วานนี้(4 ม.ค.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกของปี 2554 วันนี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีอาวุโสสูงสุดได้เป็นตัวแทนในการกล่าวอวยพรนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี โดยมี 2-3 ประเด็น ประเด็นแรกพล.ต.สนั่น ได้แสดงความยินดี สังเกตจากสีหน้านายกรัฐมนตรีพบว่า มีความสุข สดชื่น ต่างจากปีที่ผ่านมา ที่มีความเคร่งเครียดและไม่มีความสุข คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะมีสีหน้าที่เปี่ยมสุขแบบนี้ตลอดปี นอกจากนี้พล.ต.สนั่น ยังได้กล่าวว่า ในฐานะรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลท่านพร้อมที่จะทำงานและสนับสนุนนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มใจและเต็มความสามารถจนกว่าจะหมดวาระ หรือถึงการยุบสภา นอกจากนี้ยังชื่นชมนายกรัฐมนตรีว่าภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินขึ้นปีที่ 3 ของนายกรัฐมนตรี สังเกตได้ว่านายกรัฐมนตรีสามารถบริหารแผ่นดินได้ดีมากกว่าเดิม มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
โดยพล.ต.สนั่น กล่าวอวยพรอีกว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีมีพลังกาย พลังใจ พลังสติปัญญา และพลังความสามารถในนำพาประเทศเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนของขวัญที่ครม.มอบให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นต้นไม้มงคลชื่อว่า “ต้นแสงเงินแสงทอง”
พล.ต.สนั่น ระบุว่าต้นไม้ดังกล่าวขอให้ถือเปรียบเสมือนเป็นแสงสว่างและเป็นแสงเงินแสงทองของความเจริญ เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้าของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าว ขอบคุณครม.ทุกคนที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลังและเต็มความสามารถทำให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตใหญ่ๆ ถึง 3 วิกฤตด้วยกัน ก็คือวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง และวิกฤตทางการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นรอบปีที่ผ่านมาไม่ใช่ความสำเร็จของท่านคนเดียว หากแต่เป็นความสำเร็จร่วมกันของคณะรัฐมนตรี คณะรัฐบาล ร่วมกันทุกคนที่ทำงานร่วมกัน โดยยึดหลักและกติกาเดียวกัน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้บอกให้ครม.รับทราบว่าในปี 54 ถือเป็นปีสุดท้ายของสภา อยากเชิญชวนทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อนำพาประเทศชาติประชาชนผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ด้วยดี ขณะเดียวกันได้กล่าวถึงต้นแสงเงินแสงทอง ว่าขอให้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แสงเงิน แสงทอง ที่จะนำพาประเทศชาติและประชาชนสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้
**มาร์คดอดอวยพรปีใหม่"ป๋าเปรม"
เมื่อเวลา 15.50 น.ที่บ้านสี่เสาร์เทเวศร์ นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนางอัญชลี วานิชเทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพบพล.อ.เปรมติณ สูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อเข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ โดยมีพล.ร.อ.พะจุณ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี รอให้การต้อนรับ ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ได้เดินเข้าไปพูดคุยกับพล.อ.เปรมภายในตัวบ้านประมาณ 45 นาที ก่อนเดินกลับออกมาโดยมีพล.อ.เปรมซึ่งอยู่ในชุดเสื้อพระราชทานสีครีมเหลือง เดินตามออกมาส่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และหัวเราะอย่างมีความสุข จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้มอบกล่องของขวัญสีน้ำเงินให้พล.อ.เปรมก่อนเดินทางกลับ
**ปชป.ขวาง“มิ่ง”นำซักฟอกหวั่นถูกหลอก
อีกด้านนายเทพไท นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่จะมีการดันนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าขอเตือนนายมิ่งขวัญว่าถ้าไม่ถนัดงานในสภาไม่ควรเสี่ยงให้เป็นเหยื่อภายในพรรคเพื่อไทย ที่จะต้องมีทั้งประเด็น เนื้อหา ลีลา ที่จะชนะใจคนในสภา และประชาชนที่เฝ้าดูการอภิปราย หากตายกลางสภาฯจะไม่มีคนช่วย ไม่เหมือนพูดคนบนโพลเดี่ยมที่ล้มลงแล้วมีคนช่วยพยุง แต่ขณะเดียวกันในพรรคพรรคเพื่อไทยมีแต่คนจ้องถล่มนายมิ่งขวัญ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมมวยไฟต์เตอร์ไว้พื่ออภิปรายนั้น แสดงให้เห็นว่าอำนาจผู้นำอภิปรายที่แท้จริงไม่ได้อยู่กับนายมิ่งขวัญ เพราะนายมิ่งขวัญเป็นคนเรียบร้อย ประณีประนอม ชี้ให้เห็นว่าที่ยกนายมิ่งขวัญขึ้นมาเป็นเพียงการอุปโลก
**ท้าเผาไทยเปิดตัวผู้นำที่แท้จริง
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีแคนดิเดตนายกฯ 5 คนแสดงว่านายมิ่งขวัญถูกหลอกเป็นหนูลองยา และทั้ง 5คนเป็นคนในทั้งหมดหนึ่งในจำนวนนั้นอาจดูว่าเป็นคนนอกก็ได้คือนางสาวยิ่งลักษ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้อยากให้พรรคเพื่อไทยให้กล้าเปิดเผยผู้นำที่แท้จริง ไม่ควรรอหลังจากมีการยุบสภาแล้วค่อยเปิด อย่าทำอึมครึมสังคมจะได้ตรวจสอบ
**แฉเผาไทยขัดแย้งแบ่ง 2ก๊ก
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น เห็นว่าพรรคเพื่อไทยกำลังลังเล 2 จิต 2 ใจเพราะมีกลุ่มอยู่ 2 กลุ่มที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกัน กลุ่มแรกกลุ่มที่อยากให้ยบสภาโดยเร็ว และกลุ่มที่สองต้องการให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่เมื่อยื่นอภิปรายแล้วจะทำให้การยุบสภาช้าออกไปอีก และเมื่ออภิปรายเสร็จรัฐบาลก็จะลากเร็วออกไปกว่าจะยุบสภา
**"สุวัจน์"เชื่อไม่มีพรรคใดเสียงเกินครึ่ง
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครวมชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพรรครวมชาติพัฒนาต่อสถานการณ์การเมือง และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นใน ปี 2554 ว่า พรรคอยู่ในระหว่างการปรับฐาน เปลี่ยนตัวกันและเตรียมความพร้อม เนื่องจากในปีนี้จะมีการเลือกตั้งขึ้นตามที่นายกรัฐมนตรีเคยได้ประกาศไว้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การเมืองไทยก็ยังไม่มีตัวแปรใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ได้มาซึ่งพรรคการเมืองใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพรรคเก่าที่คุ้นเคยกัน สำหรับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ก็จะมีอยู่ 2 พรรค ส่วนบรรดาพรรคเล็ก ก็จะมีการรวมตัวกันเป็นพรรคขนาดกลาง เมื่อไม่มีตัวแปรใหม่ บรรยากาศการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง ก็จะเป็นการแข่งขันขับเคี่ยวกันระหว่างพรรคใหญ่
"สภาพการเมืองปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ยากลำบาก หากจะมีพรรคหนึ่งพรรคใดสามารถได้รับเลือกตั้งมีเสียงเกินครึ่งและจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว เมื่อการเมืองมี 2 ขั้ว และยังไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก ต้องอาศัยบรรดาพรรคขนาดเล็ก หรือพรรคขนาดกลาง ที่จะสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล" นายสุวัจน์กล่าว
โดยพล.ต.สนั่น กล่าวอวยพรอีกว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีมีพลังกาย พลังใจ พลังสติปัญญา และพลังความสามารถในนำพาประเทศเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนของขวัญที่ครม.มอบให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นต้นไม้มงคลชื่อว่า “ต้นแสงเงินแสงทอง”
พล.ต.สนั่น ระบุว่าต้นไม้ดังกล่าวขอให้ถือเปรียบเสมือนเป็นแสงสว่างและเป็นแสงเงินแสงทองของความเจริญ เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้าของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าว ขอบคุณครม.ทุกคนที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลังและเต็มความสามารถทำให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตใหญ่ๆ ถึง 3 วิกฤตด้วยกัน ก็คือวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง และวิกฤตทางการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นรอบปีที่ผ่านมาไม่ใช่ความสำเร็จของท่านคนเดียว หากแต่เป็นความสำเร็จร่วมกันของคณะรัฐมนตรี คณะรัฐบาล ร่วมกันทุกคนที่ทำงานร่วมกัน โดยยึดหลักและกติกาเดียวกัน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้บอกให้ครม.รับทราบว่าในปี 54 ถือเป็นปีสุดท้ายของสภา อยากเชิญชวนทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อนำพาประเทศชาติประชาชนผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ด้วยดี ขณะเดียวกันได้กล่าวถึงต้นแสงเงินแสงทอง ว่าขอให้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แสงเงิน แสงทอง ที่จะนำพาประเทศชาติและประชาชนสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้
