ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โจรใต้ลอบซุกระเบิดหนัก 15 กิโลกรัมกลางถนนในยะหา ระเบิดตูมสนั่น รถกระบะพังยับ ฉีกร่างชาวบ้านที่กลับจากหาสัตว์ป่า เสียชีวิต 9 ศพ สาหัส 2ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่นราฯ รวบผู้ต้องสงสัยโจมตีฐานทหารแล้ว 18 ราย
เมื่อเวลา17.45 น.วานนี้ (25 ม.ค.) พ.ต.อ.สวัสดิ์ เตียวิรัตน์ ผกก.สภ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนสายภายในหมู่บ้านบ้านกอมิ หมู่ที่ 3 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา หลังได้รับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดภูธรจังหวัดยะลา (ชุดศรศึก-ศรชัย) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จังหวัดยะลา และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในเชื่อมต่อกับถนนสายยะหา-กาบังบ้านปาแดรู หมู่ที่ 1 ต.กาตอง อ.ยะหา ประมาณ 100 เมตร ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแม็กซ์ แบบแค็ป สีบรอนเงน ทะเบียน บว.3488 สงขลา ถูกแรงระเบิดเกิดไฟไหม้ เสียหายเหลือแต่ซาก ภายในซากรถมีศพนอนตาย 4 ศพ ห่างกันใกล้ซากรถยนต์พบศพเลวเละขาดเป็นท่อนๆ นับได้ 3 ศพ รวมผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 7 ศพ ข้างถนนพบผู้บาดเจ็บ นอนสงบนิ่งไม่รู้สึกตัว อีก 4 คน เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา และเสียชิวิตในเวลาต่อมาเพิ่มอีก 2 ศพ รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 คน เจ้าหน้าที่ต้องนำผู้บาดเจ็บทั้งสองส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาในเวลาต่อมา
ส่วนบนถนนพบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร มีเศษดิน หินและเศษเหล็กถังดับเพลิง กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ ยังพบซากหมูป่ากว่า 10 ตัวและหมาล่าสัตว์ 2 ตัว พร้อมด้วยอาวุธปืนแก๊ป ได้รับความเสียหายหลายกระบอก พร้อมสัมภาระเป็นกระเป๋าเป้ เดินป่าอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้บาดเจ็บ 2 รายทราบชื่อ นายศักดิ์ชัย สิริพันธ์ อายุ 36 ปีเป็น เจ้าหน้าที่ครู กศน.อำเภอยะหา และนายอรุณ หนูนิ่ม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/3 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อาการเป็นตายเท่ากัน
จากการสอบสวนอย่างละเอียด ทราบว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บรวม 11 คน นั่งรถยนต์กระบะค้นดังกล่าวไปหาของป่าบนเทือกเขาในเขต ต.บาโร๊ะ เมื่อได้สัตว์เป็นหมู่ป่าจำนวนหนึ่งแล้ว ต่างได้เดินทางเพื่อกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายซึ่งได้ลอบฝังระเบิดใต้ผิวถนน เป็นระเบิดบรรจุถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมกดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ได้กดระเบิดขึ้น จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและตายดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอุบัยดีล๊ะ กับพวก ซึ่งเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.ปะแต ต.บาโร๊ะ และเขตรอย อ.กาบัง ที่มีกำลังพลกว่า 30 นายและเคยก่อเหตุระเบิดรถยนต์ปลัดอำเภอยะหา จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อต้นปี 2553 ด้วย
ด้านความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มฐานปฎิบัติการทหาร กองร้อยทหารราบที่ 15121 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก หมู่ที่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 19 ม.ค.
