กำหนดเวลาการอภิปรายในช่วงหลังการชุมนุม ทั้ง ๆที่ตัวเองเป็นผู้กำหนดเกมวันเวลาการให้อภิปราย ตนจึงอยากถามกลับไปยังนายสุเทพ ว่า ที่เร่งกำหนดวันเวลาอภิปราย เพื่อจะเร่งวันยุบสภาหนีปัญหา ทั้งวิกฤตสินค้าแพง วิกฤตความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่ทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดฮวบฮาบ
" ผมรู้มาว่าจากการสำรวจล่าสุดของพรรคปชป. คะแนนนิยมเริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ และจะเสียเปรียบพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงกรณีที่คนเสื้อแดง จะมีการชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค. นั้น ก็เป็นการชุมนุมครบรอบ 1 ปี ที่มีการนัดหมายและประกาศกันล่วงหน้าไว้แล้ว ไม่ใช่รัฐบาลไม่รู้ นี่คือสิ่งที่นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ผู้นำรัฐบาล แสดงอาการหวั่นไหวจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน จึงออกมาใช้น้ำลายทำลายเครดิตพรรคเพื่อไทย กล่าวหาพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง เหมือนคนพูดน่าจะเป็นคนป่วยวิตกจริต แล้วเก็บอาการไม่อยู่ ออกมาโวยวายรายวัน "
** เย้ย"เทือก"ควรส่องกระจกดูตัวเอง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ขอให้นายสุเทพ หยุดกล่าวหาและใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยรายวัน เพื่อหวังผลทางการเมือง ในการดิสเครดิตทำลายน้ำหนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ควรหันเอาเวลาไปส่องกระจกดูผลงานของรัฐบาล และตัวเองที่ผ่านมาว่าบริหารมา 2 ปีกว่า มีฝีมือแค่ไหน ทำไมจึงมีแต่การทุจริต มีแต่การโกงกิน ปล่อยให้สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา แถมยังขาดตลาด สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยถ้วนหน้า โดยที่รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ และไร้น้ำยาในการแก้ไข ตนก็ไม่แปลกใจว่าทุกโพลที่สำรวจความนิยมว่ารัฐบาลชุดนี้สอบตกวิชาการบริหารเกือบทุกโพล เพราะข้อเท็จจริงแทนที่รัฐบาลชุดนี้จะบริหารโดยฝีมือ แต่กลับบริหารโดยฝีปาก มีแต่น้ำลายท่วมจอทุกๆวัน เป็นช่วงขาลงของรัฐบาลที่คะแนนตกต่ำ จึงหวังสร้างคะแนนนิยม โดยกล่าวหาพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงให้เป็นแพะทางการเมือง ถ้านายสุเทพ คนพูดยังไม่รู้สึกตัว ตนก็จะฝากกระจกไปให้เพื่อจะได้ส่องดูตัวเอง
** "ปู่จิ้น"ตั้งวอร์รูมป้อมข้อมูลให้รมต.
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้แสดงความหนักใจกับการที่พรรคเพื่อไทยจะใช้เวลาในการอภิปรายนานถึง 4 วัน โดยบอกว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ห่วงว่าจะเป็นการถูกดิสเครดิต เพราะการชี้แจงครั้งนี้จะทำให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้น และสุดท้ายพรรคได้คะแนนนิยมมากขึ้น รัฐมนตรีของพรรคทุกคน พร้อมที่จะชี้แจงตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน
" ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ละกระทรวงก็จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อสนับสนุนข้อมูลให้รัฐมนตรี ได้ชี้แจงในเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ การแต่งตั้งข้าราชการ สมาร์ทการ์ด ซึ่งเป็นเรื่องเดิมที่ได้เคยชี้แจงไปแล้ว ส่วนกรณีของรัฐมนตรีของพรรคอื่นเท่าที่ได้รับทราบไม่มีใครน่าห่วง ทุกคนพร้อม "
เมื่อถามว่าหากรัฐมนตรีคนไหนของพรรคชี้แจงไม่เคลียร์ จะต้องปรับเปลี่ยนหลังจากนั้นหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่ไม่มีน่ามีอะไร แต่ถ้าหากมีการอภิปรายนอกเรื่อง ที่ไม่ได้ทำ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
**ท้าอภิปรายสัญชาติ"มาร์ค"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า รัฐบาลได้ทำตามข้อเสนอที่ฝ่ายค้านเรียกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กำหนดวัน หรือเวลา แต่ทางพรรคเพื่อไทย ก็ยังขัดแย้งกันเอง อย่างกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า การอภิปรายระยะเวลา 5 วันนั้นยาวนานเกินไป และจะทำให้มีเนื้อหาในการอภิปรายไม่เพียงพอ ตนอยากจะให้พรรคเพื่อไทย ไปตกลงทำความเข้าใจกันด้วย แต่สหรับรัฐบาลนั้นมีความพร้อมที่จะชี้แจง เพื่อให้เกิดความกระจ่างก่อนการเลือกตั้งอย่างเต็มที่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงเรื่องสัญชาติ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี ที่พรรคเพื่อไทย พยายามหาประเด็นมาเพื่อไต่ถามนายกฯว่า เหตุใดนายกฯ ถึงไม่มีการสลับสัญชาตินั้น ตนคิดว่า เรื่องนี้หากพรรคเพื่อไทยมีข้อข้องใจ ก็น่าจะเอาเรื่องนี้เข้าสู่การอภิปรายได้ อีกทั้งการที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า นายกฯ ใช้สัญชาติอังกฤษ เพื่อเป็นเกราะกำบังนั้น ตนคิดว่านายอภิสิทธิ์ ไม่จำเป็นต้องให้เกราะกำบังใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าดูจากการบริหารประเทศที่ผ่านมา ซึ่งไม่เหมือนกับอดีตผู้นำของไทยบางคน
ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากกระบวนการทางสภาเสร็จสิ้นภายในวันนี้ การอภิปราย ก็สามารถเริ่มได้ตามกำหนดของวิปรัฐบาล คือตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. แต่หากไม่เสร็จสิ้น ก็อาจเลื่อนไปในสัปดาห์ต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมกับการชี้แจงอยู่แล้ว
