เชียงราย - มือมืดขว้างระเบิดถล่มอาคารในที่ว่าการอำเภอแม่สายซ้ำเป็นครั้งที่ 2 หลังปลายปี 53 เคยขว้างระเบิดปิงปองใส่บ้านพักนายอำเภอมาแล้วครั้งหนึ่ง คาดปมขัดแย้งผลประโยชน์กาสิโนฝั่งท่าขี้เหล็ก ขณะที่ นอภ.ระบุไม่ทรายสาเหตุ พิรุธ!หลังเกิดเหตุ มี จนท.เร่งทำความสะอาดทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้ามืดของวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณด้านหลังที่ว่าการ อ.แม่สาย โดยนายวิศิษฐ์ สิทธิสมบัติ นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.เข้าไปตรวจสอบพบที่บริเวณด้านหลังอาคาร ซึ่งเป็นคอนกรีตสองชั้นและมีอาคารเก็บเอกสารเป็นอาคารเล็กชั้นเดียวตั้งอยู่ชิดกัน โดยระหว่างสองอาคารดังกล่าวมีร่องรอยการถูกระเบิดจนตัวอาคาร ประตู หน้าต่าง ฯลฯ ของอาคารทั้งสองได้รับความเสียหาย และมีกลิ่นดินปืนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ต่อมา พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.แม่สาย พร้อมด้วย พ.ต.ต.วีระพันธ์ ปโนรัมย์ สารวัตรตำรวจวิทยาการ ภ.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ซึ่งพบว่าก่อนหน้านี้ อำเภอได้ให้คนเข้าไปทำความสะอาดและใช้น้ำฉีดล้างแล้ว รวมทั้งเปลี่ยนประตูกระจกที่แตกเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ให้เป็นกระจกที่ใช้งานได้ดีเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ตำรวจวิทยาการยังพบร่องรอยและหลักฐานเกี่ยวกับวัตถุระเบิดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ โดยพบว่า ที่ประตู ซึ่งมีการเปลี่ยนกระจกแล้ว มีรอยทะลุของกรอบอะลูมิเนียมหลายจุด และเมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในอาคารเก็บเอกสารพบรอยของสะเก็ดระเบิดไปถูกสิ่งของต่างๆ โดยเฉพาะชั้นเอกสาร เช่น เหล็กเส้นตัดขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว นอตตัวเมียเบอร์ 10 ฯลฯ นอกจากนี้ยังพบนอตตัวเมียเบอร์ 10 ตกกระจายอยู่ภายนอกหลายอัน โดยบางอันยังมีสารสีฟ้า ซึ่งคาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุระเบิดดังกล่าวปนอยู่
เมื่อ พ.ต.ท.วีระพันธ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูร่องรอยภายนอกอาคารพบมีรอยกะเทาะของผนังคอนกรีตทั่วบริเวณ และตามรอยต่างๆ พบมีคราบของผงสีฟ้าอยู่ด้วย จึงให้เจ้าหน้าที่เก็บเป็นตัวอย่าง เพื่อนำไปตรวจยังกรมสรรพาวุธตำรวจ กรุงเทพฯ หาชนิดของวัตถุระเบิดจากผงสีฟ้าดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบที่คอมเพรสเซอร์แอร์ปรับอากาศที่อยู่ติดอาคารจำนวน 3 ตัว มีร่องรอยความเสียหายถูกสะเก็ดเจาะเข้าไป จึงได้ทำสัญลักษณ์ตามจุดต่างๆ เอาไว้ จากนั้นเก็บข้อมูลหลักฐานทุกอย่างเพื่อนำไปตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายได้ลักลอบวางวัตถุระเบิดเอาไว้ใกล้กับคอมเพรสเซอร์แอร์ปรับอากาศตัวที่ 3 ของอาคารที่ว่าการอำเภอ เพื่อให้แรงระเบิดพุ่งเข้าสู่กระจกและผนังของอาคารเก็บเอกสาร ที่ห่างกันเพียงประมาณ 1.5 เมตร จากนั้นได้ใช้ชนวนฝักแคจุดระเบิดจากระยะที่ห่างออกไปพอสมควร เพื่อความปลอดภัยของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะหลบหนีไป หรืออาจจะใช้การจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือเหมือนการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่โอกาสเป็นไปได้น้อย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่พบเศษของโทรศัพท์มือถือบริเวณดังกล่าวเลย
ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ที่ประกอบวัตถุระเบิดนี้ขึ้นมาเป็นมืออาชีพ เพราะสามารถนำดินระเบิดมาประกอบกับโลหะต่างๆ จากนั้นยังกำหนดทิศทางระเบิดได้อย่างแม่นยำรวมทั้งทำการจุดชนวนก่อนหลบหนีไปอย่างลอยนวลดังกล่าว
ขณะที่นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า หลังให้เจ้าหน้าที่ อส.ไปตรวจสอบ ก็ทราบว่าช่วงเดียวกันพบเห็นวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์ออกไปจากบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุนั้นไม่อาจทราบได้แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะได้ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ให้ทั่วบริเวณ รวมทั้งจัดให้ อส.เฝ้าระวังเวรยามให้ครบ 3 ผลัดช่วงกลางคืนเพื่อป้องกันระวังเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการตรวจสอบความเสียหายพบที่ประตูกระจกของอาคารหลังเล็กถูกสะเก็ดระเบิดจนแตกเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ เศษกระจก ผิวคอนกรีต ที่ถูกกะเทาะออกมากระจายเต็มพื้น นอกจากนี้พบสายชนวนที่เป็นรอยไหม้ และเศษของวัตถุระเบิดรวมทั้งนอตตัวเมียขนาดเบอร์ 10 ตกอยู่ทั่วบริเวณ
อย่างไรก็ตามช่วงเกิดเหตุเป็นเช้ามืดจึงไม่มีใครอยู่บริเวณดังกล่าวจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.แม่สาย ได้สั่งการให้ตำรวจชุดปราบปรามและชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่กลับพบร่องรอยการทำความสะอาด การฉีดน้ำ ฯลฯ จึงได้เก็บข้อมูลเอาไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายได้นำวัตถุระเบิด ซึ่งเป็นระเบิดที่ทำขึ้นมาเอง แต่มีการนำตัวนอตตัวเมียมัดรวมเพื่อให้เป็นสะเก็ดไปด้วยก่อนจะติดชนวนในระยะไกลจึงเป็นเสมือนระเบิดแสวงเครื่องชนิดหนึ่ง และหลังก่อเหตุก็ได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ด้านพล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตำรวจฝ่ายสอบสวน และสืบสวนในพื้นที่เร่งสืบหาข้อเท็จจริงกรณีเหตุลอบวางระเบิดที่ว่าการอำเภอแม่สายอย่างเต็มที่โดยพนักงานสอบสวน ได้สอบคำปากคำนายวิศิษฐ์ สิทธิสมบัติ นายอำเภอแม่สายแล้ว
ขณะที่ระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุเป็นระเบิดประกอบขึ้นเอง โดยมีอานุภาพทำลายล้างสูง เนื่องจากสะเก็ดระเบิดเป็นเศษเหล็กและหัวน็อต โดยเหตุที่เกิดขึ้นได้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดทราบแล้ว
ส่วนสาเหตุ พนักงานสอบสวนตั้งไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องส่วนตัวของนายอำเภอ และเรื่องการบริหารงานภายใน จึงขอเวลาการทำงานของเข้าหน้าที่ตำรวจระยะหนึ่งก่อนคลี่คลายปมการระเบิดครั้งนี้ว่ามาจากสาเหตุใด รวมถึงการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากมีการลงมือ 2 ครั้ง ครั้งแรกเกิดการระเบิดที่บ้านพักนายอำเภอ และครั้งที่ 2 ที่ที่ว่าการ อ.แม่สาย
สำหรับ เหตุการณ์ระเบิดภายในที่ว่าการ อ.แม่สาย เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2553 โดยครั้งนั้นคนร้ายขว้างระเบิดปิงปองขนาดใหญ่ใส่หน้าบ้านพักนายอำเภอแม่สาย แต่นายวิศิษฐ์ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านพักในคืนนั้น แต่ก็เกิดผลทำให้กระจก หลังคากระเบื้องและอ่างปลาคอนกรีตได้รับความเสียหาย และมีความพยายามปิดข่าวกันอย่างหนัก
ส่วนสาเหตุเป็นที่ทราบกันในวงการว่า ก่อนหน้านี้คนใกล้ชิดนายอำเภอ มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับเจ้าของโรงแรม ซึ่งมีบ่อนกาสิโนรายหนึ่งในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากฝั่งตรงกันข้ามมีกาสิโนหลายแห่งไปตั้งอยู่ ทำให้สร้างความไม่พอใจแก่หลายรายที่ไม่ได้รับการสนับสนุน จนถึงขั้นมีการข่มขู่กันขึ้นมา กระทั่งเกิดเหตุการณ์ระเบิดสองครั้งดังกล่าว