ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เผยปี 53 มีรายได้รวมกว่า 39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 40% ขณะที่ปี 2554 ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นอีก 20% ระบุ เตรียมรุกประชาสัมพันธ์และลุยทำการตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียและจีน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง
ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยสรุปผลการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในปี 2553 ว่า ในภาพรวมสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้นประมาณร้อยละ 40 โดยสามารถจัดเก็บรายได้จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 39 ล้านบาท
เหตุที่สามารถจัดเก็บรายได้ได้เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการเพิ่มการให้บริการในส่วนของซุ้มจำหน่ายน้ำดื่ม ของขบเคี้ยว รวมทั้งร้านจำหน่ายของที่ระลึกและร้านถ่ายภาพที่ระลึก เป็นต้น ส่วนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนไทยถึงร้อยละ 90
สำหรับเป้าหมายการดำเนินการในปี 2554 ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างต่ำร้อยละ 20 โดยเฉพาะเดือน ม.ค.54 เพียงเดือนเดียวปรากฏว่า มีรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้วถึงประมาณร้อยละ 70 ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี
ขณะเดียวกันพยายามที่จะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มากขึ้น โดยเตรียมที่จะลงนามความร่วมมือกับสหพันธ์การท่องเที่ยวไทย ที่มีสมาชิกเป็นบริษัททัวร์หลายร้อยบริษัท ในการส่งต่อนักท่องเที่ยวมายังเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เชื่อว่า น่าจะส่งผลดีทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังได้เตรียมที่จะร่วมมือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ในการเดินทางไปทำการโรดโชว์ที่ประเทศอินเดียด้วย หวังจะเปิดตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดียได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งพยายามทำการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดในประเทศจีนเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากมองว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียและนักท่องเที่ยวจีน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมาก รวมทั้งไม่ค่อยมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ในประเทศไทยและความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งถือว่ามีศักยภาพในการใช้จ่ายและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยสรุปผลการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในปี 2553 ว่า ในภาพรวมสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้นประมาณร้อยละ 40 โดยสามารถจัดเก็บรายได้จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 39 ล้านบาท
เหตุที่สามารถจัดเก็บรายได้ได้เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการเพิ่มการให้บริการในส่วนของซุ้มจำหน่ายน้ำดื่ม ของขบเคี้ยว รวมทั้งร้านจำหน่ายของที่ระลึกและร้านถ่ายภาพที่ระลึก เป็นต้น ส่วนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนไทยถึงร้อยละ 90
สำหรับเป้าหมายการดำเนินการในปี 2554 ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างต่ำร้อยละ 20 โดยเฉพาะเดือน ม.ค.54 เพียงเดือนเดียวปรากฏว่า มีรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้วถึงประมาณร้อยละ 70 ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี
ขณะเดียวกันพยายามที่จะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มากขึ้น โดยเตรียมที่จะลงนามความร่วมมือกับสหพันธ์การท่องเที่ยวไทย ที่มีสมาชิกเป็นบริษัททัวร์หลายร้อยบริษัท ในการส่งต่อนักท่องเที่ยวมายังเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เชื่อว่า น่าจะส่งผลดีทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังได้เตรียมที่จะร่วมมือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ในการเดินทางไปทำการโรดโชว์ที่ประเทศอินเดียด้วย หวังจะเปิดตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดียได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งพยายามทำการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดในประเทศจีนเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากมองว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียและนักท่องเที่ยวจีน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมาก รวมทั้งไม่ค่อยมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ในประเทศไทยและความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งถือว่ามีศักยภาพในการใช้จ่ายและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
