ASTVผู้จัดการรายวัน – มายด์แชร์ ชี้นักการตลาดโฟกัสผู้นำเทรนด์วัยรุ่น ต้องปรับการสื่อสารใหม่ ผสมผสานการใช้แมสมีเดีย อินเทอร์เน็ต อัดกิจกรรม ระบุผู้นำเทรนด์วัยรุ่นมีอิทธิพลต่อกลุ่มวัยรุ่นระดับแมสร่วม 4 ล้านคน ผลวิจัยเผย 3 บุคคล “โอบามา-กรณ์-บอย” ผู้นำเทรนด์ด้านการเป็นผู้นำที่มีจุดยืนและจุดเปลี่ยน
นางสาวปัทมวรรณ สถาพร หัวหน้าฝ่ายการวางแผนธุรกิจ บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงอิทธิพลของผู้นำเทรนด์ นอกเหนือจากดีไซเนอร์ ครีเอทีฟ สไตล์ลิสท์ ฯลฯ แล้ว สำหรับกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 18-23 ปี ก็ยังมีพลังอำนาจในการเป็นผู้นำเทรนด์วัยรุ่นหรือเรียกว่า คูล (Cool) ที่ต้องมีบุคลิกเจ๋ง หรือเท่ โดยมีภาพลักษณ์ภายนอก ดูดี มีสไตล์ และภายในมีความสามารถ มุมมองแตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวมีอิทธิพลดึงดูดความสนใจคนรอบข้าง โดยพบว่าประชากรผู้นำเทรนด์วัยรุ่นอายุ 18-23 ปี มีเกือบ 1 ล้านคน และจะมีอิทธิพลประชากรระดับแมสในกลุ่มวัยรุ่น 4 ล้านคน
จากผลวิจัยเจ๋งหรือเท่ของบริษัทมายด์แชร์ พบว่า พฤติกรรมของผู้นำเทรนด์วัยรุ่น จะเป็นหนึ่งเดียวและไม่มีใครสามารถเลียนแบบ ทำอะไรที่แบบสุด เป็นผู้นำเทรนด์และมีความคิดเป็นของตัวเอง และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงมีรายได้ 5,000-6,000 บาท โดยกิจกรรมที่นิยม คือ การสื่อสารผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์ก และเนื้อหาในเว็บต้องสามารถนำมาปรับให้เขากับความชอบส่วนตัว จากในช่วง 2-3 ปีเว็บไฮไฟว์ ( Hi 5) มาแรง แต่ขณะนี้เฟซบุ๊ค (face book) กำลังมาแรงมากกว่าทวิตเตอร์ (twitter) ด้วยซ้ำ ซึ่งต้องจับตาดูโซเชียล เน็ตเวิร์ค ใหม่ในเร็วๆ นี้
“พฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้อินเทอร์เน็ตและฟังรายการโทรทัศน์พร้อมกัน โดยมากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงต่อวันในช่วงเวลากลางคืน และหากใช้เวลาอยู่บ้านจะเปิดอินเทอร์เน็ตตลอดทั้งวัน โดยการทำตลาดเพียงการใช้สื่อโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยากและไม่ได้ให้ความรู้สึกดีกับแบรนด์จึงต้องมีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ อย่างไรก็ตามการสื่อสารคงต้องใช้ควบคู่กันระหว่างแมสมีเดียกับทางอินเทอร์เน็ต หรือกระทั่งการจัดกิจกรรม”
นางสาวปัทมวรรณ กล่าววิเคราะห์ว่า นักการตลาดต้องมีการปรับใช้การสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้นำเทรนด์วัยรุ่น ด้วยกัน 5 แนวทาง คือ 1.การสื่อสารระหว่างกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นด้วยเนื้อหาเฉพาะกลุ่มมากขึ้น 2.การต่อยอดการสื่อสารด้วยเนื้อหาเดียวกันออกไปในอีกหลายรูปแบบและหลายช่องทาง 3.โซเชียล เน็ตเวิร์ก และการติดต่อทางออนไลน์ เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องหาจุดยุทธศาสตร์ที่แน่ชัดของตัวเองบนอินเตอร์เน็ตให้กับสินค้าและบริการ
4.ระวังการใช้สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นการซื้อ-ขาย แต่ควรนำผลิตภัณฑ์มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ส่วนประการสุดท้าย 5. การปรับทัศนคติและมุมมองเกี่ยวกับการสื่อสารใหม่ จากการเป็นผู้บอกและผู้ขาย มาเป็นผู้ฟังและผู้แลกเปลี่ยนข้อมูล จากการวางแผนแคมเปญไปลองใช้กลยุทธ์การสื่อสารเฉพาะกลุ่ม ปรับจากการพยายามควบคุมข้อมูลการสื่อสารของสินค้า เป็นการสร้างความโปร่งใสในการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมาย จากที่ยากในการติดต่อหรือเข้าถึงข้อมูลสินค้า กลับมาคำนึงถึงการติดต่อได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา
***ผลวิจัยชี้ผู้นำเทรนด์วัยรุ่นไทย***
สำหรับผลวิจัยเจ๋งหรือเท่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จำนวน 50 คน อายุ 18-23 ปี ในกรุงเทพฯ พบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำเทรนด์ของกลุ่มวัยรุ่น ทางด้านการเป็นผู้นำและมีจุดยืนและจุดเปลี่ยน คือ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา , นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และบอย โกสิยพงษ์ ส่วนดาราที่ไม่ใช่สวยไร้สมองและใช้ชีวิตแตกต่าง คือ แองเจลิน่า โจลี่ ผู้นำทางด้านการสร้างเทคโนโลยีคือ สตีฟ จอบส์ ขณะที่ โดม ปกรณ์ลัม และโน้ต-อุดม แต้พานิช เป็นผู้นำด้านการมีสไตล์ของตัวเอง ส่วนวันเดอร์เกิร์ล และจอห์นนี่ เดปป์ มีความสามารถและเป็นที่รู้จักทั่วโลก เป็นต้น
นางสาวปัทมวรรณ สถาพร หัวหน้าฝ่ายการวางแผนธุรกิจ บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงอิทธิพลของผู้นำเทรนด์ นอกเหนือจากดีไซเนอร์ ครีเอทีฟ สไตล์ลิสท์ ฯลฯ แล้ว สำหรับกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 18-23 ปี ก็ยังมีพลังอำนาจในการเป็นผู้นำเทรนด์วัยรุ่นหรือเรียกว่า คูล (Cool) ที่ต้องมีบุคลิกเจ๋ง หรือเท่ โดยมีภาพลักษณ์ภายนอก ดูดี มีสไตล์ และภายในมีความสามารถ มุมมองแตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวมีอิทธิพลดึงดูดความสนใจคนรอบข้าง โดยพบว่าประชากรผู้นำเทรนด์วัยรุ่นอายุ 18-23 ปี มีเกือบ 1 ล้านคน และจะมีอิทธิพลประชากรระดับแมสในกลุ่มวัยรุ่น 4 ล้านคน
จากผลวิจัยเจ๋งหรือเท่ของบริษัทมายด์แชร์ พบว่า พฤติกรรมของผู้นำเทรนด์วัยรุ่น จะเป็นหนึ่งเดียวและไม่มีใครสามารถเลียนแบบ ทำอะไรที่แบบสุด เป็นผู้นำเทรนด์และมีความคิดเป็นของตัวเอง และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงมีรายได้ 5,000-6,000 บาท โดยกิจกรรมที่นิยม คือ การสื่อสารผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์ก และเนื้อหาในเว็บต้องสามารถนำมาปรับให้เขากับความชอบส่วนตัว จากในช่วง 2-3 ปีเว็บไฮไฟว์ ( Hi 5) มาแรง แต่ขณะนี้เฟซบุ๊ค (face book) กำลังมาแรงมากกว่าทวิตเตอร์ (twitter) ด้วยซ้ำ ซึ่งต้องจับตาดูโซเชียล เน็ตเวิร์ค ใหม่ในเร็วๆ นี้
“พฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้อินเทอร์เน็ตและฟังรายการโทรทัศน์พร้อมกัน โดยมากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงต่อวันในช่วงเวลากลางคืน และหากใช้เวลาอยู่บ้านจะเปิดอินเทอร์เน็ตตลอดทั้งวัน โดยการทำตลาดเพียงการใช้สื่อโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยากและไม่ได้ให้ความรู้สึกดีกับแบรนด์จึงต้องมีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ อย่างไรก็ตามการสื่อสารคงต้องใช้ควบคู่กันระหว่างแมสมีเดียกับทางอินเทอร์เน็ต หรือกระทั่งการจัดกิจกรรม”
นางสาวปัทมวรรณ กล่าววิเคราะห์ว่า นักการตลาดต้องมีการปรับใช้การสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้นำเทรนด์วัยรุ่น ด้วยกัน 5 แนวทาง คือ 1.การสื่อสารระหว่างกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นด้วยเนื้อหาเฉพาะกลุ่มมากขึ้น 2.การต่อยอดการสื่อสารด้วยเนื้อหาเดียวกันออกไปในอีกหลายรูปแบบและหลายช่องทาง 3.โซเชียล เน็ตเวิร์ก และการติดต่อทางออนไลน์ เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องหาจุดยุทธศาสตร์ที่แน่ชัดของตัวเองบนอินเตอร์เน็ตให้กับสินค้าและบริการ
4.ระวังการใช้สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นการซื้อ-ขาย แต่ควรนำผลิตภัณฑ์มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ส่วนประการสุดท้าย 5. การปรับทัศนคติและมุมมองเกี่ยวกับการสื่อสารใหม่ จากการเป็นผู้บอกและผู้ขาย มาเป็นผู้ฟังและผู้แลกเปลี่ยนข้อมูล จากการวางแผนแคมเปญไปลองใช้กลยุทธ์การสื่อสารเฉพาะกลุ่ม ปรับจากการพยายามควบคุมข้อมูลการสื่อสารของสินค้า เป็นการสร้างความโปร่งใสในการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมาย จากที่ยากในการติดต่อหรือเข้าถึงข้อมูลสินค้า กลับมาคำนึงถึงการติดต่อได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา
***ผลวิจัยชี้ผู้นำเทรนด์วัยรุ่นไทย***
สำหรับผลวิจัยเจ๋งหรือเท่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จำนวน 50 คน อายุ 18-23 ปี ในกรุงเทพฯ พบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำเทรนด์ของกลุ่มวัยรุ่น ทางด้านการเป็นผู้นำและมีจุดยืนและจุดเปลี่ยน คือ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา , นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และบอย โกสิยพงษ์ ส่วนดาราที่ไม่ใช่สวยไร้สมองและใช้ชีวิตแตกต่าง คือ แองเจลิน่า โจลี่ ผู้นำทางด้านการสร้างเทคโนโลยีคือ สตีฟ จอบส์ ขณะที่ โดม ปกรณ์ลัม และโน้ต-อุดม แต้พานิช เป็นผู้นำด้านการมีสไตล์ของตัวเอง ส่วนวันเดอร์เกิร์ล และจอห์นนี่ เดปป์ มีความสามารถและเป็นที่รู้จักทั่วโลก เป็นต้น