xs
xsm
sm
md
lg

แนะรัฐผุดนิคม-แหล่งท่องเที่ยว ยกระดับเขตชายแดนเป็นพื้นที่ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – เอเจนซี่ฯแนะรัฐบาลผุดนิคมอุตสาหกรรม-แหล่งท่องเที่ยวเสริมศัยกภาพที่ดินพื้นที่ชายแดน สร้างรายได้ดูดเม็ดเงิน แข่บ่อนพนันประเทศเพื่อนบ้าน หลังพบบ่อน “เขมร” ดูดเงินนักพนันไทยปีละ 7,300 ล้านบาท พร้อมเสนอทางแก้ลดปัญหาการข้ามพรมแดนไปเล่นการพนันคนไทย หากห้ามไม่ได้ให้ร่วมุทนเปิดบ่อนในต่างประเทศหรือเดบ่อนในไทยสู่

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) กล่าวถึงข้อเสนอให้ประเทศไทยพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และแหล่งท่องเที่ยวตามแนวชายแดน รวมทั้งการพิจารณาเรื่องการเปิดบ่อนการพนันในไทยหรือการห้ามคนไทยข้ามแดนไปเล่นการพนันว่า จากการสำรวจเบื้องต้นของศูนย์ข้อมูลวิจัยฯ พบว่าการค้าขายชายแดนคึกคัก แม้ไทยได้ดุลการค้ามหาศาล แต่ก็เสียไปกับการเล่นการพนันจำนวนมหาศาลเช่นกัน

ทั้งนี้ เมืองชายแดนตามจุดผ่านแดนถาวรต่าง ๆ ตามตะเข็บกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่า ลาว เขมร และมาเลเซีย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกี่ยวข้องกับภาวะทางการเมืองหรือภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก เพราะความจำเป็นในการค้าขายชายแดนนั่นเอง อย่างไรก็ตามภาวการณ์ค้าขายชายแดนอาจได้รับผลกระทบทางการเมืองบ้างในระยะสั้น ๆ เช่น มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ลดลงจาก 51,060.5 ล้านบาทในปี 2551 เป็น 46,201.1 บาทในปี 2552เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในปี 2553 สถานการณ์โดยรวมเริ่มดีขึ้น การค้าขายชายแดนโดยเฉพาะพม่า ลาวและกัมพูชาที่มีการพัฒนาน้อยกว่าไทย ทำให้ตลาดการค้าโดยเฉพาะในฝั่งไทยที่พ่อค้าจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาซื้อสินค้า มีการเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ ส่วนตลาดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็เติบโตเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ที่ดินชายแดนที่แต่เดิมเป็นที่ดินเกษตรกรรมก็สามารถแปรเป็นตลาดการค้าที่ให้เช่าได้วันละไม่ต่ำกว่า 100 บาทต่อตารางเมตร เป็นต้น หากมีพื้นที่ให้เช่า 10,000 ตารางเมตร ก็จะเป็นเงินวันละ 1 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท

สำหรับ พื้นที่ชายแดนพม่า ลาวและกัมพูชา ยังน่าจะสามารถสร้างนิคมอุตสาหกรรม เพื่อใช้แรงงานราคาถูกของประเทศเพื่อนบ้าน โดยอาจตั้งนิคมอุตสาหกรรมในฝั่งไทยและให้เดินทางกลับบ้านผ่านแดนได้ตลอด โดยไม่ต้องให้ตั้งรกรากในไทย ทำให้ไทยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการดูแลประชากรเพื่อนบ้าน หรืออาจตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือนิคมอุตสาหกรรมชายแดนของประเทศเพื่อนบ้านที่ไทยอาจร่วมมือสร้างขึ้นเพื่อสร้างให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าราคาถูกส่งเข้ามาขายในฝั่งไทยและส่งออก

“ประเด็นสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามก็คือบ่อนการพนัน จากรายงานที่ผ่านมา คาดว่ามีนักการพนันขนเงินออกไปเล่นการพนัน ในบ่อนตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อย่างต่ำวันละประมาณ 20 ล้านบาท หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เท่ากับปีละ 7,300 ล้านบาท หากนับรวมบ่อนการพนันทั้งหมดริมชายแดนกัมพูชาทั้งหมดนับสิบแห่ง ก็คงเป็นเงินมากกว่าดุลการค้าที่ไทยได้จากเขมรปีละ 40,000 ล้านบาท”

ดังนั้นรัฐบาลควรห้ามการเข้าไปเล่นการพนัน เนื่องจากในกัมพูชาก็ห้ามคนของตนเข้าบ่อน แต่ต้อนรับเฉพาะคนไทย และมีเฉพาะคนไทยที่เข้าไปเล่นการพนันเป็นสำคัญ แต่หากไม่สามารถห้ามได้ ก็สมควรที่จะให้มีบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายภายในประเทศไทยเอง หรือจัดตั้งรัฐวิสาหกิจไทยไปร่วมกับรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านตั้งบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ ทั้งนี้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พื้นที่ชายแดนจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมและความมั่นคงของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรมีนโยบายและแผนที่ชัดเจนกับประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น