ASTVผู้จัดการรายวัน - แท็กซี่ก่อเหตุสยองหักหลบสุนัขชนจักรยานยนต์ไปอัดตึกแถวค้าวัสดุก่อสร้าง ไฟไหม้วอดทั้งคัน ย่างสดลูกค้าที่เข้ามาซื้อของ 1 ศพ คนขับแท็กซี่หนีรอดหวุดหวิด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
วานนี้ (17 ม.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.สุขเกษม ทองดี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่เชี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ก่อนจะเสียหลักวิ่งไปชนอาคารพาณิชย์ จนเกิดไฟลุกไหม้ บริเวณ ถ.ลำลูกกา มุ่งหน้าพหลโยธิน ม.3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อนุชา จารยะพันธุ์ รรท.ผกก.สภ.คูคต เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย ในจังหวัดปทุมธานี จำนวน กว่า 15 คัน และมูลนิธิร่วมกตัญญู
จากการตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 คูหา สูง 3 ชั้น ชื่อร้าน โอฬารเคหะภัณฑ์ เลขที่ 33/5-8 กำลังมีเปลวไฟไหม้อยู่ระหว่างชั้นล่างและชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำ โดยด้านล่างพบรถแท็กซี่ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน กว 3308 กทม. ใกล้กันพบศพชายทราบชื่อต่อมา นายวราวุท สีทิม อายุ 21 บ้านเลขที่ 30/29 ซ.46 แยก 6 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ถูกไฟเผาไหม้จนเกรียมไปทั้งตัว แล้วยังพบรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน รยก 833 กทม. ถูกชนหน้าพังยับเยินกระเด็นอยู่บนฟุตบาท ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายพุทธชาติ โสดาจันทร์ อายุ 32 ปี อาการสาหัส กู้ภัยจึงช่วยนำส่ง รพ.สายไหม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับรถแท็กซี่ มาสอบสวนต่อที่โรงพัก ทราบชื่อ นายสิงห์คำรณ แวงธำรง อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 238 ม.9 ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถหาผู้โดยสารอยู่ระหว่างถนนลำลูกกา ขาออกมุ่งหน้าพหลโยธิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีสุนัขวิ่งตัดหน้า ตนจึงได้หักหลบ เป็นจังหวะเดียวกับมีรถจักรยานยนต์วิ่งย้อนศรมาทำให้รถพุ่งชนเข้าอย่างจัง แล้ววิ่งไปเฉี่ยวต้นไม้ข้างทาง ก่อนพุ่งเข้าไปชนกับตึกหลังดังกล่าว ตนจึงรีบเปิดประตูออกมา ก่อนได้ยินเสียงระเบิด เนื่องจากรถของตนติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี โดยมีเปลวไฟลุกไหม้จากด้านหน้าของรถ ก่อนลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนไปติดร้านขายวัสดุก่อสร้าง
ด้าน พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร เปิดเผยว่า หลังจากการสอบสวนนายสิงห์คำรณเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แล้วจะได้เข้าไปสอบปากคำกับผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ส่วนค่าเสียหายอยู่ในระหว่างตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่ง สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ขณะที่นายเทียม โอฬารจันทรโรทัน อายุ 70 ปี เจ้าของร้านโอฬารเคหะภัณฑ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถชนกันใกล้กับหน้าร้าน เมื่อมองออกไปก็เห็นรถแท็กซี่เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ และเกิดเสียหลักพุ่งขึ้นบนฟุตปาธตรงเข้ามาในร้านของตน และเกิดประกายไฟที่รถแท็กซี่ ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นจนมีเปลวไฟลุกท่วมรถและลามเข้ามาที่ร้านอย่างรวดเร็ว ตนเองและคนงานต่างรีบวิ่งหนี ระหว่างนั้นมีญาติของตนที่ป่วยเป็นอัมพาตนอนอยู่ชั้นสองของร้าน แต่เจ้าหน้าที่ที่มาถึงได้เข้าไปช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
วานนี้ (17 ม.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.สุขเกษม ทองดี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่เชี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ก่อนจะเสียหลักวิ่งไปชนอาคารพาณิชย์ จนเกิดไฟลุกไหม้ บริเวณ ถ.ลำลูกกา มุ่งหน้าพหลโยธิน ม.3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อนุชา จารยะพันธุ์ รรท.ผกก.สภ.คูคต เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย ในจังหวัดปทุมธานี จำนวน กว่า 15 คัน และมูลนิธิร่วมกตัญญู
จากการตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 คูหา สูง 3 ชั้น ชื่อร้าน โอฬารเคหะภัณฑ์ เลขที่ 33/5-8 กำลังมีเปลวไฟไหม้อยู่ระหว่างชั้นล่างและชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำ โดยด้านล่างพบรถแท็กซี่ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน กว 3308 กทม. ใกล้กันพบศพชายทราบชื่อต่อมา นายวราวุท สีทิม อายุ 21 บ้านเลขที่ 30/29 ซ.46 แยก 6 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ถูกไฟเผาไหม้จนเกรียมไปทั้งตัว แล้วยังพบรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน รยก 833 กทม. ถูกชนหน้าพังยับเยินกระเด็นอยู่บนฟุตบาท ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายพุทธชาติ โสดาจันทร์ อายุ 32 ปี อาการสาหัส กู้ภัยจึงช่วยนำส่ง รพ.สายไหม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับรถแท็กซี่ มาสอบสวนต่อที่โรงพัก ทราบชื่อ นายสิงห์คำรณ แวงธำรง อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 238 ม.9 ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถหาผู้โดยสารอยู่ระหว่างถนนลำลูกกา ขาออกมุ่งหน้าพหลโยธิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีสุนัขวิ่งตัดหน้า ตนจึงได้หักหลบ เป็นจังหวะเดียวกับมีรถจักรยานยนต์วิ่งย้อนศรมาทำให้รถพุ่งชนเข้าอย่างจัง แล้ววิ่งไปเฉี่ยวต้นไม้ข้างทาง ก่อนพุ่งเข้าไปชนกับตึกหลังดังกล่าว ตนจึงรีบเปิดประตูออกมา ก่อนได้ยินเสียงระเบิด เนื่องจากรถของตนติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี โดยมีเปลวไฟลุกไหม้จากด้านหน้าของรถ ก่อนลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนไปติดร้านขายวัสดุก่อสร้าง
ด้าน พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร เปิดเผยว่า หลังจากการสอบสวนนายสิงห์คำรณเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แล้วจะได้เข้าไปสอบปากคำกับผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ส่วนค่าเสียหายอยู่ในระหว่างตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่ง สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ขณะที่นายเทียม โอฬารจันทรโรทัน อายุ 70 ปี เจ้าของร้านโอฬารเคหะภัณฑ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถชนกันใกล้กับหน้าร้าน เมื่อมองออกไปก็เห็นรถแท็กซี่เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ และเกิดเสียหลักพุ่งขึ้นบนฟุตปาธตรงเข้ามาในร้านของตน และเกิดประกายไฟที่รถแท็กซี่ ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นจนมีเปลวไฟลุกท่วมรถและลามเข้ามาที่ร้านอย่างรวดเร็ว ตนเองและคนงานต่างรีบวิ่งหนี ระหว่างนั้นมีญาติของตนที่ป่วยเป็นอัมพาตนอนอยู่ชั้นสองของร้าน แต่เจ้าหน้าที่ที่มาถึงได้เข้าไปช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย