ชาว“นางรอง”ฮือต้าน“บายพาส”ผ่ากลางเมือง- แฉเอื้อประโยชน์พันล้านบางกลุ่ม

บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน 12 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองนางรอง จ.บุรีรัมย์ ลุกฮือประท้วงต้านกรมทางหลวงชนบท ก่อสร้าง “ถนนบายพาส”แห่งเดียวในโลกตัดผ่ากลางเมืองแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยและย่านเศรษฐกิจร้านค้า ส่งผลกระทบชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน รวมทั้งวัด และโรงเรียน แฉไม่ฟังเสียงประชาชน ดึงดันก่อสร้างมูลค่า 1 พันล้าน เอื้อประโยชน์ให้กับบางกลุ่ม

วานนี้ ( 24 มี.ค.) ที่บริเวณหน้าโรงเรียนทีโอเอวิทยา เขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้มีตัวแทนชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก จาก 12 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง กว่า 100 คน นำโดย นายวรเทพ ไชยพาน แกนนำ รวมตัวกันถือป้ายประท้วง คัดค้านโครงการก่อสร้างถนนสายผังเมืองรวมนางรอง สาย จ และสาย ฉ ของกรมทางหลวงชนบท ระยะทางกว่า 11 กิโลเมตร(กม.) ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ที่มีโครงการจะก่อสร้างตัดผ่านชุมชน ซึ่งจะส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านทั้ง 12 ชุมชน กว่า 500 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัย และร้านค้าหนาแน่น

จากนั้น ชาวบ้านได้พากันถือป้ายข้อความต่างๆ ที่แสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างถนนวงแหวนสายดังกล่าว เดินประท้วงไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง พร้อมกับตะโกน “ไม่เอาๆ”สร้างความสนใจให้แก่ประชาชนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก

นายวรเทพ ไชยพาน แกนนำ กล่าวว่า หากมีการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว ชาวบ้านห่วงชีวิตความเป็นอยู่จะเปลี่ยนไป เพราะถนนตัดผ่านแหล่งชุมชน ทำเลค้าขาย รวมทั้งพื้นที่อาคาร บ้านเรือนชาวบ้านบางส่วน ทำลายย่านเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่ก่อนหน้านี้มานานแล้ว เชื่อว่าโครงการดังกล่าวมีการหมกเม็ดตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ หรือความเห็นชอบจากชาวบ้าน มีเพียงกลุ่มเจ้าหน้าที่และผู้มีผลประโยชน์บางกลุ่มเท่านั้นที่รับรู้

จึงอยากเรียกร้องให้ทางภาครัฐหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้อง และชอบด้วยหลักการ รวมทั้งเคยสอบถามเทศบาลเมืองนางรองก็ปฏิเสธบอกปัดว่า เป็นเรื่องของกรมทางหลวงชนบท ไม่เกี่ยวกับเทศบาล ทั้งที่อยู่ในเขตเทศบาล แต่เทศบาลเมืองนางรองกลับอ้างว่าไม่รู้เรื่องเลย จนกระทั่งชาวบ้านออกมาร้องเรียนจึงส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ

นายวรเทพ กล่าวต่อว่า ชาวบ้านอยากได้ถนนวงแหวน เพื่อความสะดวกในการเดินทางสัญจรไปมา แต่ไม่ต้องการถนนวงแหวนที่ผ่ากลางเมืองตัดผ่าบ้านชาวบ้านอย่างนี้ ซึ่งนับว่าคงมีแห่งเดียวในประเทศไทย อีกทั้งก่อนหน้านี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน และสอบถามที่มาที่ไปและเส้นทางโครงการ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการก่อสร้าง จังหวัด ก็รับปากจะนำเรื่องเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านจึงออกมารวมตัวกันประท้วงอีกครั้ง

ด้าน นาง อรกมล จิตต์ประภัสสร ชาวบ้านชุมชนวัดป่าเรไร กล่าวว่า หากโครงการนี้ก่อสร้าง ตนและชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่หมู่บ้านทวีทรัพย์ ต.นางรอง ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถนนตัดผ่านบ้านทั้งหมู่บ้านกว่า 60 หลังคาเรือนจะหายไปในพริบตา ซึ่งก็ไม่รู้จะไปอยู่กันที่ไหน ตนมีลูก 3 คน ต้องเลี้ยงดู อีกทั้งมีหนี้สินจากการกู้ธนาคารมาซื้อบ้านยังผ่อนไม่หมด ยอมรับว่าโครงการนี้ดี แต่ไม่น่าจะมาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างนี้

ขณะที่นางมัทนา พูลวงศ์ ชาวบ้านชุมชนหนองเสม็ด กล่าวเสริมว่า ชาวบ้านในชุมชนกว่า 200 ครัวเรือน เดือดร้อนจากโครงการที่จะมีถนนตัดผ่านบ้านเรือน รวมทั้งวัดและโรงเรียนด้วย อีกทั้งยังเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก และพระภิกษุ เพราะหากมีการสร้างถนนแล้วรถบรรทุกต้องวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน