ศรีสะเกษ - หวั่นปิดชายแดนไทยจากกรณีเขมรจับ 7 คนไทยยัดคุก เขมรแห่ซื้อสินค้าที่ตลาดนัดจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ไปกักตุนจำนวนมาก
วานนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในวันนี้เป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ปรากฏว่า การค้าขายสินค้าค่อนข้างคึกคัก มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนชาวกัมพูชาพากันเข้ามาหาซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคกันเป็นจำนวนมาก โดยนำสินค้าขึ้นบรรทุกบนรถเข็นหลายสิบคันขนกลับเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ซึ่งส่วนมากเป็นเครื่องใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง พืชผักผลไม้ ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยสามารถขายสินค้าได้เกือบหมดในเวลาอันรวดเร็วและมียอดขายสูงกว่าที่ผ่านมา
นางเซริญ เตือง อายุ 37 ปี แม่ค้าชาวกัมพูชาคนหนึ่งที่เข้ามาหาซื้อสินค้าภายในตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหากรณี 7 คนไทยถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัวไปดำเนินคดีในประเทศกัมพูชา ทำให้พวกเราที่ค้าขายอยู่ใกล้ บริเวณชายแดนช่องสะงำแห่งนี้ต่างหวั่นเกรงว่าการปิดชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น จึงพากันมาหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อไปกักตุนเอาไว้ขายให้กับประชาชนในเขตกัมพูชา หากมีการสั่งปิดชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดขึ้น
“พวกเราไม่อยากให้รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทย สั่งปิดชายแดน เพราะจะทำให้ชาวกัมพูชาและชาวไทยที่ค้าขายระหว่างกันมาช้านาน ได้รับผลกระทบเดือดร้อนอย่างหนักแน่นอน” นางเซริญกล่าว.
วานนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในวันนี้เป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ปรากฏว่า การค้าขายสินค้าค่อนข้างคึกคัก มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนชาวกัมพูชาพากันเข้ามาหาซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคกันเป็นจำนวนมาก โดยนำสินค้าขึ้นบรรทุกบนรถเข็นหลายสิบคันขนกลับเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ซึ่งส่วนมากเป็นเครื่องใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง พืชผักผลไม้ ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยสามารถขายสินค้าได้เกือบหมดในเวลาอันรวดเร็วและมียอดขายสูงกว่าที่ผ่านมา
นางเซริญ เตือง อายุ 37 ปี แม่ค้าชาวกัมพูชาคนหนึ่งที่เข้ามาหาซื้อสินค้าภายในตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหากรณี 7 คนไทยถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัวไปดำเนินคดีในประเทศกัมพูชา ทำให้พวกเราที่ค้าขายอยู่ใกล้ บริเวณชายแดนช่องสะงำแห่งนี้ต่างหวั่นเกรงว่าการปิดชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น จึงพากันมาหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อไปกักตุนเอาไว้ขายให้กับประชาชนในเขตกัมพูชา หากมีการสั่งปิดชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดขึ้น
“พวกเราไม่อยากให้รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทย สั่งปิดชายแดน เพราะจะทำให้ชาวกัมพูชาและชาวไทยที่ค้าขายระหว่างกันมาช้านาน ได้รับผลกระทบเดือดร้อนอย่างหนักแน่นอน” นางเซริญกล่าว.