“สอดแนมการเมือง”
โดย…ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
รัฐบาลทุกชาติในโลก..ล้วนต้องรักษาเกียรติ์-ศักดิ์ศรี-ดินแดนของชาติตนยิ่งชีวิต!
ชาติไทย..ก็มีเกียรติ์-ศักดิ์ศรีเฉกเช่นทุกชาติในโลก เสมือนมนุษย์ทุกคนในโลกนี้..ซึ่งมีเกียรติ์-ศักดิ์ศรีเฉกเช่นกัน!
ที่สำคัญ..บรรพบุรุษของชาติไทยนับแต่อดีตตราบปัจจุบัน ได้รักษาเกียรติ์-ศักดิ์ศรี-ดินแดนของชาติไทยทุกตารางนิ้ว ด้วยเลือดเนื้อและชีวิตมาแล้วนับไม่ถ้วน
ดังนั้น การรักชาติไทยด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง จึงมิใช่การคลั่งชาติอย่างแน่นอน ส่วนการหวงแหนและปกป้องรักษาดินแดนไทยด้วยชีวิต ยิ่งมิใช่เรื่องไร้สาระหรือบ้าคลั่งในสงคราม เพราะมนุษย์ที่มีชาติทุกคน..ต้องมีความรักชาติบ้านเมืองของตน บนความไม่เอารัดเอาเปรียบชาติอื่นอย่างสามานย์เป็นสรณะครับ
แต่รัฐบาลไทยบางรัฐบาล..กลับปล่อยให้รัฐบาลอันธพาลเขมร มาข่มเหง-รังแก-เอารัดเอาเปรียบอย่างอยุติธรรม เพื่อจะยึดเอาดินแดนไทยไปเป็นดินแดนของเขมร ชนิดที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เพราะมันขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ควรจะเป็นโดยสิ้นเชิง
ทำให้คอการเมืองไม่น้อยสำเหนียกได้ว่า กำลังมีคนบางคนในรัฐบาลบางรัฐบาล รวมทั้งรัฐบาลปัจจุบันได้สมคบกับเขมรฮุนเซน รู้เห็นเป็นใจให้เขมรฮุนเซนยึดครองดินแดนไทย ด้วยแผนตบตาคนไทยทั้งชาติอย่างแยบยล
ดังจะเห็นได้จากผู้มีอำนาจในรัฐบาลอภิสิทธิ์บางคน ได้เดินทางไปพบปะเจรจากับเขมรฮุนเซน แล้วอดใจไม่ไหวถึงกับกระดี๊กระด๊าอ้าปากจนแลเห็นลิ้นไก่ว่า
คนไทยอย่ามาทะเลาะกันเรื่องที่ดินแค่“แมวดิ้นตาย”ตรงเขาพระวิหารเลย ไปเอาผลประโยชน์น้ำมันในทะเลไทย-เขมรกันดีกว่า..!
ที่สำคัญ..เขมรฮุนเซนยังเจ้าเล่ห์แสนกล ด้วยการใช้ขุมทรัพย์น้ำมันมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาทที่อยู่ใต้ท้องทะเลไทย-กัมพูชา อ่อยเหยื่อให้เหล่าคนไทยขายชาติโลภมากบางคนบางกลุ่ม ให้สนับสนุนการกระทำอันชั่วร้ายของเขมรฮุนเซนอีกต่างหาก
จึงไม่น่าแปลกที่รัฐบาลบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้ทำให้ชาติไทยเสียเปรียบชาติเขมรโดยไม่จำเป็น ด้วยการไม่ยอมยกเลิก MOU2543 ที่รับรองแผนที่ฝรั่งเศสมาตราส่วน 1 ต่อ2 แสน ที่เขมรฮุนเซนใช้เป็นข้ออ้างในการส่งกำลังทหารเขมร เข้ามาตั้งค่ายทหาร-หมู่บ้าน-ตลาด-วัด บนผืนแผ่นดินของไทยอย่างโจ่งแจ้ง
อีกทั้งรัฐบาลไทยยังปล่อยให้รัฐบาลเขมรฮุนเซน เที่ยวโกหกหลอกลวงนานาชาติว่า แผ่นดินไทยที่กัมพูชารุกล้ำนั้น เป็นดินแดนของเขมรและมักถูกทหารไทยรุกราน เข้ามาทำลายชีวิตและทรัพย์สินชาวเขมรอยู่เนืองนิตย์
ผลจากการที่รัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ จงใจไม่ป่าวประกาศความจริงให้ชาวโลกได้รับรู้ ทำให้นานาชาติหลงกลเล่ห์ร้ายเขมรฮุนเซน จนองค์การยูเนสโกถึงกับหลงบริจาคเงินให้รัฐบาลเขมร นำไปก่อสร้างตลาดชุมชนเขมรถึง 50,000 เหรียญสหรัฐ บนผืนแผ่นดินไทยอีกด้วย
เท่านั้นไม่พอ..รัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังถอนกำลังปกป้องรักษาเขตแดนไทย จากแนวสันปันน้ำและหลักแบ่งเขตแดน ตามสนธิสัญญาสยาม-อินโดจีน ปี ค.ศ. 1904 หรือราว103 ปี ออกมารักษาการอยู่ตามขอบแนวแผนที่ฝรั่งเศส มาตราส่วน1 ต่อ2 แสน โดยปล่อยให้ทหารเขมรเข้ามายึดครองดินแดนไทยแทน
การกระทำที่ไม่รักษาแผ่นดินไทยเท่าที่ควร ของรัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์นี่แหละ ที่ทำให้ทหารเขมรเหิมเกริมและใช้อำนาจบาตรใหญ่ เที่ยวอาละวาดจับกุมคนไทยจากผืนแผ่นดินไทย เพื่อนำตัวไปขึ้นศาลเขมรด้วยข้ออ้างว่า คนไทยเหล่านั้นรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนเขมร
ดังกรณีล่าสุด..ที่คนไทย 7 คน ถูกทหารกัมพูชาบังอาจจับตัวจากผืนแผ่นดินไทย ก่อนที่คนเหล่านั้นจะเดินไปถึงหลักเขตแดนที่ 46 บริเวณตำบลโนนหมากมุ่น จังหวัดสระแก้ว ก่อนจะถูกทหารเขมรนำตัวไปขึ้นศาลเขมรที่กรุงพนมเปญ
สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้แหละ ที่คนไทยบางคนบางกลุ่มซึ่งมีอำนาจอยู่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่แอบไปมีผลประโยชน์ลับๆกับเขมรฮุนเซน ได้ออกมาพิพากษาคนไทยทั้ง 7 คนแทนชาติเขมรว่า คนไทยที่ถูกทหารเขมรฮุนเซนจับกุมคุมขังทั้ง 7 คนนั้น เป็นผู้รุกล้ำเข้าไปในดินแดนของเขมร..จึงถูกจับขึ้นศาลเขมรไงล่ะครับ
7 คนไทย..ที่โดนจับในดินแดนไทย แต่รัฐบาลเขมรได้อ้างสิทธิ์แต่เพียงฝ่ายเดียว ว่าเป็นดินแดนของชาติเขมรนั้น สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของปัญหาในขณะนี้แล้วว่า
หนึ่ง-มีคนบางคนบางกลุ่มในรัฐบาลไทยหลายรัฐบาล รวมทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ในปัจจุบัน ได้แอบไปมีผลประโยชน์ร่วมกับฝ่ายเขมร ตามแนวชายแดนทั้งบนบกและในทะเลไทย-กัมพูชา จนถึงขั้นคนไทยบางคนบางกลุ่มยังแอบไปสมคบ วางแผนกับรัฐบาลเขมรฮุนเซนให้เข้ามายึดดินแดนชาติไทยกันอย่างแยบยล
เริ่มด้วยการเซ็น MOU2543 ที่รับรองแผนที่ฝรั่งเศส มาตราส่วน1ต่อ2 แสน เพื่อทำให้การแบ่งเขตแดนของไทย-กัมพูชา เกิดการทับซ้อนทางดินแดนขึ้นมาโดยไม่จำเป็น อันเสมือนชาติไทยได้สละสิทธิ์ตนเอง ในการใช้เส้นแบ่งเขตแดนไทย-กัมพูชา ด้วยสันปันน้ำและหลักเขต ตามสนธิสัญญาสยาม-อินโดจีนในปี ค.ศ.1904 ที่มีมานานถึง 103 ปีไปโดยปริยาย
สอง-อีกทั้งรัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังทำให้การแบ่งเขตแดนด้วยสันปันน้ำ ตามสนธิสัญญาสยาม-อินโดจีนปี ค.ศ.1904 ที่ใช้กันมายาวนานถึง 103 ปี กลายเป็นสนธิสัญญาที่ไร้ค่าสิ้นความหมายไปเลย เพราะรัฐบาลไทยบางรัฐบาลได้ตั้งคกก.เจบีซี. ขึ้นมาปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชากันใหม่อีกต่างหาก!
สาม-ที่สำคัญ..รัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังคงปล่อยให้เขมรฮุนเซนเที่ยวโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ ว่าผืนดินของไทย..คือ..แผ่นดินของชาติเขมร
สี่-จากนั้นรัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังปล่อยกองกำลังทหารเขมรบุกเข้ามา ยึดครองดินแดนไทยตามแนวแผนที่ฝรั่งเศส มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน รวมทั้งแผ่นดินบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. ด้วยการตั้งค่ายทหาร-หมู่บ้าน-ตลาด-วัด รวมทั้งจับคนไทยในดินแดนไทย ส่งไปพิพากษาในศาลเขมรอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ห้า-รัฐบาลไทยบางรัฐบาล..รวมทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังรู้เห็นเป็นใจทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้เขมรฮุนเซนนำเอาปราสาทพระวิหาร ไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงผู้เดียว ทว่า..มรดกโลกที่มีเพียงตัวปราสาทพระวิหารนั้น..ไม่สมบูรณ์ รัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ จึงทำทองไม่รู้ร้อนปล่อยให้เขมรฮุนเซน บังอาจนำเอาแผ่นดินไทย 4.6 ตร.กม.ไปให้ 7 ชาติใน คก
ก.ยูเนสโกวางแผนหาผลประโยชน์กันโดยพละการอีกด้วย
เหตุเลวร้ายในต่อชาติและประชาชนคนไทยครั้งนี้ ทั้งหมดเกิดจากการบริหารชาติที่ไร้ประสิทธิภาพ ของรัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่อ่อนแอเกินเหตุ..เพราะมีใครบางคนบางกลุ่ม ในรัฐบาลไทยบางรัฐบาลแอบไปมีผลประโยชน์ กับเขมรฮุนเซนแบบลับๆ จนทำให้ชาติไทยอันทรงเกียรติ์-ศักดิ์ศรี ต้องสูญสิ้นเกียรติ์-ศักดิ์ศรีไปโดยปริยาย..
ที่สำคัญ..รัฐบาลไทยบางรัฐบาลและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังทำให้แผ่นดินไทยของบรรพบุรุษ ที่ปกป้องรักษาไว้ได้ด้วยเลือดเนื้อ-ชีวิตนับไม่ถ้วน ได้สูญเสียดินแดนให้กับชาติเขมรในทางพฤตินัยไปแล้ว จริงไหม..พ่อแม่พี่น้อง..เอ๊ยยย...?