ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ -ผู้การยะลาเผยกลุ่มก่อเหตุคาร์บอมบ์มีความเชื่อมโยงกับคนร้ายที่ยิงทหารพราน ชุดรปภ. พระ และเหตุคาร์บอมบ์หน้าแขวงการทาง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ด้านจังหวัดเร่งเยียวยาผู้ที่บ้านได้รับความเสียหาย โดยจะเร่งสร้างอาคารใหม่ทดแทนให้ภายใน 6 เดือน
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ได้เกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิดน้ำหนักหลายสิบกิโลกรัม มาจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก และมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยความคืบหน้าในเรื่องคดี วานนี้ (15 ก.พ.) ว่า ได้ตั้งคณะทำงานในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยพบว่าคนที่ร้ายที่ก่อเหตุในจ.ยะลา ยังก่อเหตุในพื้นที่ของ จ.นราธิวาส และปัตตานีด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกัน
ส่วนรถยนต์ที่นำไปเป็นคาร์บอมบ์ ตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซู โกลด์ซีรีส์ สีดำ มีหลังคาแครี่บอย หมายเลขทะเบียน ผก 383 สงขลา ซึ่งถูกขโมย เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2553 ใน อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งได้รับแจ้งความไว้แล้ว โดยคนร้ายได้นำป้ายทะเบียนปลอมหมายเลข ผก.9253 ปัตตานี มาใส่แทน
ทั้งนี้ การก่อเหตุในครั้งนี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มาสด้า BT 2500 ยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ร.5011 ชุดคุ้มครองพระ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 2 นาย พระสงฆ์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 รูป เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ธ.ค.2553 และคนร้ายได้นำรถยนต์ที่ก่อเหตุยิงทหารชุดคุ้มครองพระ ไปประกอบเป็นคาร์บอมบ์นำไปจอดหน้าแขวงการทาง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้พนักงานหมวดการทางบาเจาะได้รับรับบาดเจ็บ 3 ราย ชาวบ้าน 1 รายอาคารใกล้เคียงเสียหายเล็กน้อย เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์มาสด้าที่คนร้ายนำไปเป็นคาร์บอมบ์ มีป้ายวงกลมของรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซู โกลด์ซีรีส์ สีดำ ที่คนร้ายนำมาเป็นคาร์บอมบ์ อยู่ในรถยนต์คันนั้นอีกด้วย ส่วนผู้ที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวมาซักถามข้อมูล9 ราย ยังไม่สามารถเปิดเผยในเชิงลึกได้
ที่ห้องประชุมแขวงการทางยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดกลางเมืองยะลา โดยมีเจ้าของอาคารที่ได้รับความเสียหายจำนวน 20 ราย เข้าร่วมประชุม
นายอภินันท์กล่าวว่า การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ จะมีการสร้างอาคารพาณิชย์มาทดแทนอาคารที่ได้รับความเสียหายให้เสร็จภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยมอบให้เทศบาลนครยะลาเป็นผู้รับผิดชอบ ในการรื้อถอนสิ่งหักพังของตัวอาคารออกไปโดยไม่มีคิดมูลค่า และให้เจ้าของอาคารที่ต้องการสร้างอาคารที่เกินกว่าวงเงินเยียวยาที่ได้รับ ให้เจ้าของอาคารเป็นผู้รับผิดชอบในการสมทบเพิ่ม ซึ่งเจ้าของอาคารต่างยินยอมรับหลักการ และกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก เนื่องจากพื้นที่ย่านดังกล่าวเกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์มาแล้วถึง 4 ครั้ง
ด้านพ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อพบปะกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพูดคุยรับทราบปัญหา และแนวทางในการประสานงานให้ความช่วยเหลือ โดยระบุว่า จะนำสิ่งที่ชาวบ้านพูดคุย ไปประชุมปรับแผนร่วมกับฝ่ายตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อบูรณาการแผนการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินในบริเวณย่านการค้า ย่านชุมชน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการปรับแผนการทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ได้เกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิดน้ำหนักหลายสิบกิโลกรัม มาจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก และมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยความคืบหน้าในเรื่องคดี วานนี้ (15 ก.พ.) ว่า ได้ตั้งคณะทำงานในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยพบว่าคนที่ร้ายที่ก่อเหตุในจ.ยะลา ยังก่อเหตุในพื้นที่ของ จ.นราธิวาส และปัตตานีด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกัน
ส่วนรถยนต์ที่นำไปเป็นคาร์บอมบ์ ตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซู โกลด์ซีรีส์ สีดำ มีหลังคาแครี่บอย หมายเลขทะเบียน ผก 383 สงขลา ซึ่งถูกขโมย เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2553 ใน อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งได้รับแจ้งความไว้แล้ว โดยคนร้ายได้นำป้ายทะเบียนปลอมหมายเลข ผก.9253 ปัตตานี มาใส่แทน
ทั้งนี้ การก่อเหตุในครั้งนี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มาสด้า BT 2500 ยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ร.5011 ชุดคุ้มครองพระ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 2 นาย พระสงฆ์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 รูป เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ธ.ค.2553 และคนร้ายได้นำรถยนต์ที่ก่อเหตุยิงทหารชุดคุ้มครองพระ ไปประกอบเป็นคาร์บอมบ์นำไปจอดหน้าแขวงการทาง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้พนักงานหมวดการทางบาเจาะได้รับรับบาดเจ็บ 3 ราย ชาวบ้าน 1 รายอาคารใกล้เคียงเสียหายเล็กน้อย เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์มาสด้าที่คนร้ายนำไปเป็นคาร์บอมบ์ มีป้ายวงกลมของรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซู โกลด์ซีรีส์ สีดำ ที่คนร้ายนำมาเป็นคาร์บอมบ์ อยู่ในรถยนต์คันนั้นอีกด้วย ส่วนผู้ที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวมาซักถามข้อมูล9 ราย ยังไม่สามารถเปิดเผยในเชิงลึกได้
ที่ห้องประชุมแขวงการทางยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดกลางเมืองยะลา โดยมีเจ้าของอาคารที่ได้รับความเสียหายจำนวน 20 ราย เข้าร่วมประชุม
นายอภินันท์กล่าวว่า การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ จะมีการสร้างอาคารพาณิชย์มาทดแทนอาคารที่ได้รับความเสียหายให้เสร็จภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยมอบให้เทศบาลนครยะลาเป็นผู้รับผิดชอบ ในการรื้อถอนสิ่งหักพังของตัวอาคารออกไปโดยไม่มีคิดมูลค่า และให้เจ้าของอาคารที่ต้องการสร้างอาคารที่เกินกว่าวงเงินเยียวยาที่ได้รับ ให้เจ้าของอาคารเป็นผู้รับผิดชอบในการสมทบเพิ่ม ซึ่งเจ้าของอาคารต่างยินยอมรับหลักการ และกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก เนื่องจากพื้นที่ย่านดังกล่าวเกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์มาแล้วถึง 4 ครั้ง
ด้านพ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อพบปะกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพูดคุยรับทราบปัญหา และแนวทางในการประสานงานให้ความช่วยเหลือ โดยระบุว่า จะนำสิ่งที่ชาวบ้านพูดคุย ไปประชุมปรับแผนร่วมกับฝ่ายตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อบูรณาการแผนการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินในบริเวณย่านการค้า ย่านชุมชน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการปรับแผนการทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน
