ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เดินหน้าติวเข้มผู้ประกอบการใช้หลักธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ ตั้งเป้าปีนี้ทำได้ 3 พันราย
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยในการเปิดงานสัมมนา “เสริมสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมีธรรมมาภิบาล” วานนี้ (22 ก.พ.) ว่า กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการผลักดันให้ธุรกิจของไทยใช้หลักธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายปีนี้จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 พันราย จากผู้ประกอบการธุรกิจที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของกรมฯ จำนวนกว่า 5 แสนราย เพราะที่ผ่านมา การประกอบธุรกิจส่วนใหญ่มักจะละเลยการสร้างธรรมาภิบาล ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ จนส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ แนวทางในการดำเนินการ กรมฯ จะผลักดันให้ธุรกิจมีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายที่กรมฯ รับผิดชอบอยู่ เช่น พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2543 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ลักษณะ 22 ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัท) และพ.ร.บ.บริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ.2535 โดยจะมีการจัดฝึกอบรมทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคจำนวน 7 ครั้ง ตั้งเป้ามีผู้ประกอบการมาเข้าร่วมอบรมครั้งละไม่ต่ำกว่า 500 ราย
“ต้องการผลักดันให้ธุรกิจไทยมีธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยอยากให้ภาคธุรกิจมีการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ โดยกรมฯ จะมีการกำกับการดูแลธุรกิจตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบตามกฎหมายห้างหุ้นส่วนจำกัด กฎหมายคนต่างด้าว กฎหมายบัญชี เพื่อให้ธุรกิจมีความโปร่งใส และมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ”นายบรรยงค์กล่าว
ปี 2554 นี้ กรมฯ ได้ผลักดันให้เป็นปีแห่งบริการสร้างสรรค์และธรรมาภิบาลธุรกิจ จึงได้จัดทำโครงการเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจของไทยมีการบริหารงานอย่างโปร่งใส ปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง อันจะเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจของไทย
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยในการเปิดงานสัมมนา “เสริมสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมีธรรมมาภิบาล” วานนี้ (22 ก.พ.) ว่า กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการผลักดันให้ธุรกิจของไทยใช้หลักธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายปีนี้จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 พันราย จากผู้ประกอบการธุรกิจที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของกรมฯ จำนวนกว่า 5 แสนราย เพราะที่ผ่านมา การประกอบธุรกิจส่วนใหญ่มักจะละเลยการสร้างธรรมาภิบาล ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ จนส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ แนวทางในการดำเนินการ กรมฯ จะผลักดันให้ธุรกิจมีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายที่กรมฯ รับผิดชอบอยู่ เช่น พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2543 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ลักษณะ 22 ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัท) และพ.ร.บ.บริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ.2535 โดยจะมีการจัดฝึกอบรมทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคจำนวน 7 ครั้ง ตั้งเป้ามีผู้ประกอบการมาเข้าร่วมอบรมครั้งละไม่ต่ำกว่า 500 ราย
“ต้องการผลักดันให้ธุรกิจไทยมีธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยอยากให้ภาคธุรกิจมีการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ โดยกรมฯ จะมีการกำกับการดูแลธุรกิจตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบตามกฎหมายห้างหุ้นส่วนจำกัด กฎหมายคนต่างด้าว กฎหมายบัญชี เพื่อให้ธุรกิจมีความโปร่งใส และมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ”นายบรรยงค์กล่าว
ปี 2554 นี้ กรมฯ ได้ผลักดันให้เป็นปีแห่งบริการสร้างสรรค์และธรรมาภิบาลธุรกิจ จึงได้จัดทำโครงการเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจของไทยมีการบริหารงานอย่างโปร่งใส ปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง อันจะเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจของไทย
