ASTVผู้จัดการรายวัน - มิคสัญญี มือมืดปาบึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษ-ป้ายรถเมล์สนามหลวง กองปราบฯ จับตาขิงแก่ จปร. 20 รับงานระเบิดกรุง! สั่งเด้งแล้วรอง ผกก.ป.บางพลัดสังเวยบึ้มหน้าบ้าน "บรรหาร" อนาถ! บช.น.ประชุมปรับแผน แค่เพิ่มตำรวจในเครื่องแบบกดดันคนร้ายไม่ให้ก่อเหตุ
ที่ บก.ป. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทนผบก.ป. กล่าวถึงคดีระเบิดในกรุงเทพฯ หลายแห่ง ว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ และ พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ รอง ผกก.1 บก.ป. จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเชิงลึก เพื่อตรวจสอบว่าเหตุระเบิดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร โดยจะสืบสวนคนละส่วนกับชุดสืบสวนของ บช.น. ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อมูลบางอย่างมาแล้วว่าเป็นกลุ่มไหน แต่จะต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์อีกครั้ง
มีรายงานว่า เบื้องต้นชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. ได้แบ่งคนร้ายออกเป็น 3 กลุ่มตามอาวุธที่ใช้ ประกอบด้วย 1.กลุ่มที่ใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิด M-79 2.กลุ่มที่ใช้ระเบิดแบบขว้าง 3.กลุ่มที่ใช้อาวุธปืนในการยิงใส่สถานที่ราชการและธนาคารกรุงเทพ นอกจากนี้ยังรวบรวมข้อมูลกลุ่มที่สร้างสถานการณ์โดยการใช้ระเบิดปลอมรวมทั้งประทัดด้วย
นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินของกลุ่มนายทหารบางกลุ่มด้วยว่า มีการเคลื่อนไหวทางการเงินที่ผิดปกติหรือไม่ ซึ่งชุดสืบสวนเริ่มได้เบาะแสของกลุ่มผู้ก่อเหตุมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มนายทหารนอกราชการ จปร. รุ่น 20 ซึ่งนายทหารกลุ่มนี้แม้ว่าจะเกษียณราชการไปแล้ว แต่ยังมีบทบาทในกองทัพ มีเครือข่ายและกำลังที่พร้อมจะก่อเหตุดังกล่าวได้
***ตำรวจประชุมปรับแผน
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. มีคำสั่งเรียกประชุมระดับผู้บังคับบัญชาทุกระดับ เพื่อปรับแผนและมาตราการการก่อเหตุป่วนเมือง และเหตุระเบิด ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียก ผบก.และรอง ผบก.ที่คุมงานด้านสายตรวจและฝ่ายสืบสวน เข้ามาประชุมเพื่ออธิบายรายละเอียด 3 ประการที่ได้มอบหมายไป โดยเรื่องแรก เป็นเรื่องของการเคลียร์จุดตรวจเดิมทั้งหมดของสถานีตำรวจ โดยเน้นพื้นที่เป้าหมายที่น่าจะมีการก่อเหตุมากที่สุดเป็นหลัก วางระบบสายตรวจทั้งนอกเครื่องแบบและที่เสริมเข้าไปคือในเครื่องแบบ พร้อมอาวุธ เพื่อป้องกันอันตรายในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชน เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องงานสืบสวนโดยเน้นให้ไปกดดัน กลุ่มบุคคลหรือแก๊งต่างๆที่มีประวัติ และมีแนวโน้มว่าจะก่อเหตุอาชญากรรม
***เด้งรองผกก.ป.บางพลัดเซ่นบึ้ม
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า เรื่องที่ 3 คือ ให้ทุกหน่วยไปวางระบบในการกำกับงานที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เช่นกรณีเหตุในท้องที่ สน.บางพลัด เมื่อมีเหตุเกิดซ้ำแล้วไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของการปฏิบัติ จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 สั่งย้าย พ.ต.ท.ศุภมิตร สุขเจริญ รองผกก.ปป.สน.บางพลัด ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ไปปฏิบัติราชการที่ อก.บก.น.7 และให้พ.ต.ท. กฤชพล พิชิตภัย รองผกก.ปป.สน.ศาลาแดง มาปฏิบัติหน้าที่แทน โดยไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ในท้องที่อื่นๆก็เช่นเดียวกันหากปล่อยปะละเลยให้เกิดเหตุร้ายแรงซ้ำซ้อนในพื้นที่ก็จะต้องถูกสั่งปรับย้าย แต่การปรับย้ายนั้นไม่ใช่เกิดเหตุแล้วสั่งย้ายทันที จะต้องดูขั้นตอนการปฏิบัติงานและมาตรการในการป้องกันเหตุด้วย ส่วนกรณีของ พ.ต.ท. เชษฐา สว่างสุข รองผกก.ปป.สน.บางยี่ขันไม่ได้มีการสั่งปรับย้ายเพียงแต่ พ.ต.ท.เชษฐา ติดภารกิจต้องไปเข้าโรงเรียน จึงมีคำสั่งให้ พ.ต.ท. สุรสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ รองผกก.ปป.สน.บางเสาธง มาปฏิบัติหน้าที่แทน เนื่องจากสน.บางเสาธงไม่มีพื้นที่เสี่ยง ซึ่งผบช.น.ได้มอบนโยบายให้ทุก บก.ในกรณีที่ไม่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ให้สามารถปรับเอา สน.ที่ไม่มีเหตุมาปฏิบัติหน้าที่ได้ชั่วคราว
***เตือนจุดประทัดป่วนผิด กม.
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ปิยะระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางศอ.รส.ได้แจ้งหน่วยร่วมปฏิบัติทุกหน่วย ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน โดยให้ตำรวจและทหารที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน่วยที่ตั้งของตนเอง สถานที่หรือบุคคลสำคัญ ซึ่งสามารถพกพาอาวุธประจำกาย เพื่อป้องกันตนเองและทรัพย์สิน โดยเฉพาะตำรวจที่มีหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอยู่แล้วตามกฎหมาย โดยการปฏิบัตินี้ให้ปฏิบัติตาม ศอ.รส.และในส่วนพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด จะไม่มีการพกพาอาวุธเด็ดขาด หากมีการพกในส่วนของตำรวจ ทหารที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ ปจ.เอง ก็ต้องถูกดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดทุกราย
"ขอเตือนกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่พบแล้ว 2-3 ครั้ง ล่าสุด มีการยิงประทัดที่ทำเนียบรัฐบาล โดยการใช้ประทัดกระเทียมมัดรวมกันก่อนใช้หนังสติ๊กยิงเข้าไปในจุดที่ยืนของเจ้าหน้าที่หรือที่ทำการต่างๆ โดยถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบแล้ว ศอ.รส.ให้ตำรวจดำเนินการอย่างเด็ดขาด และจับภาพได้แล้ว กำลังไปตามตัวอยู่ โดยได้แจ้งให้การ์ด นปช.ช่วยกัน"โฆษกบช.น.กล่าว
***ออกภาพสเก็ตซ์มือยิง ธ.กรุงเทพ
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่คนร้ายป่วนเมืองใช้อาวุธปืนยิงใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว ถนนหลานหลวง ท้องที่ สน.นางเลิ้ง จำนวน 5 นัดกระจกแตกเป็นรูพรุนเมื่อค่ำวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ภายหลังสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและสอบปากคำพยานแวดล้อมพยานที่เห็นเหตุการณ์เสร็จสิ้น พร้อมตรวจสอบภาพคนร้ายที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดจุดต่างๆรอบบริเวณ สามารถนำไปสู่การออกภาพสเก็ตซ์คนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว เป็นมือปืนที่ยิงใส่ธนาคารกรุงเทพฯสาขาดังกล่าว โดยรูปในภาพสเก็ตซ์นั้น เป็นชายไทย ตัดผมสั้น ผิวดำแดง สูงประมาณ 165 เซ็นติเมตร อายุประมาณ 30 ปี สวมหมวกแก๊ปสีแดง สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียว กางเกงยีนส์ มีผ้าคาดปากสีแดง
***มือมืดปาบึ้มมูลนิธิรัฐบุรุษ
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลลานนท์ ถนนอู่ทองนอก เขตดุสิต กรุงเทพฯ ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ก่อนเหตุระเบิด คนร้ายได้ขับขี่รถจักรยายนต์ 2 คัน ผ่านมา หลังจากนั้น มีเสียงระเบิดดังขึ้น แรงระเบิดทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าด้านหน้ามูลนิธิได้รับความเสียหาย รถยนต์นิสสัน สีดำ ทะเบียน กต 1614 นนทบุรี ที่จอดอยู่ ถูกสะเก็ดระเบิดกระจกร้าวแต่ไม่แตก และพบกระเดื่องสีเขียวตกอยู่ภายในรั้ว คาดว่าจะเป็นกระเดื่องของระเบิเแบบขว้าง ชนิดเอ็ม 67 เหมือนกับที่ใช้ปาหน้าบ้านนายบรรหาร ศิลปอาชา เมื่อคืนก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบริเวณภายในมูลนิธินั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงตามปกติ ขณะที่ภายนอกไม่มีกำลังตำรวจหรือทหารอารักขาความปลอดภัยแต่อย่างใด ต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกันเกิดเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นหลังเต็นท์พระภิกษุที่สนามหลวง ใกล้ป้ายรถเเมล์ ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้เกิดกลุ่มควันแต่ไม่มีพระภิกษุรูปใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเป็นระเบิดปิงปอง เพื่อสร้างสถานการณ์ก่อกวน.
