ASTVผู้จัดการรายวัน-ทหารเขมรหยามศักดิ์ศรีทหารไทย ยกกำลังบุกถล่ม “ภูมะเขือ-ศรีสะเกษ” ระดมยิงปืนใหญ่ นับ 20 ลูก ชาวบ้าน “ภูมิซรอล” ถูกกระสุนคอขาดเสียชีวิตคาที่ 1 ราย ทหารเจ็บ 8 นาย โรงเรียนไฟไหม้วอด ลือ!ทหารเขมร100นาย เตรียมประชิดยึด “ปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม”ให้ได้ เขมรอ้างจับ 5 ทหารไทย ด้าน“ผบ.ทบ.” ปัดทหารไทยไม่โดนจับ "ฮอร์ นัม ฮง" รองนายกเขมร ทำหนังสือฟ้องยูเอ็น อ้างทหารไทยล้ำดินแดน-ยิงปราสาทพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 12.20 น. วานนี้ (4 ก.พ.) ได้มีกำลังของทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธหนัก และอาวุธประจำกาย เข้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ฐานปฏิบัติการเก่า ของ ตชด.ที่ภูมะเขือ บ้านซำเบง ต.ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนกระทั้งเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน ที่บริเวณหมู่บ้านภูมิซรอนสามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ และ อาร์พีจี ดังตลอดเวลา
ทั้งนี้ เวลา 15.00 น. ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย โดยได้มีการระดมยิงทั้งปืนใหญ่และอาวุธนานาชนิดเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง เสียงกระสุนปืนได้ยินเข้ามาถึงบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างชัดเจน
**กระสุนตกร.ร.ภูซรอลนับ20ลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นที่บริเวณทางด้านทิศตะวันตกของภูมะเขือ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 20 นัด ต่อมาในเวลา 15.45 นาที ชาวบ้านจากทางฝั่งไทยก็ได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอีกครั้งเป็นระยะจำนวนอีกหลายสิบนัดในจุดเดิมอีกเช่นกัน จึงทำให้ นายวีรยุทธ์ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย ได้ประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนให้ลงไปอยู่ในหลุมหลบภัยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ขณะเดียวกันนั้นชาวบ้านแจ้งให้ทราบว่าหลังจากได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นไม่นานก็มีรถพยาบาลวิ่งขึ้นไปบนเขาพระวิหาร พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ทหารระดมกำลังพลเข้าเสริมกำลังในจุดแนวชายแดนที่มีเสียงปืนดังขึ้นด้วย และต่อมาในเวลา 17.10 น.เสียงปืนใหญ่ได้ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมีกระสุนปืนยิงมาตกที่บริเวณหน้า อบต.เสาธงชัย และโรงเรียนภูซรอล ต.เสาธงชัยฯ นับสิบลูกเช่นกัน และอาจทำให้ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมากเช่นกัน ชาวบ้านต่างพากันวิ่งหลบหนีเพื่อหาที่กำบังกันชุลมุน
ส่วนบรรยากาศที่ชายแดนไทย ด่านถาวร ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยุ่ห่างจากจุดปะทะบริเวณภูมะเขือ ประมาณ 100 กม.ปรากฏว่า ร้านค้าที่มีอยู่กว่า 50 ร้านได้ปิดตัวลงทันที ยังคงมีเปิดร้านเพียงแค่ 5-6 ร้านเท่านั้น บรรยากาศเงียบสงัด ต่างก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และเฝ้าติดตามข่าวจากสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด
สำหรับประชาชนชาวกัมพูชา ที่ทำงานบริเวณตะเข็บชายแดน ด่านช่องสะงำ ได้ออกจากจุดผ่านแดนไปเกือบหมดแล้ว ส่วนตามตะเข็บชายแดนก็มีการตรึงกำลังกันตลอดแนว
**เขมรอ้างทหารไทยโดนจับ 5 นาย
นายเขียว กันหะริด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา กล่าวว่า สาเหตุที่มีการยิงปะทะกันนั้นก็เนื่องจากทหารไทยไม่สนใจคำเตือนของทางกัมพูชาเพื่อหยุดการข้ามพรมแดนเข้ามา
นายไพ สิพัน(Phay Siphan)โฆษกรัฐบาลประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ทหารไทยได้ข้ามเข้ามาในเขตอธิปไตยของประเทศกัมพูชา 500 เมตร ซึ่งทางทหารกัมพูชาก็ได้เปิดไฟเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง และกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้ได้ใกล้วัดแก้วฯ
พล.อ.เตีย บันห์ รมว.กระทรวงกลาโหมของประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ว่า “เราได้เตือนพวกเขาไม่ให้เข้าสู่ดินแดนของเรา แต่พวกเขายังคงฝ่าฝืน ดังนั้นเราจึงเปิดไฟเพื่อปกป้องดินแดนของเรา แต่ก็เร็วเกินไปที่จะรายงานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและแผลในปะทะ”
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทหารไทยโดนจับ 5 นายส่งไปที่เสียมราฐและมีทหารไทย2-3 นายได้รับบาดเจ็บ
สื่อกัมพูชา ยังอ้างว่า ทหารกัมพูชายิงรถทหารไทยเสียหาย 2 คนั และจับทหารไทยได้ 5 นาย
นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า คืนนี้จะร่างจดหมายเพื่อส่งไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อประท้วง โดยระบุว่า การโจมตีของไทยในครั้งนี้ได้ทำลายตัวปราสาทเขาพระวิหาร และไทยรุกล้ำเขตแดนกัมพูชา ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง
มีรายงานว่า ทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ ขณะที่ชาวกัมพูชาที่อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงกับปราสาทเขาพระวิหาร ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เสียชีวิต 3 คน
**“มทภ.2”รุดลงพื้นที่โทรฯคุยบิ๊กทหารเขมร
เวลาประมาณ 17.00 น.พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และคณะ ได้เดินทางมาที่บริเวณที่มีการปะทะกันและได้รับรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากกนั้นมีรายงานข่าวว่า พล.ท.ธวัชชัย ได้มีการประสานงานทางโทรศัพท์กับ พล.ท.ซะรัย ดึ๊ก ผบ.กองกำลังทหารกัมพูชาที่รับผิดชอบบริเวณเขาพระวิหาร และได้มีการหยุดยิงหลังจากที่มีการการเจรจากันแล้วประมาณ 30 นาที
**โฆษกทบ.ยันทหารไทยมีความพร้อม
พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 15.15 น. มีกระสุนปืนไม่ทราบขนาดตกใกล้ที่วางกำลังทหารไทย ทหารไทยจึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้กลับไป เพื่อแจ้งเตือนให้ทราบว่ามีกระสุนตกข้ามมา ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ก็พยายามติดต่อพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามกองกำลังประเทศกัมพูชาได้ยิงกระสุน อาร์พีจี กระสุนปืนกล กระสุนปืนเล็ก และปืนใหญ่ กลับมาอีก ทหารไทยจำเป็นต้องตอบโต้กลับ กระทั่ง 17.00 น. หยุดยิงกระสุนปืนใหญ่กันแล้ว แต่ยังมีกระสุนปืนเล็ก
สำหรับจุดที่เกิดเหตุ อยู่ตามแนวชายแดน ปราสาทพระวิหาร ไปซ้าย-ขวา ช่องตาเฒ่าประมาณ 10 กม.เป็นจุด ๆ
อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพบก ปฏิเสธที่จะกล่าวว่า ฝ่ายใดเป็นฝ่ายเริ่มต้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหา แต่ยืนยันโดยปกติทหารไทยไม่เคยปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายตรงข้ามก่อน ขณะนี้ต้องเร่งควบคุมการปะทะให้จบสิ้นโดยเร็ว แต่ยืนยันถ้าสถานการณ์พัฒนาไปมากกว่านี้ ทหารไทยและกองทัพบก มีความพร้อมและศักยภาพในการดูแลอธิปไตย ไม่ด้อยไปกว่ากัมพูชา
พันเอกสรรเสริญกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นายจากสะเก็ดระเบิด ส่วนข่าวทหารกัมพูชาจับกุมทหารไทยนั้น ชี้แจงว่า ไม่ได้มาจับตัวจากแนววางกำลัง แต่เป็นจุดที่วางกำลังประสานงานกันของกำลังทั้งสองประเทศ
**ยอมรับทหารถูกจับ 4 นาย
เวลา18.30 น. พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้การปะทะกันของทหาร 2 ฝ่ายได้ยุติลงแล้ว มีทหารไทย ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และทหารกองทัพภาคที่ 2 ชุดประสานงานร่วมไทย-กัมพูชาที่ วัดแก้วสิกขาคีรีสาวาระ บนเขาพระวิหาร พื้นที่ 4. 6 ตารางกิโลเมตร (กม.) ถูกฝ่ายกัมพูชาควบคุมตัวไว้จำนวน 4 นาย ซึ่งทหารระดับสูงทั้ง 2 ฝ่าย กำลังนัดเจรจาพูดคุยกันอยู่
ส่วนฝ่ายกัมพูชา มีรายงานว่า ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย และ ได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย จากประทะกันในครั้งนี้ ซึ่งต่างฝ่างต่างอ้างว่าถูกเปิดฉากยิงถล่มด้วยกระสุนปืนใหญ่ก่อน
** เขมรปะทะไทยชาวบ้านตาย1ราย
เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงปืนได้เงียบลงแล้ว และมีทหารไทยเดินทางขึ้นไปที่ฝั่งชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณที่เกิดเหตุปะทะ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเจรจากันอะไรบางอย่าง ส่วนประชาชนที่อยู่ใกล้จุดปะทะได้อพยพออกจากพื้นที่ได้เกือบหมดแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจากทางจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้ามาช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่
นอกจากนี้เหตุปะทะในพื้นที่ยังทำให้มีชาวบ้านภูซรอล เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายเจริญ ผาหอม ชาวบ้านภูมิซรอล ถูกกระสุนปืนใหญ่ คอขาดเสียชีวิตคาที่ ขณะหลบอยู่ภายในร่องน้ำ โดยศพยังติดอยู่ในที่เกิดเหตุหลังจากถูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่บ้านเรือนจนเกิดระเบิด ขณะที่เขาได้ย้ายออกจากหลุมหลบภัยกลับเข้าบ้าน นอกจากนี้เหตุยังปะทะของเจ้าหน้าที่จากฝั่งไทยและกัมพูชา ยังทำให้ไฟไหม้บ้านเรือนเสียหายไปแล้ว 4 หลัง และอาคารโรงเรียนภูซรอลเสียหายหลายจุดด้วย ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่แล้ว
นางสดศรี ผาหอม ชาวบ้านภูมิซรอล เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า นายเจริญ ผาหอม สามีของตนถูกกระสุนปืนใหญ่เสียชีวิต บริเวณร่องน้ำขณะกำลังปลูกผัก ขณะเดียวกันบ้านในหมู่บ้านภูมิซรอล ถูกไหม้ประมาณ 4 หลัง ส่วนร้านค้าที่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ พากันปิดร้านตั้งแต่ช่วงเย็น
**ชายแดนแตกตื่น-ปิดร้านค้าหนี
ทางด้านประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชาที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ รวมทั้งตลาดโรงเกลือ ฝั่งจ.สระแก้ว โดยเฉพาะที่เข้าไปแสวงโชคในกาสิโนฝั่งกัมพูชา ได้ตื่นตระหนกต่อข่าวการปะทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ได้แตกตื่นหนีออกจากบ่อนกาสิโน กลับเข้ามาในเขตแดนไทย เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาค้าขายที่ตลาดช่องจอมก็พากันปิดร้านค้าและเตรียมเดินทางกลับฝั่งกัมพูชาแล้ว
** ลือ!เขมรจะยึดตาเมือนธม-ตาควาย
ในการปะทะกันในครั้งนี้ มี พล.อ.กวน กิม รอง ผบ.ทบ.สส. ได้เดินทางมาที่ อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา มาควบคุมเหตุการณ์ นอกจากนี้ ยังมี พล.อ.ชิน จันเปือ ผบ.สมรภูมิที่ 3 ที่รับชอบพื้นที่ของ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา, พล.ต.โป เฮง ผบ.ฉก.ภาค 4 และ พล.ต.แปน โวย ผบพลน้อยที่ 42, ทหารป้องกันชายแดน 42, และ ตชด. 702 เป็นผู้นำ
จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้รายงานมาว่า ที่บริเวณไกล้ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากตัวปราสาทประมาณ 500 เมตร ได้มีกำลังทหารของกัมพูชา ประมาณ 100 นาย พร้อมรถถัง จำนวน 20 คัน, ปืน bm ขนาด 40 ลำกล้อง จำนวน 6 ชุด, อาวุธปืน rpg จำนวน 7 คัน พร้อมอาวุธประจำกาย เข้ามาประชิดชายแดน
แหล่งข่าวยังแจ้งมาอีกว่า ภายในคืนนี้ทางการกัมพูชาจะเข้ายึดตัวปราสาทตาควายและตาเมือนธมให้ได้ภายในคืนนี้ ขณะที่กำลังของทหารพราน กรมทหารพรานที่ 26 กองทัพภาคที่ 2 กกล.สุรนารี ได้เตรียมพร้อมคอยรับมืออยู่ตลอดเวลา
**ผบ.ทบ. ปัดทหารไทยไม่โดนจับ
พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวที่ จ.ตรัง ว่า เหตุการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ได้สั่งการไปแล้ว และกำลังหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร “เข้าใจว่าเกิดจากการเข้าใจผิดและมีการยิงเข้ามาจากฝั่งกัมพูชาก่อน ยืนยันว่าการสู้รบไม่มีประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น เราต้องไม่ให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และนับจากนี้ดูเหมือนจะทำให้การสัญจรไปมาทั้งสองประเทศค่อนข้างลำบาก รวมทั้งการทำมาหากินของคนในพื้นที่ด้วย”
ช่วงแรกเกิดปืนลั่นจากฝั่งกัมพูชาก่อนซึ่งก็ไม่แน่ใจ จึงทำให้ฝ่ายไทยต้องยิงโต้ตอบ ไม่ได้มุ่งหมายเอาชีวิตใคร ย้ำว่า ความรุนแรงจะทำให้เดือดร้อนกันทั้งสองฝ่าย ต้องช่วยกันเจรจาไปในทางที่สันติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องไปได้และต้องแก้ปัญหาอย่างมีสติ หากไม่มีเหตุผล ไม่ใช้กลไกเจบีซี ปัญหาก็จะเกิดขึ้น
ช่วงค่ำพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ปฏืเสธว่า ทหารไทยไม่มีใครโดยจับ เพราะถ้าเป็นจริงตนต้องรู้แล้ง
**เทือก เครียดไทยปะทะเขมร
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย ระบุว่านายอภิสิทธิ์ ได้รับโทรศัพท์สายตรงเข้ามาถึงนายกฯ เพื่อรายงานสถานการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทย และกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ ซึ่งนายกฯ ไม่ได้พูดอะไร
ต่อมา เมื่อเวลา 16.40 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางกลับมายังทำเนียบรัฐบาลด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยกล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่ต้องพูดอะไรกัน รอให้มันชัดเจนในรายละเอียดมากกว่านี้ก่อน เมื่อถามว่า ตกลงฝ่ายใดยิงก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่าเขายิงมาเราก็ยิงสวนไป เมื่อถามว่า ได้รับรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยัง ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องใดก็ยังไม่ทราบ
เวลา 18.00 น. ทำเนียบรัฐบาล นายสเทพ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติม เมื่อถามว่ามีข่าวล่าสุดว่าทหารกัมพูชาจับตัวทหารไทย 5 นายไว้ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังพูดอะไรไม่ได้จนกว่าจะได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ เมื่อถามว่ามีข่าวว่าโรงเรียนและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเนื่องจากมีกระสุนปืนใหญ่ตกลงมาจนเกิดไฟไหม้ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้น ยังคงติดตามสถานการณ์อยู่ ซึ่งก็ติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ 15.00 น.แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีรายงานออกมาว่าทางทหารกัมพูชาตั้งใจจะยิงมาที่ชุมชน แทนที่จะยิงไปที่บริเวณชายแดน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดอย่างนั้น รอให้ชัดเจนก่อน และขณะนี้แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว เมื่อถามว่ามีการกำชับให้ดูแลชาวบ้านในพื้นที่อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องกำชับ เจ้าหน้าที่เขาทำตามที่กำหนดไว้อยู่แล้ว ถามต่อว่าขณะนี้มีการอพยพประชาชนหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวรอรายงานจากแม่ทัพภาคที่ 2 ก่อน เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้สถานการณ์รุนแรงหรือไม่ นายสุเทพ ไม่ตอบ และรีบเดินทางกลับทันที
**ชาวบ้านไทยตาย 1 ทหารเจ็บ 5 นาย
เวลา 19.10 น.โซฟิเทล ลาดพร้าว นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาว่า ล่าสุดผบ.ทบ.รายงานว่า “ไม่มีคนเสียชีวิต บาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย ซึ่งเรื่องนี้ทางกองทัพจะเป็นผู้แถลง”
นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า เวลา 18.30 น.มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นพลเรือนคือนายเจริญ ผาหอม อายุ 59 ปี เนื่องจากโดนกระสุนปืนใหญ่ และมีทหารบาดเจ็บ 5 ราย ประกอบด้วย สิบเอกธีรวัฒน์ ศรีวรินทร์ อายุ 26 ปี โดยสะเก็ดระเบิด จ่าสิบเอกมงคล พลเยี่ยม อายุ 49 ปี โดยสะเก็ดระเบิดเลือดออกใต้ตา ทหารพรานดำรง พรหมโคตร อายุ 51 ปี ถูกแรงระเบิดมีแผนที่ข้อมือขวา จ่าสิบเอกวิรัช งามสูงเนิน อายุ 49 ปี ปวดหัวได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด และทหารพรานสุวรรณ ก่อแก้ว อายุ 40 ปี หัวแตก
ทั้งนี้ได้สั่งการโรงพยาบาลตามแนวชายแดนเตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษที่อยู่ใกล้บริเวณที่มีการปะทะมากที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการส่งหน่วยแพทย์ส่วนใหญ่ไปประจำที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์แล้ว และได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการเขตอุบลราชธานีประสานงาน และดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 12.20 น. วานนี้ (4 ก.พ.) ได้มีกำลังของทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธหนัก และอาวุธประจำกาย เข้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ฐานปฏิบัติการเก่า ของ ตชด.ที่ภูมะเขือ บ้านซำเบง ต.ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนกระทั้งเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน ที่บริเวณหมู่บ้านภูมิซรอนสามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ และ อาร์พีจี ดังตลอดเวลา
ทั้งนี้ เวลา 15.00 น. ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย โดยได้มีการระดมยิงทั้งปืนใหญ่และอาวุธนานาชนิดเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง เสียงกระสุนปืนได้ยินเข้ามาถึงบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างชัดเจน
**กระสุนตกร.ร.ภูซรอลนับ20ลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นที่บริเวณทางด้านทิศตะวันตกของภูมะเขือ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 20 นัด ต่อมาในเวลา 15.45 นาที ชาวบ้านจากทางฝั่งไทยก็ได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอีกครั้งเป็นระยะจำนวนอีกหลายสิบนัดในจุดเดิมอีกเช่นกัน จึงทำให้ นายวีรยุทธ์ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย ได้ประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนให้ลงไปอยู่ในหลุมหลบภัยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ขณะเดียวกันนั้นชาวบ้านแจ้งให้ทราบว่าหลังจากได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นไม่นานก็มีรถพยาบาลวิ่งขึ้นไปบนเขาพระวิหาร พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ทหารระดมกำลังพลเข้าเสริมกำลังในจุดแนวชายแดนที่มีเสียงปืนดังขึ้นด้วย และต่อมาในเวลา 17.10 น.เสียงปืนใหญ่ได้ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมีกระสุนปืนยิงมาตกที่บริเวณหน้า อบต.เสาธงชัย และโรงเรียนภูซรอล ต.เสาธงชัยฯ นับสิบลูกเช่นกัน และอาจทำให้ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมากเช่นกัน ชาวบ้านต่างพากันวิ่งหลบหนีเพื่อหาที่กำบังกันชุลมุน
ส่วนบรรยากาศที่ชายแดนไทย ด่านถาวร ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยุ่ห่างจากจุดปะทะบริเวณภูมะเขือ ประมาณ 100 กม.ปรากฏว่า ร้านค้าที่มีอยู่กว่า 50 ร้านได้ปิดตัวลงทันที ยังคงมีเปิดร้านเพียงแค่ 5-6 ร้านเท่านั้น บรรยากาศเงียบสงัด ต่างก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และเฝ้าติดตามข่าวจากสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด
สำหรับประชาชนชาวกัมพูชา ที่ทำงานบริเวณตะเข็บชายแดน ด่านช่องสะงำ ได้ออกจากจุดผ่านแดนไปเกือบหมดแล้ว ส่วนตามตะเข็บชายแดนก็มีการตรึงกำลังกันตลอดแนว
**เขมรอ้างทหารไทยโดนจับ 5 นาย
นายเขียว กันหะริด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา กล่าวว่า สาเหตุที่มีการยิงปะทะกันนั้นก็เนื่องจากทหารไทยไม่สนใจคำเตือนของทางกัมพูชาเพื่อหยุดการข้ามพรมแดนเข้ามา
นายไพ สิพัน(Phay Siphan)โฆษกรัฐบาลประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ทหารไทยได้ข้ามเข้ามาในเขตอธิปไตยของประเทศกัมพูชา 500 เมตร ซึ่งทางทหารกัมพูชาก็ได้เปิดไฟเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง และกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้ได้ใกล้วัดแก้วฯ
พล.อ.เตีย บันห์ รมว.กระทรวงกลาโหมของประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ว่า “เราได้เตือนพวกเขาไม่ให้เข้าสู่ดินแดนของเรา แต่พวกเขายังคงฝ่าฝืน ดังนั้นเราจึงเปิดไฟเพื่อปกป้องดินแดนของเรา แต่ก็เร็วเกินไปที่จะรายงานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและแผลในปะทะ”
