หลังจากที่เสื้อแดงแสดงแสนยานุภาพเดินทางด้วยขบวนรถมอเตอร์ไซค์บ้าง รถปิกอัพบ้าง ตระเวนไปตามถนนสายต่างๆ ในกรุงเทพมหานครเมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยก็เผอิญหายป่วยพาสมัครพรรคพวกไปขึ้นเวทีเสื้อแดงที่ผ่านฟ้าทันที
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ กล่าวชื่นชมนายวีระ มุสิกพงศ์ ซ้ำแล้วซ้ำอีก “วีระ นายแน่มาก วีระ นายแน่มาก”
คำชื่นชมของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นวุฒิภาวะ เห็นตัวตนของคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ครองยศพลเอกแห่งกองทัพไทยที่ชื่อ ชวลิต ยงใจยุทธ ว่า ชวลิต ยงใจยุทธ นายแย่มาก ไม่ใช่มากธรรมดา แย่เอามากๆ ด้วย
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ มุ่งมั่นที่จะเอาดีทางการเมือง มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติ แก้ปัญหาประชาชนด้วยการตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคความหวังใหม่ จะสร้างความมั่งคั่งมั่นคงให้แก่ประเทศชาติให้ได้ จะแก้ปัญหาความลำบากยากจนของคนอีสานให้ได้ ถึงกับให้สัตย์สาบานว่าถ้าหากแก้ไม่ได้จะไปโดดน้ำโขงตาย
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เสียงข้างมากในสภา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมความตั้งใจ แต่ประเทศชาติไม่ได้มั่นคงมั่งคั่งอย่างที่คุย ซ้ำเจอปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต้องกู้เงินจากกองทุนระหว่างประเทศ สถาบันการเงินหลายสิบแห่งล้มระเนนระนาด ถ้าเป็นคนอื่นก็จะต้องหลบลี้หนีหน้าไปด้วยความอับอาย
นายอำนวย วีรวรรณ ขุนคลังคู่ใจของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว
แต่พลเอกชวลิตไม่อาย
จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยอมมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้กับทักษิณ เท่านั้นยังไม่พอ มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้สมชาย
วันดีคืนดีก็มาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย หรือว่าไปแล้วก็คือมาเป็นเบ๊ให้ทักษิณ ชินวัตร โดยที่ไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นพลเอกแห่งกองทัพไทย อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตนายกรัฐมนตรีหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย โดยเริ่มรับงานเป็นเบ๊ ก็เดินทางไปกัมพูชา กรุยทางให้ทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของกัมพูชา
งานต่อมาก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยการออกมาพูดว่า มีคนชี้นำศาลให้ตัดสินอย่างนั้น ซึ่งเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดอำนาจศาล หรือฝ่ายตุลาการเป็นอย่างยิ่ง ทั้งที่ตัวก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรี เคยเป็นหนึ่งของผู้ใช้อำนาจหนึ่งในสามอธิปไตยมาแล้ว สมควรที่จะรู้ว่า ศาลยุติธรรมของเราเป็นอย่างไร แต่เมื่อได้ตัดสินใจทอดตัวลงไปเป็นเบ๊ของทักษิณเสียแล้ว ก็ต้องทำตัว “นายว่า ขี้ข้าพลอย”
ก็ทักษิณพูดออกมาแล้วนี่ว่า ศาลยุติความเป็นธรรม มีหรือที่ชวลิต ยงใจยุทธ จะพูดเป็นอย่างอื่นได้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคดีที่ศาลตัดสินจำคุกทักษิณ 2 ปีในคดีที่ดินรัชดาฯ นั้น เพราะทักษิณทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.ที่บัญญัติเอาไว้ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือที่ศาลให้ยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน 4 หมื่นกว่าล้านบาทนั่นก็เพราะระหว่างที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี 5-6 ปีนั้น ทักษิณใช้ตำแหน่ง ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์ให้กับครอบครัวของตัวเองอย่างหน้าด้านๆ
ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว อ่านคำพิพากษาไม่เข้าใจหรอกหรือ ไม่รู้สักนิดเลยหรือว่า ทักษิณมันโกง ก็เคยเป็นทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ไม่ระแคะระคายสักนิดเลยหรือว่า ทักษิณแสวงหาประโยชน์ แสวงหาความร่ำรวยทั้งที่ก่อนจะมาเล่นการเมืองรวยอยู่แล้ว (รวยจากที่ค่าเงินบาทลอยตัวที่ออกจากปากชวลิต ยงใจยุทธ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นก็หนหนึ่ง จำไม่ได้หรือ?)
ชวลิต ยงใจยุทธ ไม่รู้หรอกหรือว่า แดงทั้งแผ่นดินที่เคลื่อนไหวอยู่ทุกวันนี้ก็คือการเคลื่อนไหวเพื่อทักษิณ เพื่อไม่ให้ทักษิณติดคุก เพื่อเอาทุกคดีของทักษิณและครอบครัวที่อยู่ในศาลขณะนี้ออกไปเสียจากสารบบศาล และถ้าหากเป็นไปได้ก็เพื่อให้ทักษิณมันได้กลับมาเป็นใหญ่อีก
อยู่ร่วมรัฐบาลกันมาทั้งที่เคยเป็นนาย และเป็นลูกน้องจนพัฒนามาเป็นเบ๊ทักษิณ ชวลิต ยงใจยุทธ คิดหรือว่า ทักษิณชื่นชม ชื่นชอบประชาธิปไตย เห็นอกเห็นใจประชาชน เห็นอกเห็นใจคนที่ถูกกดขี่ เอารัดเอาเปรียบในสังคม ทักษิณไปร่วมประชุมสภากี่ครั้ง คนตายที่กรือเซะ ตากใบ ทักษิณเคยรู้สึกไหมว่า นั่นเป็นเพื่อนมนุษย์ เป็นคนไทยที่ควรจะได้รับความเป็นธรรม ประชาธิปไตยแบบไหนที่สนับสนุนให้ฆ่าในสงครามยาเสพติด มาตรฐานเดียวที่ทักษิณเรียกร้อง คือมาตรฐานที่ทักษิณแต่งตั้งญาติโกโหติกาขึ้นเป็นใหญ่ในวงการทหาร วงการตำรวจอย่างนั้นหรือ
คนที่เคยถูกลูกน้องสอพลอว่าเป็นขงเบ้ง ไม่ระแคะระคายเรื่องอย่างนี้ก็บ้าแล้วละครับ
แต่เมื่อระแคะระคาย หรือรู้อยู่เต็มอกก็ยังทอดตัวลงไปเป็นสมุนรับใช้เขา จะให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากรับงานด้วยหวังว่าจะได้รับความเมตตา เอ็นดูจากทักษิณซึ่งแม้ว่าทรัพย์สินส่วนหนึ่งจะถูกยึดไปแล้ว ก็ยังมีเหลืออยู่อีกอักโข ไม่เห็นหรือว่า กำลังชี้ชวนให้ลูกๆ ดูเกาะที่มอนเตเนโกรที่กำลังจะซื้อไว้เสพสุขระหว่างหนีคุก ในขณะที่ประชาชนเสื้อแดงที่ลำบากยากจนต่อสู้เพราะสงสารทักษิณ เป็นห่วงทักษิณนอนจมขี้จมเยี่ยวอยู่แถวราชดำเนิน
“วีระ นายแน่มาก” ที่ออกจากปากของ ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากจะเป็นคำกล่าวชมนายวีระ มุสิกพงศ์ จนหน้าบานแล้ว เท่ากับเป็นการกล่าวชมตัวเองอีกด้วยว่า เก่งจริงๆ เป็นข้าที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อนายจริงๆ แม้ว่านายจะชั่วช้าเลวทรามอย่างไร นายจะทำร้ายประเทศชาติให้บอบช้ำสาหัสสากรรจ์เพียงใด
ก็จะเป็นเบ๊ที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีตลอดไป
ชวลิต ยงใจยุทธ นายแย่ แย่เอามากๆ
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ กล่าวชื่นชมนายวีระ มุสิกพงศ์ ซ้ำแล้วซ้ำอีก “วีระ นายแน่มาก วีระ นายแน่มาก”
คำชื่นชมของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นวุฒิภาวะ เห็นตัวตนของคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ครองยศพลเอกแห่งกองทัพไทยที่ชื่อ ชวลิต ยงใจยุทธ ว่า ชวลิต ยงใจยุทธ นายแย่มาก ไม่ใช่มากธรรมดา แย่เอามากๆ ด้วย
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ มุ่งมั่นที่จะเอาดีทางการเมือง มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติ แก้ปัญหาประชาชนด้วยการตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคความหวังใหม่ จะสร้างความมั่งคั่งมั่นคงให้แก่ประเทศชาติให้ได้ จะแก้ปัญหาความลำบากยากจนของคนอีสานให้ได้ ถึงกับให้สัตย์สาบานว่าถ้าหากแก้ไม่ได้จะไปโดดน้ำโขงตาย
