ASTVผู้จัดการรายวัน-จับตาบอร์ดแข่งขันวันนี้ ฟันเอ.พี.ฮอนด้า แข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม หลังเรื่องถูกดองมาตั้งแต่ปี 44 พร้อมชงตั้งอนุกรรมการสอบสวนอีก 3 กรณี ทั้งขายเหล้าพ่วงเบียร์ การกีดกันในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และขายข้าวถุงต่ำกว่าทุน ส่วนอีก 5 กรณีใหม่ ส่อพ้นผิด
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (31 มี.ค.) นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยมีวาระเพื่อพิจารณาเรื่องที่ค้างพิจารณามาตั้งแต่ปี 2544-50 คือ ผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการสอบสวนเรื่องร้องเรียนบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่ใช้อำนาจเหนือตลาดห้ามตัวแทนจำหน่าย (เอเยนต์) ขายรถจักรยานยนต์ของบริษัทคู่แข่ง และมีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งหากผลการสอบสวนพบว่า บริษัทดังกล่าวมีความผิดจริง จะส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีกระทำความผิดซ้ำต้องระวางโทษทวีคูณ
นอกจากนี้ จะพิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนเรื่องร้องเรียน 3 คณะ ได้แก่ 1.กรณีจำหน่ายสุราพ่วงเบียร์ โดยการบังคับให้เอเย่นต์เบียร์ลีโอ และเบียร์สิงห์ซื้อเหล้าพ่วงเบียร์ของบริษัท ไทยเบพเวอเรจ จำกัด 2.การกีดกันทางการค้าในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และ3.การขายข้าวถุงต่ำกว่าทุน โดยคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะมีหน้าที่พิจารณาว่าเรื่องร้องเรียนทั้ง 3 กรณีมีมูลว่าเข้าข่ายแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าพ.ศ.2542 หรือไม่ รวมถึงพิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องธุรกิจค้าส่งค้าปลีก เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนของผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) ที่ร้องเรียนว่า ห้างค้าปลีกหลายแห่งมีพฤติกรรมขายสินค้าต่ำกว่าทุน ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และทำลายคู่แข่งทางธุรกิจ
ขณะเดียวกัน จะพิจารณาเรื่องร้องเรียนใหม่ๆ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.การบังคับให้ซื้อพ่วงน้ำตาลทรายชนิดพิเศษ โดยโรงงานน้ำตาลทรายบังคับให้ยี่ปั๊วซื้อน้ำตาลทรายขาวพ่วงน้ำตาลทรายแดง เพราะโรงงานขายน้ำตาลทรายแดงยาก 2.ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ในสนามบินสุวรรณภูมิปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม เพราะให้บริการผู้ซื้อสามารถฝากเก็บสินค้าไว้ก่อนได้ ซึ่งผู้ร้องเรียนอ้างว่า เป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ร้านค้าอื่นๆ สูญเสียรายได้ 3.การขายพ่วงซอฟต์แวร์เกมอย่างไม่เป็นธรรม โดยผู้ให้บริการเกมออนไลน์บังคับขายพ่วงเกมที่ไม่ได้รับความนิยม 4.ผู้ให้แฟรนไชส์ยกเลิกสัญญาแฟรนไชส์อย่างไม่เป็นธรรม และ5.การตกลงกัน หรือฮั้วกันจำหน่ายน้ำแข็งในตลาดคลองเตยของเอเยนต์รายใหญ่ ซึ่งคาดว่า ทั้ง 5 เรื่องไม่มีเรื่องใดที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (31 มี.ค.) นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยมีวาระเพื่อพิจารณาเรื่องที่ค้างพิจารณามาตั้งแต่ปี 2544-50 คือ ผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการสอบสวนเรื่องร้องเรียนบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่ใช้อำนาจเหนือตลาดห้ามตัวแทนจำหน่าย (เอเยนต์) ขายรถจักรยานยนต์ของบริษัทคู่แข่ง และมีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งหากผลการสอบสวนพบว่า บริษัทดังกล่าวมีความผิดจริง จะส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีกระทำความผิดซ้ำต้องระวางโทษทวีคูณ
นอกจากนี้ จะพิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนเรื่องร้องเรียน 3 คณะ ได้แก่ 1.กรณีจำหน่ายสุราพ่วงเบียร์ โดยการบังคับให้เอเย่นต์เบียร์ลีโอ และเบียร์สิงห์ซื้อเหล้าพ่วงเบียร์ของบริษัท ไทยเบพเวอเรจ จำกัด 2.การกีดกันทางการค้าในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และ3.การขายข้าวถุงต่ำกว่าทุน โดยคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะมีหน้าที่พิจารณาว่าเรื่องร้องเรียนทั้ง 3 กรณีมีมูลว่าเข้าข่ายแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าพ.ศ.2542 หรือไม่ รวมถึงพิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องธุรกิจค้าส่งค้าปลีก เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนของผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) ที่ร้องเรียนว่า ห้างค้าปลีกหลายแห่งมีพฤติกรรมขายสินค้าต่ำกว่าทุน ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และทำลายคู่แข่งทางธุรกิจ
ขณะเดียวกัน จะพิจารณาเรื่องร้องเรียนใหม่ๆ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.การบังคับให้ซื้อพ่วงน้ำตาลทรายชนิดพิเศษ โดยโรงงานน้ำตาลทรายบังคับให้ยี่ปั๊วซื้อน้ำตาลทรายขาวพ่วงน้ำตาลทรายแดง เพราะโรงงานขายน้ำตาลทรายแดงยาก 2.ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ในสนามบินสุวรรณภูมิปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม เพราะให้บริการผู้ซื้อสามารถฝากเก็บสินค้าไว้ก่อนได้ ซึ่งผู้ร้องเรียนอ้างว่า เป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ร้านค้าอื่นๆ สูญเสียรายได้ 3.การขายพ่วงซอฟต์แวร์เกมอย่างไม่เป็นธรรม โดยผู้ให้บริการเกมออนไลน์บังคับขายพ่วงเกมที่ไม่ได้รับความนิยม 4.ผู้ให้แฟรนไชส์ยกเลิกสัญญาแฟรนไชส์อย่างไม่เป็นธรรม และ5.การตกลงกัน หรือฮั้วกันจำหน่ายน้ำแข็งในตลาดคลองเตยของเอเยนต์รายใหญ่ ซึ่งคาดว่า ทั้ง 5 เรื่องไม่มีเรื่องใดที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542