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทหารไทยโดนจับ 5 นายส่งไปที่เสียมราฐและมีทหารไทย2-3 นายได้รับบาดเจ็บ
สื่อกัมพูชา ยังอ้างว่า ทหารกัมพูชายิงรถทหารไทยเสียหาย 2 คนั และจับทหารไทยได้ 5 นาย
นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า คืนนี้จะร่างจดหมายเพื่อส่งไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อประท้วง โดยระบุว่า การโจมตีของไทยในครั้งนี้ได้ทำลายตัวปราสาทเขาพระวิหาร และไทยรุกล้ำเขตแดนกัมพูชา ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง
มีรายงานว่า ทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ ขณะที่ชาวกัมพูชาที่อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงกับปราสาทเขาพระวิหาร ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เสียชีวิต 3 คน
**“มทภ.2”รุดลงพื้นที่โทรฯคุยบิ๊กทหารเขมร
เวลาประมาณ 17.00 น.พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และคณะ ได้เดินทางมาที่บริเวณที่มีการปะทะกันและได้รับรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากกนั้นมีรายงานข่าวว่า พล.ท.ธวัชชัย ได้มีการประสานงานทางโทรศัพท์กับ พล.ท.ซะรัย ดึ๊ก ผบ.กองกำลังทหารกัมพูชาที่รับผิดชอบบริเวณเขาพระวิหาร และได้มีการหยุดยิงหลังจากที่มีการการเจรจากันแล้วประมาณ 30 นาที
**โฆษกทบ.ยันทหารไทยมีความพร้อม
พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 15.15 น. มีกระสุนปืนไม่ทราบขนาดตกใกล้ที่วางกำลังทหารไทย ทหารไทยจึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้กลับไป เพื่อแจ้งเตือนให้ทราบว่ามีกระสุนตกข้ามมา ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ก็พยายามติดต่อพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามกองกำลังประเทศกัมพูชาได้ยิงกระสุน อาร์พีจี กระสุนปืนกล กระสุนปืนเล็ก และปืนใหญ่ กลับมาอีก ทหารไทยจำเป็นต้องตอบโต้กลับ กระทั่ง 17.00 น. หยุดยิงกระสุนปืนใหญ่กันแล้ว แต่ยังมีกระสุนปืนเล็ก
สำหรับจุดที่เกิดเหตุ อยู่ตามแนวชายแดน ปราสาทพระวิหาร ไปซ้าย-ขวา ช่องตาเฒ่าประมาณ 10 กม.เป็นจุด ๆ
อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพบก ปฏิเสธที่จะกล่าวว่า ฝ่ายใดเป็นฝ่ายเริ่มต้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหา แต่ยืนยันโดยปกติทหารไทยไม่เคยปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายตรงข้ามก่อน ขณะนี้ต้องเร่งควบคุมการปะทะให้จบสิ้นโดยเร็ว แต่ยืนยันถ้าสถานการณ์พัฒนาไปมากกว่านี้ ทหารไทยและกองทัพบก มีความพร้อมและศักยภาพในการดูแลอธิปไตย ไม่ด้อยไปกว่ากัมพูชา
พันเอกสรรเสริญกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นายจากสะเก็ดระเบิด ส่วนข่าวทหารกัมพูชาจับกุมทหารไทยนั้น ชี้แจงว่า ไม่ได้มาจับตัวจากแนววางกำลัง แต่เป็นจุดที่วางกำลังประสานงานกันของกำลังทั้งสองประเทศ
**ยอมรับทหารถูกจับ 4 นาย
เวลา18.30 น. พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้การปะทะกันของทหาร 2 ฝ่ายได้ยุติลงแล้ว มีทหารไทย ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และทหารกองทัพภาคที่ 2 ชุดประสานงานร่วมไทย-กัมพูชาที่ วัดแก้วสิกขาคีรีสาวาระ บนเขาพระวิหาร พื้นที่ 4. 6 ตารางกิโลเมตร (กม.) ถูกฝ่ายกัมพูชาควบคุมตัวไว้จำนวน 4 นาย ซึ่งทหารระดับสูงทั้ง 2 ฝ่าย กำลังนัดเจรจาพูดคุยกันอยู่
ส่วนฝ่ายกัมพูชา มีรายงานว่า ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย และ ได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย จากประทะกันในครั้งนี้ ซึ่งต่างฝ่างต่างอ้างว่าถูกเปิดฉากยิงถล่มด้วยกระสุนปืนใหญ่ก่อน
** เขมรปะทะไทยชาวบ้านตาย1ราย
เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงปืนได้เงียบลงแล้ว และมีทหารไทยเดินทางขึ้นไปที่ฝั่งชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณที่เกิดเหตุปะทะ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเจรจากันอะไรบางอย่าง ส่วนประชาชนที่อยู่ใกล้จุดปะทะได้อพยพออกจากพื้นที่ได้เกือบหมดแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจากทางจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้ามาช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่
นอกจากนี้เหตุปะทะในพื้นที่ยังทำให้มีชาวบ้านภูซรอล เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายเจริญ ผาหอม ชาวบ้านภูมิซรอล ถูกกระสุนปืนใหญ่ คอขาดเสียชีวิตคาที่ ขณะหลบอยู่ภายในร่องน้ำ โดยศพยังติดอยู่ในที่เกิดเหตุหลังจากถูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่บ้านเรือนจนเกิดระเบิด ขณะที่เขาได้ย้ายออกจากหลุมหลบภัยกลับเข้าบ้าน นอกจากนี้เหตุยังปะทะของเจ้าหน้าที่จากฝั่งไทยและกัมพูชา ยังทำให้ไฟไหม้บ้านเรือนเสียหายไปแล้ว 4 หลัง และอาคารโรงเรียนภูซรอลเสียหายหลายจุดด้วย ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่แล้ว
นางสดศรี ผาหอม ชาวบ้านภูมิซรอล เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า นายเจริญ ผาหอม สามีของตนถูกกระสุนปืนใหญ่เสียชีวิต บริเวณร่องน้ำขณะกำลังปลูกผัก ขณะเดียวกันบ้านในหมู่บ้านภูมิซรอล ถูกไหม้ประมาณ 4 หลัง ส่วนร้านค้าที่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ พากันปิดร้านตั้งแต่ช่วงเย็น
**ชายแดนแตกตื่น-ปิดร้านค้าหนี
ทางด้านประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชาที่ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ รวมทั้งตลาดโรงเกลือ ฝั่งจ.สระแก้ว โดยเฉพาะที่เข้าไปแสวงโชคในกาสิโนฝั่งกัมพูชา ได้ตื่นตระหนกต่อข่าวการปะทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ได้แตกตื่นหนีออกจากบ่อนกาสิโน กลับเข้ามาในเขตแดนไทย เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาค้าขายที่ตลาดช่องจอมก็พากันปิดร้านค้าและเตรียมเดินทางกลับฝั่งกัมพูชาแล้ว
** ลือ!เขมรจะยึดตาเมือนธม-ตาควาย
ในการปะทะกันในครั้งนี้ มี พล.อ.กวน กิม รอง ผบ.ทบ.สส. ได้เดินทางมาที่ อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา มาควบคุมเหตุการณ์ นอกจากนี้ ยังมี พล.อ.ชิน จันเปือ ผบ.สมรภูมิที่ 3 ที่รับชอบพื้นที่ของ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา, พล.ต.โป เฮง ผบ.ฉก.ภาค 4 และ พล.ต.แปน โวย ผบพลน้อยที่ 42, ทหารป้องกันชายแดน 42, และ ตชด. 702 เป็นผู้นำ
จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้รายงานมาว่า ที่บริเวณไกล้ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากตัวปราสาทประมาณ 500 เมตร ได้มีกำลังทหารของกัมพูชา ประมาณ 100 นาย พร้อมรถถัง จำนวน 20 คัน, ปืน bm ขนาด 40 ลำกล้อง จำนวน 6 ชุด, อาวุธปืน rpg จำนวน 7 คัน พร้อมอาวุธประจำกาย เข้ามาประชิดชายแดน
แหล่งข่าวยังแจ้งมาอีกว่า ภายในคืนนี้ทางการกัมพูชาจะเข้ายึดตัวปราสาทตาควายและตาเมือนธมให้ได้ภายในคืนนี้ ขณะที่กำลังของทหารพราน กรมทหารพรานที่ 26 กองทัพภาคที่ 2 กกล.สุรนารี ได้เตรียมพร้อมคอยรับมืออยู่ตลอดเวลา
**ผบ.ทบ. ปัดทหารไทยไม่โดนจับ
พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวที่ จ.ตรัง ว่า เหตุการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ได้สั่งการไปแล้ว และกำลังหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร “เข้าใจว่าเกิดจากการเข้าใจผิดและมีการยิงเข้ามาจากฝั่งกัมพูชาก่อน ยืนยันว่าการสู้รบไม่มีประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น เราต้องไม่ให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และนับจากนี้ดูเหมือนจะทำให้การสัญจรไปมาทั้งสองประเทศค่อนข้างลำบาก รวมทั้งการทำมาหากินของคนในพื้นที่ด้วย”
ช่วงแรกเกิดปืนลั่นจากฝั่งกัมพูชาก่อนซึ่งก็ไม่แน่ใจ จึงทำให้ฝ่ายไทยต้องยิงโต้ตอบ ไม่ได้มุ่งหมายเอาชีวิตใคร ย้ำว่า ความรุนแรงจะทำให้เดือดร้อนกันทั้งสองฝ่าย ต้องช่วยกันเจรจาไปในทางที่สันติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องไปได้และต้องแก้ปัญหาอย่างมีสติ หากไม่มีเหตุผล ไม่ใช้กลไกเจบีซี ปัญหาก็จะเกิดขึ้น
ช่วงค่ำพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ปฏืเสธว่า ทหารไทยไม่มีใครโดยจับ เพราะถ้าเป็นจริงตนต้องรู้แล้ง
**เทือก เครียดไทยปะทะเขมร
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย ระบุว่านายอภิสิทธิ์ ได้รับโทรศัพท์สายตรงเข้ามาถึงนายกฯ เพื่อรายงานสถานการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทย และกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ ซึ่งนายกฯ ไม่ได้พูดอะไร
ต่อมา เมื่อเวลา 16.40 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางกลับมายังทำเนียบรัฐบาลด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยกล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่ต้องพูดอะไรกัน รอให้มันชัดเจนในรายละเอียดมากกว่านี้ก่อน เมื่อถามว่า ตกลงฝ่ายใดยิงก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่าเขายิงมาเราก็ยิงสวนไป เมื่อถามว่า ได้รับรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยัง ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องใดก็ยังไม่ทราบ
เวลา 18.00 น. ทำเนียบรัฐบาล นายสเทพ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติม เมื่อถามว่ามีข่าวล่าสุดว่าทหารกัมพูชาจับตัวทหารไทย 5 นายไว้ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังพูดอะไรไม่ได้จนกว่าจะได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ เมื่อถามว่ามีข่าวว่าโรงเรียนและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเนื่องจากมีกระสุนปืนใหญ่ตกลงมาจนเกิดไฟไหม้ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้น ยังคงติดตามสถานการณ์อยู่ ซึ่งก็ติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ 15.00 น.แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีรายงานออกมาว่าทางทหารกัมพูชาตั้งใจจะยิงมาที่ชุมชน แทนที่จะยิงไปที่บริเวณชายแดน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดอย่างนั้น รอให้ชัดเจนก่อน และขณะนี้แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว เมื่อถามว่ามีการกำชับให้ดูแลชาวบ้านในพื้นที่อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องกำชับ เจ้าหน้าที่เขาทำตามที่กำหนดไว้อยู่แล้ว ถามต่อว่าขณะนี้มีการอพยพประชาชนหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวรอรายงานจากแม่ทัพภาคที่ 2 ก่อน เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้สถานการณ์รุนแรงหรือไม่ นายสุเทพ ไม่ตอบ และรีบเดินทางกลับทันที
**ชาวบ้านไทยตาย 1 ทหารเจ็บ 5 นาย
เวลา 19.10 น.โซฟิเทล ลาดพร้าว นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาว่า ล่าสุดผบ.ทบ.รายงานว่า “ไม่มีคนเสียชีวิต บาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย ซึ่งเรื่องนี้ทางกองทัพจะเป็นผู้แถลง”
นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า เวลา 18.30 น.มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นพลเรือนคือนายเจริญ ผาหอม อายุ 59 ปี เนื่องจากโดนกระสุนปืนใหญ่ และมีทหารบาดเจ็บ 5 ราย ประกอบด้วย สิบเอกธีรวัฒน์ ศรีวรินทร์ อายุ 26 ปี โดยสะเก็ดระเบิด จ่าสิบเอกมงคล พลเยี่ยม อายุ 49 ปี โดยสะเก็ดระเบิดเลือดออกใต้ตา ทหารพรานดำรง พรหมโคตร อายุ 51 ปี ถูกแรงระเบิดมีแผนที่ข้อมือขวา จ่าสิบเอกวิรัช งามสูงเนิน อายุ 49 ปี ปวดหัวได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด และทหารพรานสุวรรณ ก่อแก้ว อายุ 40 ปี หัวแตก
ทั้งนี้ได้สั่งการโรงพยาบาลตามแนวชายแดนเตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษที่อยู่ใกล้บริเวณที่มีการปะทะมากที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการส่งหน่วยแพทย์ส่วนใหญ่ไปประจำที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์แล้ว และได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการเขตอุบลราชธานีประสานงาน และดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ.