xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับ มือบึ้มยะลา ก่อคดีซ้ำซาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-ตำรวจยะลา สเกตช์ภาพโจรใต้มือกดระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ใจกลางเมืองยะลาได้แล้ว เตรียมออกหมายจับ "อายุ ดอเลาะ" ผู้ต้องหาความผิดคดีความมั่นคงหลายคดี คาดเป็นกลุ่มเดียวกับเหตุคาร์บอมบ์ก่อนหน้านี้ “มาร์ค” ยันรัฐบาลแก้ปัญหาไฟใต้ถูกทาง ไม่มีอุ้มฆ่าตัดตอน "สุเทพ"หงุดหงิดติงเจ้าหน้าที่ทำงานไม่เต็มที่ มส.ห้ามพระปัตตานี 200 วัดงดบิณฑบาตร 1 เดือน

พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ บรรจุระเบิดมาจอดไว้ตรงข้ามร้านข้าวต้มโชคดี ถนนระนอง เขตเทศบาลนครยะลาแล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่รถยนต์ของตำรวจทางหลวงวิ่งผ่านเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย บาดเจ็บ 17 รายเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพจากวงจรปิดมาสเกตช์ภาพเพื่อขยายผลในการติดตามหาตัวคนร้าย เบื้องต้นทราบว่าเป็นนายอายุ ดอเลาะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 4 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จส.317/2552 ลงวันที่ 20 ก.ย.2552 ในความผิดคดีความมั่นคงของ สภ.เมืองยะลา ซึ่งตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.สภ.เมืองยะลา ขออนุญาตศาลเพื่อออกหมายจับอีกข้อหาหนึ่งแล้ว

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุได้ตรวจสอบวัตถุพยานและภาพวงจรปิด พบว่า คนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์เงิน ที่บรรจุระเบิดไว้ในถังดับเพลิงขนาดเล็กซุกซ่อนไว้ในรถนำมาจอดไว้รวมกับรถจักรยานยนต์หลายๆ คันของชาวบ้านที่จอดเรียงรายอยู่ก่อนกว่า 20 คัน ริมฟุตบาทหน้าร้านทองรุ่งอนันต์ หลังจากจอดเรียบร้อยแล้ว คนร้ายได้เดินออกไปทางหน้าร้านดาวเทียมที่อยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตรแล้วมีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง พาหลบหนี

ส่วนผู้ที่มีหน้าที่กดชนวนระเบิด คาดว่าจะเป็นอีกคนที่เฝ้าดูในระยะที่มองเห็นเป้า และมีภาพปรากฏในวงจรปิดเห็นลักษณะและใบหน้าของคนที่กดอย่างชัดเจนและนำพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ข้อมูลเพื่อสเกตซ์ภาพคนที่กดระเบิด จนทราบว่าเป็นนายอายุ ดอเลาะ สำหรับการกดชนวนระเบิดนั้นการตรวจสอบของชุดอีโอดีพบว่าคนร้ายใช้วิทยุสื่อสารในการกดชนวน

"กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีการเชื่อมโยงกับการก่อเหตุคาร์บอมบ์ในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่ามีการเข้ามาจากพื้นที่ ต.ท่าสาป เหมือนกัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจสอบสะเก็ดระเบิดอย่างละเอียดเพื่อหาร่องรอยความเหมือนมาจากแหล่งผลิตที่เดียวกันหรือไม่ เนื่องจากเหตุคาร์บอมบ์กับเหตุระเบิดในหลายๆ จุดในเขตเทศบาลนครยะลา พบว่าที่มาของสะเก็ดระเบิดมาจากแหล่งเดียวกันทั้งหมดจึงคาดว่าจะมีแหล่งผลิตอยู่ใกล้กับเขตเมืองยะลาแน่นอน"ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าว
    
**“มาร์ค”ยันรัฐบาลแก้ไฟใต้ถูกทาง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ถึงกรณี 3จังหวัดชายแดนใต้ที่มีการก่อเหตุรุนแรงรายวันว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลยังคงต้องใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร และยืนยันว่าเราต้องเดินหน้าช่วงชิงในเรื่องการพัฒนาเข้าถึงประชาชน แต่ตนไม่ได้บอกว่าเหตุการณ์จะหมดไป และเราก็ทราบว่าบางช่วงเหตุการณ์จะมีการตอบโต้อย่างรุนแรง ซึ่งต้องคิดถึงยุทธศาสตร์ฝ่ายตรงข้ามด้วย โดยเราต้องมาแก้ไขปัญหา และขณะนี้สิ่งที่ต้องปรับมากขึ้น คือ การดูแลในเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการตั้งด่าน

อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ยอมรับในการเข้มงวดกวดขันมากขึ้น และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะประสานงานกันในแง่ของการทำงานที่ด่านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่มีนโยบายที่จะกลับไปใช้วิธีการที่บอกว่า ไปอุ้มฆ่าเพื่อแก้ปัญหา ไม่มีแน่
    
**"สุเทพ"ติงเจ้าหน้าที่ทำงานไม่เต็มที่

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นถี่ ตนก็กลุ้มใจและจะต้องขอให้ทางพื้นที่ทั้งตำรวจ ทหารปรับปรุงกระบวนการปิดล้อม การตรวจค้นให้แข็งแรงและถี่ขึ้น ตนเข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก เพราะเวลาที่มีการตั้งด่านตรวจค้นอย่างแข็งขัน คนเดินทางไปมาไม่สะดวก เกิดอารมณ์หงุดหงิดและเมื่อเจ้าหน้าที่หย่อนลงก็ทำให้เกิดเหตุร้ายได้

"คิดว่าทุกฝ่ายต้องพูดจาทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนว่าในสถานการณ์อย่างนี้ มีความจำเป็นอย่างไร และคงไม่ไปฝากความหวังกับเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจแต่เพียงอย่างเดียว อาสาสมัครฝ่ายพลเรือน ผู้ว่าฯ นายอำเภอ และเลขาฯศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เองก็ต้องลงมาทำหน้าที่ตรงนี้ทำเรื่องนี้ ลอยตัวอยู่ไม่ได้ จะต้องไปดำเนินการซักซ้อมกันใหม่"นายสุเทพกล่าว

***มส.ห้ามพระ200วัดออกบิณฑบาตร

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อเร็วๆ นี้  ได้เห็นชอบให้วัดในพื้นที่เขตจังหวัดปัตตานี จำนวน 200 วัด งดออกบิณฑบาต เป็นเวลา 1 เดือน จนถึงเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่พระสงฆ์ไม่ได้ออกบิณฑบาตนั้น พศ.จะได้จัดสรรเงินกองทุนเพื่อถวายวัดเป็นค่าภัตตาหารแก่พระภิกษุจำนวนรูปละ 100 บาทต่อวัน ทั้ง 200 วัด เพื่อไว้ใช้ยังชีพด้วย
 
กำลังโหลดความคิดเห็น