ASTVผู้จัดการรายวัน- "แดง"เหิม จี้"มาร์ค"เอาผิด"ป๋าเปรม-อานันท์-สิทธิ" อ้างหมิ่นเบื้องสูง "ธิดา" เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ยกคำร้องประกัน 7 แกนนำ พร้อมเปิดตัว "เมียขวัญชัย" เป็นกรรมการ นปช. ลั่นชุมนุมใหญ่ 9 ม.ค.นี้ ยังไม่คิดใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก "เทพไท"ซัด"โจกแดง"ไม่เปลี่ยนนิสัย เหตุศาลไม่ให้ประกัน
วานนี้ ( 5 ม.ค. ) ที่ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล ลาดพร้าว นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ รักษาการโฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ( นปช. ) กล่าวว่าวันนี้ ( 6 ม.ค.) เวลา 10.00 น. กลุ่มนปช. จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดต่อ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา เนื่องจากบทสนทนากับอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ที่ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ วิกิลีค มีความหมิ่นเหม่ ต่อการทำลายสถาบันเบื้องสูง หากนายกรัฐมนตรี ไม่ดำเนินคดีกับ 3 บุคคลนี้ ทางกลุ่มนปช. จะแจ้งความเอาผิดนายกรัฐมนตรี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
** ตั้ง"เมียขวัญชัย"เป็นกรรมการนปช.
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. เตรียมยื่นคำร้อง เพื่อขอส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมกระบวนการพิจารณา และไต่สวนคดีของนปช.ในศาลไทย พร้อมเผยแพร่ความคืบหน้าของคดีให้โลกได้รับรู้ เพื่อความยุติธรรมและเที่ยงธรรม หลังจากแกนนำนปช. และผู้ชุมนุมในเหตุการณ์ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 53 ยังไม่ได้รับการประกันตัว และถูกปฎิเสธที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ และถูกจำกัดการมีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมที่จะคัดค้านในคดี
ส่วนกรณีที่ศาลยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราว แกนนำนปช. ทั้ง 7 คนนั้น นางธิดา ยืนยันว่าทางกลุ่มจะเดินหน้าหาช่องทางในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ทั้งนี้แกนนำยืนยันว่า ยังมีขวัญกำลังใจที่จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม รวมถึงเพื่อสิทธิการประกันตัว
นอกจากนี้ รักษาการประธานนปช. ยังได้เปิดตัว นพ.เชิดชัย ตันติศิริ นายกสมาคมศัลยกรรมหัวใจแห่งประเทศไทย และนางอาภรณ์ สาระคำ ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา เป็นกรรมการ นปช. พร้อมเตรียมปรับโครงสร้างนปช. โดยจะให้เร่งตั้งคณะกรรมการระดับ ตำบล อำเภอ จังหวัด และภาค รวมถึงกทม.ทุกเขตให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ ก่อนจะเปิดโครงสร้างใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์
**"เทือก"ไม่ห่วงแดงชุมนุม 9 ม.ค.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ศาลไม่ให้ประกันตัว 7 แกนนำนปช. ซึ่งทำให้เป็นห่วงกันว่าอาจจะมีผลทำให้การชุมนุมวันที่ 9 ม.ค.ของกลุ่มเสื้อแดง จะมีความรุนแรงขึ้นว่า เรื่องนี้ตนคาดการณ์ไม่ได้ และอยากให้ปล่อยเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมปกติ เรื่องการประกันตัวเมื่อยืนคราวนี้ไม่ได้ คราวหน้าก็ยื่นใหม่ได้ และก็ต้องไปแสดงเหตุผลให้ศาลเข้าใจ ทั้งนี้การที่ศาลจะวินิจฉัยอย่างไร ก็ต้องมีดุลพินิจของศาลเอง ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ ตนคงแสดงความเห็นแทนศาลไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ทางรัฐบาลต้องเตรียมรับมือกับการชุมนุมอย่างไรหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ตนก็คาดการณ์ในทางที่ดีไว้ก่อน เชื่อว่าการเคลื่อนไหว น่าจะอยู่ในขอบเขตที่กฏหมายอนุญาต เพราะทุกฝ่ายก็ตระหนักแล้วว่า การกระทำการใดๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมายมีแต่จะทำให้เกิดผลเสียหายทั้งต่อผู้กระทำ และทั้งต่อบ้านเมือง
เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาลได้มีส่วนในการสนับสนุนเรื่องการประกันตัวแกนนำนปช.อย่างไรบ้าง เพราะมีการวิจารณ์ถึงความไม่จริงใจของรัฐบาลในเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า สื่ออย่าตีความผิดไป เจตนาของรัฐบาลชัดเจนว่า ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบได้พิจารณาร่วมกัน ผู้ต้องหาที่ไม่ใช่คนที่เป็นตัวการที่กระทำความผิดเสียหาย ร้ายแรง เป็นคนที่ไปและไปทำความผิดและความผิดนั้นไม่ใช่ความผิดที่ร้ายแรง ถ้าเห็นว่าการที่เขาประกันตัวแล้ว เขาไม่หลบหนี หรือไม่สร้างปัญหาอะไร ก็ให้เจ้าหน้าที่ไปประสานงานกัน และให้ความเห็นผ่านอัยการไป และไม่คัดค้านการประกันตัวของคนเหล่านี้ แต่กรณีของคนที่เป็นตัวการใหญ่ๆ ความผิดที่สำคัญที่ร้ายแรง ก็ต้องว่าไปตามเหตุผลอีกเหตุผลหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ที่มีนายคณิต ณ นคร เสนอความเห็นต่อรัฐบาลไปแล้วว่า ควรมีการปล่อยตัว แต่ทำไมยังไม่สามารถปล่อยได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ทำไปแล้ว ที่ผ่านมาก็ดำเนินการปล่อยผู้ต้องหาที่มีข้อหาธรรมดาไปหลายคนแล้ว เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงประเมินหรือไม่ว่า หากการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงวุ่นวายจนเกินที่กฎหมายธรรมดาจะรับมือได้ จนต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกครั้งหนึ่ง นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า จะยังใช้กฎหมายปกติอยู่
** แดงไม่เปลี่ยนนิสัย ศาลไม่ให้ประกัน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลยกคำร้องขอประกันตัวแกนนำนปช.ว่า ทุกคนควรที่จะเคารพคำวินิจฉัยของศาล แกนนำเสื้อแดงไม่ควรหยิบยกมาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวในวันที่ 9 ม.ค. นี้ เพราะเป็นดุลพินิจของศาลสถิตยุติธรรม แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามที่อำนวยความสะดวกในการประกันตัวแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถแทรกแซง ชี้นำศาลได้ เป็นบทพิสูจน์ที่กล่าวหาว่ารัฐบาลแทรกแซงศาล ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหา.
วานนี้ ( 5 ม.ค. ) ที่ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล ลาดพร้าว นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ รักษาการโฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ( นปช. ) กล่าวว่าวันนี้ ( 6 ม.ค.) เวลา 10.00 น. กลุ่มนปช. จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดต่อ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา เนื่องจากบทสนทนากับอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ที่ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ วิกิลีค มีความหมิ่นเหม่ ต่อการทำลายสถาบันเบื้องสูง หากนายกรัฐมนตรี ไม่ดำเนินคดีกับ 3 บุคคลนี้ ทางกลุ่มนปช. จะแจ้งความเอาผิดนายกรัฐมนตรี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
** ตั้ง"เมียขวัญชัย"เป็นกรรมการนปช.
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. เตรียมยื่นคำร้อง เพื่อขอส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมกระบวนการพิจารณา และไต่สวนคดีของนปช.ในศาลไทย พร้อมเผยแพร่ความคืบหน้าของคดีให้โลกได้รับรู้ เพื่อความยุติธรรมและเที่ยงธรรม หลังจากแกนนำนปช. และผู้ชุมนุมในเหตุการณ์ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 53 ยังไม่ได้รับการประกันตัว และถูกปฎิเสธที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ และถูกจำกัดการมีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมที่จะคัดค้านในคดี
ส่วนกรณีที่ศาลยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราว แกนนำนปช. ทั้ง 7 คนนั้น นางธิดา ยืนยันว่าทางกลุ่มจะเดินหน้าหาช่องทางในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ทั้งนี้แกนนำยืนยันว่า ยังมีขวัญกำลังใจที่จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม รวมถึงเพื่อสิทธิการประกันตัว
นอกจากนี้ รักษาการประธานนปช. ยังได้เปิดตัว นพ.เชิดชัย ตันติศิริ นายกสมาคมศัลยกรรมหัวใจแห่งประเทศไทย และนางอาภรณ์ สาระคำ ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา เป็นกรรมการ นปช. พร้อมเตรียมปรับโครงสร้างนปช. โดยจะให้เร่งตั้งคณะกรรมการระดับ ตำบล อำเภอ จังหวัด และภาค รวมถึงกทม.ทุกเขตให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ ก่อนจะเปิดโครงสร้างใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์
**"เทือก"ไม่ห่วงแดงชุมนุม 9 ม.ค.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ศาลไม่ให้ประกันตัว 7 แกนนำนปช. ซึ่งทำให้เป็นห่วงกันว่าอาจจะมีผลทำให้การชุมนุมวันที่ 9 ม.ค.ของกลุ่มเสื้อแดง จะมีความรุนแรงขึ้นว่า เรื่องนี้ตนคาดการณ์ไม่ได้ และอยากให้ปล่อยเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมปกติ เรื่องการประกันตัวเมื่อยืนคราวนี้ไม่ได้ คราวหน้าก็ยื่นใหม่ได้ และก็ต้องไปแสดงเหตุผลให้ศาลเข้าใจ ทั้งนี้การที่ศาลจะวินิจฉัยอย่างไร ก็ต้องมีดุลพินิจของศาลเอง ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ ตนคงแสดงความเห็นแทนศาลไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ทางรัฐบาลต้องเตรียมรับมือกับการชุมนุมอย่างไรหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ตนก็คาดการณ์ในทางที่ดีไว้ก่อน เชื่อว่าการเคลื่อนไหว น่าจะอยู่ในขอบเขตที่กฏหมายอนุญาต เพราะทุกฝ่ายก็ตระหนักแล้วว่า การกระทำการใดๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมายมีแต่จะทำให้เกิดผลเสียหายทั้งต่อผู้กระทำ และทั้งต่อบ้านเมือง
เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาลได้มีส่วนในการสนับสนุนเรื่องการประกันตัวแกนนำนปช.อย่างไรบ้าง เพราะมีการวิจารณ์ถึงความไม่จริงใจของรัฐบาลในเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า สื่ออย่าตีความผิดไป เจตนาของรัฐบาลชัดเจนว่า ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบได้พิจารณาร่วมกัน ผู้ต้องหาที่ไม่ใช่คนที่เป็นตัวการที่กระทำความผิดเสียหาย ร้ายแรง เป็นคนที่ไปและไปทำความผิดและความผิดนั้นไม่ใช่ความผิดที่ร้ายแรง ถ้าเห็นว่าการที่เขาประกันตัวแล้ว เขาไม่หลบหนี หรือไม่สร้างปัญหาอะไร ก็ให้เจ้าหน้าที่ไปประสานงานกัน และให้ความเห็นผ่านอัยการไป และไม่คัดค้านการประกันตัวของคนเหล่านี้ แต่กรณีของคนที่เป็นตัวการใหญ่ๆ ความผิดที่สำคัญที่ร้ายแรง ก็ต้องว่าไปตามเหตุผลอีกเหตุผลหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ที่มีนายคณิต ณ นคร เสนอความเห็นต่อรัฐบาลไปแล้วว่า ควรมีการปล่อยตัว แต่ทำไมยังไม่สามารถปล่อยได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ทำไปแล้ว ที่ผ่านมาก็ดำเนินการปล่อยผู้ต้องหาที่มีข้อหาธรรมดาไปหลายคนแล้ว เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงประเมินหรือไม่ว่า หากการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงวุ่นวายจนเกินที่กฎหมายธรรมดาจะรับมือได้ จนต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกครั้งหนึ่ง นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า จะยังใช้กฎหมายปกติอยู่
** แดงไม่เปลี่ยนนิสัย ศาลไม่ให้ประกัน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลยกคำร้องขอประกันตัวแกนนำนปช.ว่า ทุกคนควรที่จะเคารพคำวินิจฉัยของศาล แกนนำเสื้อแดงไม่ควรหยิบยกมาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวในวันที่ 9 ม.ค. นี้ เพราะเป็นดุลพินิจของศาลสถิตยุติธรรม แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามที่อำนวยความสะดวกในการประกันตัวแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถแทรกแซง ชี้นำศาลได้ เป็นบทพิสูจน์ที่กล่าวหาว่ารัฐบาลแทรกแซงศาล ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหา.