xs
xsm
sm
md
lg

แม่อุ้มลูกโดดรพ.ดับ สลด!เด็กอายุแค่3วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สลดสาววัย 33 ปี คลอดลูกชายมาได้เพียง 3 วัน แต่ลูกมีอาการผิดปกติเรื่องน้ำตาลในเลือดต่ำและร่างกายแคระแกร็น ตกดึก เครียดจัด อุ้มลูกเดินไปมาถึงเช้ามืด ก่อนคิดสั้นปีนระเบียงห้องพักชั้น 13 ของโรงพยาบาลโดดลงมาฆ่าตัวตายทั้งแม่ลูก ญาติร่ำไห้! รับศพ 2 แม่-ลูกสุดโศกเศร้า ชี้แม่ลูกอ่อน ดิ่งตึกตาย เพราะขาดคนเคียงข้าง
 
วานนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. พ.ต.ท.สฤษดิ์ สิทธิ์นะศรี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งมีคนไข้หญิงอุ้มลูกกระโดดตึกฆ่าตัวตายภายในโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ถนนตก แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านข้างอาคาร 72 พรรษามหาราชินี เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.จงกล จำปาขาว อายุ 33 ปี สภาพศพนอนหงายสวมชุดคนไข้สีชมพูของโรงพยาบาลดังกล่าว ตรวจสอบตามร่างกายพบกระโหลกศีรษะแตก หน้าท้องมีแผลฉีกขาดจนไส้ทะลักออกมากอง ห่างไปประมาณ 5 เมตร พบศพ ด.ช.สาธุ จันทร์เติม อายุ 3 วัน สภาพศพนอนคว่ำหน้าสวมชุดเด็กอ่อนของทางโรงพยาบาลเช่นกัน ตรวจสอบตามร่างกายพบว่ากะโหลกศีรษะแตกมันสมองกระจาย กระดูกหักทั้งตัว

**สาเหตุลูกร่างกายไม่แข็งแรง

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา น.ส.จงกล ได้เดินทางมาคลอด ด.ช.สาธุ ที่โรงพยาบาลที่เกิดเหตุ แต่ลูกชายมีปัญหาเรื่องน้ำตาลในเลือดต่ำและร่างกายแคระแกร็นผิดปกติ แพทย์จึงให้ทั้งคู่นอนพักฟื้นอยู่ที่หอทารกแรกเกิดชั้น 13 ของอาคารดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ผู้ป่วยรายอื่นสังเกตเห็นว่า น.ส.จงกล เกิดความเครียดอุ้มลูกชายเดินไปมาตลอดทั้งคืน แต่ไม่มีใครเอะใจอะไร จนช่วงเวลาประมาณ 04.30 น.ที่ผ่านมา น.ส.จงกลก็อุ้มลูกชายปีนอ่างล้างจานด้านหลังระเบียงห้องพักผู้ป่วยแล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตายพร้อมลูก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำให้ น.ส.จงกล คิดสั้นฆ่าตัวตายพร้อมลูก น่าจะเกิดจากความเครียดที่ลูกตัวเองเกิดมามีอาการผิดปกติ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเชิญเรียกตัวสามีและญาติของ น.ส.จงกล มาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปต่อไป

**ญาติร่ำไห้! รับศพ2 แม่ ลูก

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ นายสมัย จันทร์เติบ อายุ 32 ปี พร้อมด้วย นางประการ จำปาขาว อายุ 55 ปี มารดา น.ส.จงกล ได้เดินทางมารับศพ น.ส.จงกล จำปาขาว อายุ 33 ปี และ ด.ช.สาธุ จันทร์เติบ หรือ น้องสตางค์ อายุเพียง 4 วัน ภายหลังจากที่ น.ส.จงกล อุ้มลูกน้อยกระโดดตึกจากชั้น 13 ของ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ จนเสียชีวิตทั้งสองคน เมื่อช่วง 04.30 น.ที่ผ่านมา โดยบรรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของบรรดาญาติที่เดินทางมาร่วมรับศพ
จากการสอบถาม นายสมัย จันทร์เติบ อายุ 32 ปี สามีของผู้ตาย ให้การว่า ตนกับ น.ส.จงกล และครอบครัวพักอยู่ที่บ้านวัดไผ่เงิน ตนมีอาชีพเป็นช่างทำสีรถอยู่ที่อู่แห่งหนึ่ง ส่วน น.ส.จงกล เป็นพนักงานของโรงพิมพ์ย่านสาธร ซึ่งตนกับ น.ส.จงกล อยู่กินกันมาปีกว่า กระทั่ง น.ส.จงกล ตั้งท้อง และคลอด ด.ช.สาธุ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ โดยแพทย์ได้ใช้วิธีการผ่าคลอด ซึ่งตนและมารดาของ น.ส.จงกล ก็ไปเยี่ยมและอยู่เฝ้าอาการที่ รพ.ทุกวัน จนกว่าจะหมดเวลาเยี่ยม แต่ขณะที่ ด.ช.สาธุ คลอดออกมานั้น แพทย์บอกว่า น้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้ตัวเหลือง และตัวเล็กกว่าปกติ แต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต ต้องเข้าตู้อบและอยู่รอดูอาการที่ รพ.ประมาณ 2-3 วัน จึงจะสามารถกลับบ้านได้ โดยครั้งสุดท้ายที่อยู่กับ น.ส.จงกล คือ เวลา 1 ทุ่มเศษ ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน น.ส.จงกล ก็ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด หรือพูดจาว่าอยากจะฆ่าตัวตาย และยังอุ้มลูกไว้ในอ้อมกอดและให้กินนมตามปกติ เพียงแต่บ่นว่าลูกไม่กินนม และกลัวว่า ลูกจะไม่รอด เพราะตัวเล็ก ตนก็ได้ให้กำลังใจ และบอกว่าในวันรุ่งขึ้นจะมารับกลับบ้าน ไม่คิดว่า น.ส.จงกล จะตัดสินใจคิดสั้นฆ่าตัวตายกับลูก

**พ้อ“ทำไมตัวเล็กจัง ลูกจะโตหรือไม่”

ด้าน นางประการ เปิดเผยว่า ตนเป็นแม่ของ น.ส.จงกล ระหว่างที่ลูกสาวเข้าไปคลอดลูกชายที่รพ.ตนก็เดินทางไปเยี่ยมตลอด ซึ่งลูกสาวก็มีสีหน้ายิ้มแย้มปกติทุกอย่าง เพียงแต่ตนสังเกตเห็นว่าเวลาที่ลูกสาวอุ้ม ด.ช.สาธุ มาให้นม มักจะพูดกับ ด.ช.สาธุ เบาๆ ว่า “ทำไมตัวเล็กจัง ลูกจะโตหรือไม่” ซึ่งตนก็ให้กำลังใจลูกสาว ว่า ด.ช.สาธุ ปลอดภัยแล้ว หมอก็บอกว่ากลับบ้านได้ และตนยังบอกอีกด้วยว่าจะช่วยเลี้ยง ด.ช.สาธุ เอง ถ้าไม่กินนมของลูกสาวตนก็จะซื้อนมผงชงให้กิน

ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ก็ไม่มีปัญหาอะไร สามีของลูกสาวได้จ่ายและทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว กระทั่งเมื่อตอน 6 โมงเช้า ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาว กับ ด.ช.สาธุ กระโดดตึกของ รพ.เสียชีวิตแล้วทั้งคู่ ทำให้ตนช็อกจนแทบเป็นลม พอตั้งสติได้ก็รีบเดินทางมาที่ รพ.ทันที ส่วนสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวคิดสั้น น่าจะมาจากความวิตกกังวลเรื่อง ด.ช.สาธุ ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง เมื่อพยาบาลนำ ด.ช.สาธุ มาหาลูกสาวที่เตียง เพื่อให้นมเมื่อคืน ทำให้ลูกสาวคิดสั้นดังกล่าว หลังจากนี้ จะนำศพ น.ส.จงกล และ ด.ช.สาธุ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดไผ่เงินโชตนารามต่อไป

**แนะดูแลหญิงหลังคลอดซึมเศร้า

วันเดียวกัน ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวน.ส.จงกล จำปาขาว ที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายพร้อมลูกวัย 3 วัน และคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์

พญ.วินิทรา นวลละออง อาจารย์ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า โดยทั่วไปสำหรับหญิงหลังคลอดบุตรนั้นจะมีภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไป เพราะฮอร์โมนเพศที่เรียกว่า เอสโตรเจนในร่างกายลดระดับลง ภาวะนี้เรียกว่า ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum blue) ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่จะมีอาการดีขึ้นภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีคนใกล้ชิดเข้ามาดูแลหญิงกลุ่มนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาความทุกข์ในใจและรับฟังปัญหา ทั้งนี้กรณีที่หญิงรายนี้มีความซึมเศร้าจนนำมาสู่การฆ่าตัวตายอาจเพราะ ช่วง 1 เดือนหลังคลอดไม่มีใครรับฟังปัญหาและต้องอยู่ลำพังคนเดียว จึงเลือกที่จะจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายในที่สุด

พญ.วินิทรา กล่าวด้วยว่า การฆ่าตัวตายเกิดจากสาเหตุสำคัญ 2 อย่าง คือ1.ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น โรคภัยไข้เจ็บและโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนฆ่าตัวตายสำเร็จ และ2.ปัจจัยแวดล้อมภายนอกที่ทำให้เกิดความเครียด.
กำลังโหลดความคิดเห็น