xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์เวล”หนีตลาดอเมริกาวูบ ปั้นคาแรคเตอร์-หนังลุยเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเชียตลาดใหญ่การ์ตูนคอมมิค “มาร์เวล” รุกหนักสุด หวังชิงเค้กครองใจเด็กและวัยรุ่นเอเชีย เสริมทัพส่งภาพยนตร์เข้าโรงฉาย 2 เรื่อง จับมือญี่ปุ่นสร้างการ์ตูนเอาใจสาวกวูฟเวอรีน มั่นใจการเติบโตในเอเชียเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 65-75%

นายไซม่อน เจ.ฟิลลิปส์ ประธาน บริษัท มาร์เวล เอนเทอร์เทนเม้นต์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า มาร์เวลก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1953 หรือราว 58 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีคาแรคเตอร์ในกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่มากกว่า 8,000 คาแรคเตอร์ โดยตัวการ์ตูนในแต่ละเรื่องนั้น จะอยู่บนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริง เป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในโลกปัจจุบัน ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้หลายคาแรคเตอร์ได้เข้าไปอยู่ในใจของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นสไปเดอร์แมน, กัปตันอเมริกา และไอรอนแมน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตลาดหลักของของมาร์เวลจะอยู่ในทวีปอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก แต่ภายหลังที่สภาพเศรษฐกิจของฝั่งอเมริกาแย่ลงนั้น ได้ส่งผลกระทบแก่มาร์เวลเช่นกัน ดังนั้นทางบริษัทจึงต้องมองหาตลาดใหม่ ซึ่งพบว่าในทวีปเอเชีย ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยสำรวจพบว่าคาแรคเตอร์หลัก อย่าง สไปเดอร์แมน เป็นที่รู้จักอย่างมาก ดังนั้นในแผนการดำเนินงานในปี 2554-2555 ของมาร์เวล ถือเป็นการลงทุนในการรุกและทำตลาดมากที่สุด โดยเฉพาะกับตลาดเอเชียนี้

โดยตามแผนการดำเนินงานนั้น ปีนี้ทางบริษัท ได้ลงทุนในการสร้างภาพยนตร์เตรียมเข้าฉาย 2 เรื่อง คือ Thor และ Captain American โดยในไทยจะเข้าฉายในช่วงเดือนเม.ย.และก.ค. ตามลำดับ นอกจากนี้ในปีหน้ายังมีภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายอีก 2 เรื่อง คือ The Avengers Assemble และSpiderman4 ด้วย ซึ่งโมเดลการเข้ามาทำภาพยนตร์นั้น ได้เริ่มมาตั้งแต่ปีก่อน คือ เรื่อง ไอรอนแมน ถือเป็นการต่อยอดของธุรกิจการ์ตูนคอมมิคได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ร่วมกับทางทีมนักเขียนการ์ตูนในประเทศญี่ปุ่น ในการสร้างการ์ตูนคอมมิค เกี่ยวกับ คาแรคเตอร์ วูฟเวอรีน ฉบับญี่ปุ่นขึ้นมา เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนญี่ปุ่นที่รวมถึงอีกหลายประเทศในเอเชีย อีกทั้งยังมีการปรับแต่งลายเส้นคาแรคเตอร์ในกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ ออกมาในรูปแบบน่ารักๆ เพื่อเป็นสินค้าเมอร์ชันไดซ์ ที่เหมาะสมกับกลุ่มวัยรุ่นในประเทศญี่ปุ่นอีกส่วนหนึ่ง ถือเป็นการสร้างตลาดใหม่ในกลุ่มวัยรุ่น จากเดิมกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นเด็กเล็ก ที่สำคัญยังมีแผนที่จะเข้ามารุกในธุรกิจมีเดียด้วย เช่น เกมออนไลน์ทั้งในอินเตอร์เน็ต และมือถือ เป็นต้น

นายไซม่อน กล่าวต่อว่า และจากการที่มาร์เวล ได้ถูกควบรวมกับทางดีสนีย์เมื่อช่วงเดือนพ.ย.ปี2553นั้น ส่งผลให้สามารถทำตลาดในเอเชียได้ง่ายขึ้น เพราะได้ทางทีมดีสนีย์ที่ทำตลาดในเอเชียอยู่ก่อนแล้ว ช่วยซัพพรอตให้อีกแรงหนึ่ง โดยเฉพาะ บริษัท ฟัน คาแรคเตอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)จำกัด ที่ได้สิทธิ์ช่วยทำตลาดให้ทั้งสิ้น 5 ประเทศ ในเซาส์อีสเอเชีย ประกอบด้วย ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

“สิ้นปีนี้แนวโน้มรายได้จากเอเชียจะเติบโตดีขึ้น ยิ่งรวมกับอีก 1ประเทศ คือ จีน ที่บริษัทเข้าไปทำตลาดด้วยแล้ว มั่นใจว่าสิ้นปี 2554 ยอดขายในทวีปเอเชียจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 65-75% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รายได้รวมทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมานั้น มาร์เวลทำได้กว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ” นายไซม่อน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น