ASTVผู้จัดการรายวัน - เกิดเหตุจราจลภายในเรือนจำกลางจังหวัดราชบุรี ส่งผลให้มีนักโทษเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บนับสิบ ผบ.เรือนจำ สั่งตั้งกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงใน 3 วัน
วานนี้ (17 ก.พ.) เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ห้องวิทยุของ สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งจากเรือนจำกลางราชบุรีเพื่อประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุนักโทษในแดน 4 ก่อจลาจลภายในเรือนจำ ภายหลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อาคเนย์ แดงด้อมยุทธ์ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิราชานุสรณ์กว่า 200 นายเดินทางไปที่เรือนจำกลางราชบุรีในทันที
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง จึงเข้าประจำอยู่บริเวณภายนอกเรือนจำ โดยมี พล.ต.ต.เพชรรัตน์ แสงไชย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายครรลอง ยุทธชัย ปลัดจังหวัดราชบุรี และนายสมบูรณ์ ศิริเวช นายอำเภอเมือง คอยสั่งการ ระหว่างนั้นที่บริเวณประตูหน้าแดน 4 มีนักโทษจำนวนหนึ่ง พยายามพังประตูออกมา เจ้าหน้าที่จึงใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เพราะนักโทษบางคนมีอาวุธทั้งมีด ไม้ และเหล็กแหลม จึงเกิดการปะทะกันขึ้น ทำให้นักโทษและเจ้าหน้าที่ต่างได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ภายใน แต่นักโทษยังไม่ยอมสงบ อีกทั้งกลุ่มนักโทษที่ก่อจลาจลในแดน 4 มีกว่า 100 คน ทำให้ยากต่อการควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมให้นักโทษที่กำลังขว้างปาข้าวของรวมทั้งขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่หยุด และให้ขึ้นเรือนนอน แต่มีนักโทษชายกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นหัวโจกในการก่อจลาจลครั้งนี้ประมาณ 40 คน ยังไม่ยอมขึ้นเรือนนอนและพยายามใช้อาวุธมีดที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองเข้ามาทำร้าย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องตัดสินใจหยุดกลุ่มนักโทษเหล่านี้ด้วยอาวุธปืน ทำให้มีนักโทษเสียชีวิตทันที 2 ราย ทราบชื่อ ต่อมาคือนักโทษชายเดชะ จรสุข อายุ 32 ปี นักโทษคดียาเสพติดที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำคลองเปรม และนักโทษชายจืด เกิดศรีเล็ก อายุ 31 ปี นักโทษในคดียาเสพติด จากนั้นเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปเคลียร์พื้นที่กระทั่งสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 40 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขัง
นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุนั้นเริ่มมาจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเรือนจำไปตรวจพบว่า รั้วลวดหนามด้านหลังของแดน 4 นั้น ถูกตัดขาด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตั้งกรรมการสืบสวนหาคนที่มาตัดรั้วลวดหนามให้ได้ภายใน 3 วัน จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. เป็นเวลาที่นักโทษจะต้องขึ้นเรือนนอน แต่กลับไม่ยอมขึ้น และเริ่มก่อหวอดโดยการขว้างปาสิ่งของ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักโดย เริ่มการเจรจาและขอร้องให้นักโทษขึ้นเรือนนอน แต่มีนักโทษกลุ่มของผู้ตายประมาณ 40 คน พยายามที่จะยุยงนักโทษคนอื่นๆ ไม่ให้ทำตามเจ้าหน้าที่และยังเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ทำให้ต้องใช้มาตรการหนักคือวิสามัญฆาตกรรม เพื่อหยุดการกระทำของกลุ่มนักโทษเหล่านี้
"เหตุการณ์นี้ถือรั้งแรกตั้งแต่ย้ายเรือนจำกลางจากในตัวอำเภอเมืองมาอยู่ที่ หมู่ 6 ต.น้ำพุ อ.เมือง เกือบสิบปีแล้ว ส่วนนักโทษที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ได้ทำการแยกกักขัง และจะได้สอบสวนเพื่อลงโทษสถานหนักต่อไป" ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี กล่าว อย่างไรก็ตามได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยให้ทราบผลภายใน 3 วัน
วานนี้ (17 ก.พ.) เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ห้องวิทยุของ สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งจากเรือนจำกลางราชบุรีเพื่อประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุนักโทษในแดน 4 ก่อจลาจลภายในเรือนจำ ภายหลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อาคเนย์ แดงด้อมยุทธ์ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิราชานุสรณ์กว่า 200 นายเดินทางไปที่เรือนจำกลางราชบุรีในทันที
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง จึงเข้าประจำอยู่บริเวณภายนอกเรือนจำ โดยมี พล.ต.ต.เพชรรัตน์ แสงไชย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายครรลอง ยุทธชัย ปลัดจังหวัดราชบุรี และนายสมบูรณ์ ศิริเวช นายอำเภอเมือง คอยสั่งการ ระหว่างนั้นที่บริเวณประตูหน้าแดน 4 มีนักโทษจำนวนหนึ่ง พยายามพังประตูออกมา เจ้าหน้าที่จึงใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เพราะนักโทษบางคนมีอาวุธทั้งมีด ไม้ และเหล็กแหลม จึงเกิดการปะทะกันขึ้น ทำให้นักโทษและเจ้าหน้าที่ต่างได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ภายใน แต่นักโทษยังไม่ยอมสงบ อีกทั้งกลุ่มนักโทษที่ก่อจลาจลในแดน 4 มีกว่า 100 คน ทำให้ยากต่อการควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมให้นักโทษที่กำลังขว้างปาข้าวของรวมทั้งขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่หยุด และให้ขึ้นเรือนนอน แต่มีนักโทษชายกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นหัวโจกในการก่อจลาจลครั้งนี้ประมาณ 40 คน ยังไม่ยอมขึ้นเรือนนอนและพยายามใช้อาวุธมีดที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองเข้ามาทำร้าย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องตัดสินใจหยุดกลุ่มนักโทษเหล่านี้ด้วยอาวุธปืน ทำให้มีนักโทษเสียชีวิตทันที 2 ราย ทราบชื่อ ต่อมาคือนักโทษชายเดชะ จรสุข อายุ 32 ปี นักโทษคดียาเสพติดที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำคลองเปรม และนักโทษชายจืด เกิดศรีเล็ก อายุ 31 ปี นักโทษในคดียาเสพติด จากนั้นเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปเคลียร์พื้นที่กระทั่งสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 40 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขัง
นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุนั้นเริ่มมาจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเรือนจำไปตรวจพบว่า รั้วลวดหนามด้านหลังของแดน 4 นั้น ถูกตัดขาด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตั้งกรรมการสืบสวนหาคนที่มาตัดรั้วลวดหนามให้ได้ภายใน 3 วัน จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. เป็นเวลาที่นักโทษจะต้องขึ้นเรือนนอน แต่กลับไม่ยอมขึ้น และเริ่มก่อหวอดโดยการขว้างปาสิ่งของ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักโดย เริ่มการเจรจาและขอร้องให้นักโทษขึ้นเรือนนอน แต่มีนักโทษกลุ่มของผู้ตายประมาณ 40 คน พยายามที่จะยุยงนักโทษคนอื่นๆ ไม่ให้ทำตามเจ้าหน้าที่และยังเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ทำให้ต้องใช้มาตรการหนักคือวิสามัญฆาตกรรม เพื่อหยุดการกระทำของกลุ่มนักโทษเหล่านี้
"เหตุการณ์นี้ถือรั้งแรกตั้งแต่ย้ายเรือนจำกลางจากในตัวอำเภอเมืองมาอยู่ที่ หมู่ 6 ต.น้ำพุ อ.เมือง เกือบสิบปีแล้ว ส่วนนักโทษที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ได้ทำการแยกกักขัง และจะได้สอบสวนเพื่อลงโทษสถานหนักต่อไป" ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี กล่าว อย่างไรก็ตามได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยให้ทราบผลภายใน 3 วัน