เดลิเมล์ – เมื่อแก่ตัว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะต้องใช้แว่นอ่านหนังสือและเครื่องช่วยฟัง เนื่องจากประสาทสัมผัสเริ่มเสื่อมถอยตามสภาพ
แต่ผลศึกษาที่น่าประหลาดใจล่าสุดคือ ถ้าล่วงเข้าบั้นปลายชีวิตแล้วจมูกเริ่มได้กลิ่นไม่ชัดเจน ควรทำใจได้เนิ่นๆ เพราะนั่นหมายความว่าเวลาของคุณใกล้มาถึงเต็มที
นักวิจัยจากศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยรัชในชิคาโกพบว่า ยิ่งคนเรายังรับรู้กลิ่นที่พบในชีวิตประจำวันได้ชัดเจนแค่ไหน ยิ่งมีแนวโน้มว่าเราจะยังมีชีวิตยืนยาวไปอีกหลายปี
ในการทดลอง อาสาสมัครกว่า 1,000 คน อายุระหว่าง 53-100 ปี จะต้องทดสอบดมกลิ่นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน 12 รายการ
ดร.โรเบิร์ต วิลสัน ผู้นำการวิจัย เสริมว่าอาสาสมัครสามารถเลือกดมทีละ 4 รายการ
“กลิ่นที่เรานำมาให้อาสาสมัครดมคือกลิ่นที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย เช่น ควันบุหรี่ มะนาว พริกไทดำ ช็อกโกแลต และอบเชย”
จากนั้น นักวิจัยจึงติดตามผลอาสาสมัครที่ไม่มีใครเป็นโรคสมองเสื่อมหรือพาร์คินสัน ณ เวลาที่ทำการทดสอบ โดยใช้เวลาติดตามผลนาน 4 ปี
ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิต 321 ราย หรือ 27.6%
ที่น่าประหลาดก็คือ นักวิจัยพบว่าความเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 36% สำหรับผู้ที่ระบุกลิ่นถูกเพียง 6 รายการ เทียบกับผู้ที่ระบุถูกถึง 11 จาก 12 รายการ
ความเชื่อมโยงนี้เป็นจริงแม้เมื่อพิจารณาปัจจัยด้านอายุ ความพิการ อาการซึมเศร้า ความผิดปกติของสมอง และกิจกรรมยามว่างประกอบด้วยแล้วก็ตาม
ดร.วิลสันรายงานไว้ในวารสารเคมิคัล เซนส์ฉบับเดือนมกราคม ว่าผลลัพธ์นี้บ่งชี้ว่าปัญหาในการระบุกลิ่นที่คุ้นเคยในผู้สูงวัยมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น
ดร.วิลสันสำทับว่า งานวิจัยก่อนหน้านี้ของตนเองพบว่า นาสิกประสาทที่เสื่อมลงอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคที่ทำลายเซลล์ประสาทในสมองบางอย่าง เช่น โรคสมองเสื่อม
“อาการเหล่านี้จะมีพัฒนาการอย่างช้าๆ กินเวลานานเป็นปี และเชื่อมโยงกับความเสี่ยงเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น
“เราคิดว่าความเชื่อมโยงของความบกพร่องของนาสิกสัมผัสกับอาการเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิต”
แต่ผลศึกษาที่น่าประหลาดใจล่าสุดคือ ถ้าล่วงเข้าบั้นปลายชีวิตแล้วจมูกเริ่มได้กลิ่นไม่ชัดเจน ควรทำใจได้เนิ่นๆ เพราะนั่นหมายความว่าเวลาของคุณใกล้มาถึงเต็มที
นักวิจัยจากศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยรัชในชิคาโกพบว่า ยิ่งคนเรายังรับรู้กลิ่นที่พบในชีวิตประจำวันได้ชัดเจนแค่ไหน ยิ่งมีแนวโน้มว่าเราจะยังมีชีวิตยืนยาวไปอีกหลายปี
ในการทดลอง อาสาสมัครกว่า 1,000 คน อายุระหว่าง 53-100 ปี จะต้องทดสอบดมกลิ่นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน 12 รายการ
ดร.โรเบิร์ต วิลสัน ผู้นำการวิจัย เสริมว่าอาสาสมัครสามารถเลือกดมทีละ 4 รายการ
“กลิ่นที่เรานำมาให้อาสาสมัครดมคือกลิ่นที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย เช่น ควันบุหรี่ มะนาว พริกไทดำ ช็อกโกแลต และอบเชย”
จากนั้น นักวิจัยจึงติดตามผลอาสาสมัครที่ไม่มีใครเป็นโรคสมองเสื่อมหรือพาร์คินสัน ณ เวลาที่ทำการทดสอบ โดยใช้เวลาติดตามผลนาน 4 ปี
ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิต 321 ราย หรือ 27.6%
ที่น่าประหลาดก็คือ นักวิจัยพบว่าความเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 36% สำหรับผู้ที่ระบุกลิ่นถูกเพียง 6 รายการ เทียบกับผู้ที่ระบุถูกถึง 11 จาก 12 รายการ
ความเชื่อมโยงนี้เป็นจริงแม้เมื่อพิจารณาปัจจัยด้านอายุ ความพิการ อาการซึมเศร้า ความผิดปกติของสมอง และกิจกรรมยามว่างประกอบด้วยแล้วก็ตาม
ดร.วิลสันรายงานไว้ในวารสารเคมิคัล เซนส์ฉบับเดือนมกราคม ว่าผลลัพธ์นี้บ่งชี้ว่าปัญหาในการระบุกลิ่นที่คุ้นเคยในผู้สูงวัยมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น
ดร.วิลสันสำทับว่า งานวิจัยก่อนหน้านี้ของตนเองพบว่า นาสิกประสาทที่เสื่อมลงอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคที่ทำลายเซลล์ประสาทในสมองบางอย่าง เช่น โรคสมองเสื่อม
“อาการเหล่านี้จะมีพัฒนาการอย่างช้าๆ กินเวลานานเป็นปี และเชื่อมโยงกับความเสี่ยงเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น
“เราคิดว่าความเชื่อมโยงของความบกพร่องของนาสิกสัมผัสกับอาการเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิต”