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในวันที่ 23-24 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจร่วม 300 นายออกติดตามใช้กำลังตรวจค้น แลได้เชิญผู้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการรู้เห็นว่าการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลอบโจมตีฐานทหารที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถือเป็นผู้ต้องสงสัยและอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลทั้งสิ้น 18 ราย จากการผลการดำเนินการสอบถามซักถามได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว 1 ราย ส่งกลับบ้าน 2 ราย ยังคงควบคุมตัวไว้ 15 ราย
"เราวิเคราะห์สถานการณ์ต่อจากนี้ไป คาดว่าฝ่ายตรงข้ามมุ่งก่อปฏิบัติการทางทหารโดยตรงต่อกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ดังนั้น การคาดการว่าเหตุการณ์รายวันที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปในเวลานี้น่าจะเป็นส่วนตัว เป็นเรื่องความขัดแย้งด้านยาเสพติด อิทธิพลท้องถิ่น ขณะที่การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมักจากกระทำต่อเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ประกอบกับในเดือนมี.ค. นี้จะมีการประชุมของ oic summic ที่ประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้นำสูงสุดของ กลุ่มประเทศอิสลาม ดังนั้น การก่อเหตุช่วงนี้คาดการณ์ว่าเป็นการยกระดับเพื่อให้เกิดความสนใจในการประชุม"พ.อ.บรรพต กล่าว
เมื่อเวลา17.45 น.วานนี้ (25 ม.ค.) พ.ต.อ.สวัสดิ์ เตียวิรัตน์ ผกก.สภ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนสายภายในหมู่บ้านบ้านกอมิ หมู่ที่ 3 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา หลังได้รับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดภูธรจังหวัดยะลา (ชุดศรศึก-ศรชัย) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จังหวัดยะลา และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในเชื่อมต่อกับถนนสายยะหา-กาบังบ้านปาแดรู หมู่ที่ 1 ต.กาตอง อ.ยะหา ประมาณ 100 เมตร ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแม็กซ์ แบบแค็ป สีบรอนเงน ทะเบียน บว.3488 สงขลา ถูกแรงระเบิดเกิดไฟไหม้ เสียหายเหลือแต่ซาก ภายในซากรถมีศพนอนตาย 4 ศพ ห่างกันใกล้ซากรถยนต์พบศพเลวเละขาดเป็นท่อนๆ นับได้ 3 ศพ รวมผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 7 ศพ ข้างถนนพบผู้บาดเจ็บ นอนสงบนิ่งไม่รู้สึกตัว อีก 4 คน เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา และเสียชิวิตในเวลาต่อมาเพิ่มอีก 2 ศพ รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 คน เจ้าหน้าที่ต้องนำผู้บาดเจ็บทั้งสองส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาในเวลาต่อมา
ส่วนบนถนนพบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร มีเศษดิน หินและเศษเหล็กถังดับเพลิง กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ ยังพบซากหมูป่ากว่า 10 ตัวและหมาล่าสัตว์ 2 ตัว พร้อมด้วยอาวุธปืนแก๊ป ได้รับความเสียหายหลายกระบอก พร้อมสัมภาระเป็นกระเป๋าเป้ เดินป่าอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้บาดเจ็บ 2 รายทราบชื่อ นายศักดิ์ชัย สิริพันธ์ อายุ 36 ปีเป็น เจ้าหน้าที่ครู กศน.อำเภอยะหา และนายอรุณ หนูนิ่ม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/3 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อาการเป็นตายเท่ากัน
จากการสอบสวนอย่างละเอียด ทราบว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บรวม 11 คน นั่งรถยนต์กระบะค้นดังกล่าวไปหาของป่าบนเทือกเขาในเขต ต.บาโร๊ะ เมื่อได้สัตว์เป็นหมู่ป่าจำนวนหนึ่งแล้ว ต่างได้เดินทางเพื่อกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายซึ่งได้ลอบฝังระเบิดใต้ผิวถนน เป็นระเบิดบรรจุถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมกดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ได้กดระเบิดขึ้น จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและตายดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอุบัยดีล๊ะ กับพวก ซึ่งเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.ปะแต ต.บาโร๊ะ และเขตรอย อ.กาบัง ที่มีกำลังพลกว่า 30 นายและเคยก่อเหตุระเบิดรถยนต์ปลัดอำเภอยะหา จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อต้นปี 2553 ด้วย
ด้านความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มฐานปฎิบัติการทหาร กองร้อยทหารราบที่ 15121 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 บ้านมะรือโบตก หมู่ที่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 19 ม.ค.
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในวันที่ 23-24 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจร่วม 300 นายออกติดตามใช้กำลังตรวจค้น แลได้เชิญผู้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการรู้เห็นว่าการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลอบโจมตีฐานทหารที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถือเป็นผู้ต้องสงสัยและอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลทั้งสิ้น 18 ราย จากการผลการดำเนินการสอบถามซักถามได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว 1 ราย ส่งกลับบ้าน 2 ราย ยังคงควบคุมตัวไว้ 15 ราย
"เราวิเคราะห์สถานการณ์ต่อจากนี้ไป คาดว่าฝ่ายตรงข้ามมุ่งก่อปฏิบัติการทางทหารโดยตรงต่อกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ดังนั้น การคาดการว่าเหตุการณ์รายวันที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปในเวลานี้น่าจะเป็นส่วนตัว เป็นเรื่องความขัดแย้งด้านยาเสพติด อิทธิพลท้องถิ่น ขณะที่การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมักจากกระทำต่อเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ประกอบกับในเดือนมี.ค. นี้จะมีการประชุมของ oic summic ที่ประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้นำสูงสุดของ กลุ่มประเทศอิสลาม ดังนั้น การก่อเหตุช่วงนี้คาดการณ์ว่าเป็นการยกระดับเพื่อให้เกิดความสนใจในการประชุม"พ.อ.บรรพต กล่าว