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เสียงข้างมากในสภา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมความตั้งใจ แต่ประเทศชาติไม่ได้มั่นคงมั่งคั่งอย่างที่คุย ซ้ำเจอปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต้องกู้เงินจากกองทุนระหว่างประเทศ สถาบันการเงินหลายสิบแห่งล้มระเนนระนาด ถ้าเป็นคนอื่นก็จะต้องหลบลี้หนีหน้าไปด้วยความอับอาย
นายอำนวย วีรวรรณ ขุนคลังคู่ใจของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว
แต่พลเอกชวลิตไม่อาย
จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยอมมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้กับทักษิณ เท่านั้นยังไม่พอ มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้สมชาย
วันดีคืนดีก็มาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย หรือว่าไปแล้วก็คือมาเป็นเบ๊ให้ทักษิณ ชินวัตร โดยที่ไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นพลเอกแห่งกองทัพไทย อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตนายกรัฐมนตรีหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย โดยเริ่มรับงานเป็นเบ๊ ก็เดินทางไปกัมพูชา กรุยทางให้ทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของกัมพูชา
งานต่อมาก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยการออกมาพูดว่า มีคนชี้นำศาลให้ตัดสินอย่างนั้น ซึ่งเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดอำนาจศาล หรือฝ่ายตุลาการเป็นอย่างยิ่ง ทั้งที่ตัวก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรี เคยเป็นหนึ่งของผู้ใช้อำนาจหนึ่งในสามอธิปไตยมาแล้ว สมควรที่จะรู้ว่า ศาลยุติธรรมของเราเป็นอย่างไร แต่เมื่อได้ตัดสินใจทอดตัวลงไปเป็นเบ๊ของทักษิณเสียแล้ว ก็ต้องทำตัว “นายว่า ขี้ข้าพลอย”
ก็ทักษิณพูดออกมาแล้วนี่ว่า ศาลยุติความเป็นธรรม มีหรือที่ชวลิต ยงใจยุทธ จะพูดเป็นอย่างอื่นได้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคดีที่ศาลตัดสินจำคุกทักษิณ 2 ปีในคดีที่ดินรัชดาฯ นั้น เพราะทักษิณทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.ที่บัญญัติเอาไว้ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือที่ศาลให้ยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน 4 หมื่นกว่าล้านบาทนั่นก็เพราะระหว่างที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี 5-6 ปีนั้น ทักษิณใช้ตำแหน่ง ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์ให้กับครอบครัวของตัวเองอย่างหน้าด้านๆ
ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว อ่านคำพิพากษาไม่เข้าใจหรอกหรือ ไม่รู้สักนิดเลยหรือว่า ทักษิณมันโกง ก็เคยเป็นทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ไม่ระแคะระคายสักนิดเลยหรือว่า ทักษิณแสวงหาประโยชน์ แสวงหาความร่ำรวยทั้งที่ก่อนจะมาเล่นการเมืองรวยอยู่แล้ว (รวยจากที่ค่าเงินบาทลอยตัวที่ออกจากปากชวลิต ยงใจยุทธ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นก็หนหนึ่ง จำไม่ได้หรือ?)
ชวลิต ยงใจยุทธ ไม่รู้หรอกหรือว่า แดงทั้งแผ่นดินที่เคลื่อนไหวอยู่ทุกวันนี้ก็คือการเคลื่อนไหวเพื่อทักษิณ เพื่อไม่ให้ทักษิณติดคุก เพื่อเอาทุกคดีของทักษิณและครอบครัวที่อยู่ในศาลขณะนี้ออกไปเสียจากสารบบศาล และถ้าหากเป็นไปได้ก็เพื่อให้ทักษิณมันได้กลับมาเป็นใหญ่อีก
อยู่ร่วมรัฐบาลกันมาทั้งที่เคยเป็นนาย และเป็นลูกน้องจนพัฒนามาเป็นเบ๊ทักษิณ ชวลิต ยงใจยุทธ คิดหรือว่า ทักษิณชื่นชม ชื่นชอบประชาธิปไตย เห็นอกเห็นใจประชาชน เห็นอกเห็นใจคนที่ถูกกดขี่ เอารัดเอาเปรียบในสังคม ทักษิณไปร่วมประชุมสภากี่ครั้ง คนตายที่กรือเซะ ตากใบ ทักษิณเคยรู้สึกไหมว่า นั่นเป็นเพื่อนมนุษย์ เป็นคนไทยที่ควรจะได้รับความเป็นธรรม ประชาธิปไตยแบบไหนที่สนับสนุนให้ฆ่าในสงครามยาเสพติด มาตรฐานเดียวที่ทักษิณเรียกร้อง คือมาตรฐานที่ทักษิณแต่งตั้งญาติโกโหติกาขึ้นเป็นใหญ่ในวงการทหาร วงการตำรวจอย่างนั้นหรือ
คนที่เคยถูกลูกน้องสอพลอว่าเป็นขงเบ้ง ไม่ระแคะระคายเรื่องอย่างนี้ก็บ้าแล้วละครับ
แต่เมื่อระแคะระคาย หรือรู้อยู่เต็มอกก็ยังทอดตัวลงไปเป็นสมุนรับใช้เขา จะให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากรับงานด้วยหวังว่าจะได้รับความเมตตา เอ็นดูจากทักษิณซึ่งแม้ว่าทรัพย์สินส่วนหนึ่งจะถูกยึดไปแล้ว ก็ยังมีเหลืออยู่อีกอักโข ไม่เห็นหรือว่า กำลังชี้ชวนให้ลูกๆ ดูเกาะที่มอนเตเนโกรที่กำลังจะซื้อไว้เสพสุขระหว่างหนีคุก ในขณะที่ประชาชนเสื้อแดงที่ลำบากยากจนต่อสู้เพราะสงสารทักษิณ เป็นห่วงทักษิณนอนจมขี้จมเยี่ยวอยู่แถวราชดำเนิน
“วีระ นายแน่มาก” ที่ออกจากปากของ ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากจะเป็นคำกล่าวชมนายวีระ มุสิกพงศ์ จนหน้าบานแล้ว เท่ากับเป็นการกล่าวชมตัวเองอีกด้วยว่า เก่งจริงๆ เป็นข้าที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อนายจริงๆ แม้ว่านายจะชั่วช้าเลวทรามอย่างไร นายจะทำร้ายประเทศชาติให้บอบช้ำสาหัสสากรรจ์เพียงใด
ก็จะเป็นเบ๊ที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีตลอดไป
ชวลิต ยงใจยุทธ นายแย่ แย่เอามากๆ