**มาร์คดอดอวยพรปีใหม่"ป๋าเปรม"
เมื่อเวลา 15.50 น.ที่บ้านสี่เสาร์เทเวศร์ นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนางอัญชลี วานิชเทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพบพล.อ.เปรมติณ สูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อเข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ โดยมีพล.ร.อ.พะจุณ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี รอให้การต้อนรับ ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ได้เดินเข้าไปพูดคุยกับพล.อ.เปรมภายในตัวบ้านประมาณ 45 นาที ก่อนเดินกลับออกมาโดยมีพล.อ.เปรมซึ่งอยู่ในชุดเสื้อพระราชทานสีครีมเหลือง เดินตามออกมาส่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และหัวเราะอย่างมีความสุข จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้มอบกล่องของขวัญสีน้ำเงินให้พล.อ.เปรมก่อนเดินทางกลับ
**ปชป.ขวาง“มิ่ง”นำซักฟอกหวั่นถูกหลอก
อีกด้านนายเทพไท นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่จะมีการดันนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าขอเตือนนายมิ่งขวัญว่าถ้าไม่ถนัดงานในสภาไม่ควรเสี่ยงให้เป็นเหยื่อภายในพรรคเพื่อไทย ที่จะต้องมีทั้งประเด็น เนื้อหา ลีลา ที่จะชนะใจคนในสภา และประชาชนที่เฝ้าดูการอภิปราย หากตายกลางสภาฯจะไม่มีคนช่วย ไม่เหมือนพูดคนบนโพลเดี่ยมที่ล้มลงแล้วมีคนช่วยพยุง แต่ขณะเดียวกันในพรรคพรรคเพื่อไทยมีแต่คนจ้องถล่มนายมิ่งขวัญ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมมวยไฟต์เตอร์ไว้พื่ออภิปรายนั้น แสดงให้เห็นว่าอำนาจผู้นำอภิปรายที่แท้จริงไม่ได้อยู่กับนายมิ่งขวัญ เพราะนายมิ่งขวัญเป็นคนเรียบร้อย ประณีประนอม ชี้ให้เห็นว่าที่ยกนายมิ่งขวัญขึ้นมาเป็นเพียงการอุปโลก
**ท้าเผาไทยเปิดตัวผู้นำที่แท้จริง
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีแคนดิเดตนายกฯ 5 คนแสดงว่านายมิ่งขวัญถูกหลอกเป็นหนูลองยา และทั้ง 5คนเป็นคนในทั้งหมดหนึ่งในจำนวนนั้นอาจดูว่าเป็นคนนอกก็ได้คือนางสาวยิ่งลักษ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้อยากให้พรรคเพื่อไทยให้กล้าเปิดเผยผู้นำที่แท้จริง ไม่ควรรอหลังจากมีการยุบสภาแล้วค่อยเปิด อย่าทำอึมครึมสังคมจะได้ตรวจสอบ
**แฉเผาไทยขัดแย้งแบ่ง 2ก๊ก
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น เห็นว่าพรรคเพื่อไทยกำลังลังเล 2 จิต 2 ใจเพราะมีกลุ่มอยู่ 2 กลุ่มที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกัน กลุ่มแรกกลุ่มที่อยากให้ยบสภาโดยเร็ว และกลุ่มที่สองต้องการให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่เมื่อยื่นอภิปรายแล้วจะทำให้การยุบสภาช้าออกไปอีก และเมื่ออภิปรายเสร็จรัฐบาลก็จะลากเร็วออกไปกว่าจะยุบสภา
**"สุวัจน์"เชื่อไม่มีพรรคใดเสียงเกินครึ่ง
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครวมชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพรรครวมชาติพัฒนาต่อสถานการณ์การเมือง และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นใน ปี 2554 ว่า พรรคอยู่ในระหว่างการปรับฐาน เปลี่ยนตัวกันและเตรียมความพร้อม เนื่องจากในปีนี้จะมีการเลือกตั้งขึ้นตามที่นายกรัฐมนตรีเคยได้ประกาศไว้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การเมืองไทยก็ยังไม่มีตัวแปรใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ได้มาซึ่งพรรคการเมืองใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพรรคเก่าที่คุ้นเคยกัน สำหรับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ก็จะมีอยู่ 2 พรรค ส่วนบรรดาพรรคเล็ก ก็จะมีการรวมตัวกันเป็นพรรคขนาดกลาง เมื่อไม่มีตัวแปรใหม่ บรรยากาศการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง ก็จะเป็นการแข่งขันขับเคี่ยวกันระหว่างพรรคใหญ่
"สภาพการเมืองปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ยากลำบาก หากจะมีพรรคหนึ่งพรรคใดสามารถได้รับเลือกตั้งมีเสียงเกินครึ่งและจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว เมื่อการเมืองมี 2 ขั้ว และยังไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก ต้องอาศัยบรรดาพรรคขนาดเล็ก หรือพรรคขนาดกลาง ที่จะสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล" นายสุวัจน์กล่าว