ศูนย์ข่าวภูมิภาค - เสื้อแดงเชียงใหม่ยกขบวนบุก สนง.สาขา ปชป.เผาพวงหรีด-โลงศพสาปแช่ง “อภิสิทธิ์” ด้าน มทบ.33 ทำพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ หลัง "พระครูจีวรแดง" นำสาวกเอาเลือดเข้าไปเท พร้อมให้ทหาร 3 นายเข้าแจ้งดำเนินคดีกับ "เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง" เวรกรรม! แดงอุดรทิ้งบ้านไปชุมนุมไฟไหม้วอด
เที่ยงวานนี้ (18 มี.ค.) กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษาของกลุ่ม นำสมาชิกกลุ่มประมาณ 500 คน รวมตัวชุมนุมที่บริเวณหน้าสำนักงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ตรงข้ามศาลปกครองเชียงใหม่ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดวางกำลังประมาณ 300 นาย ดูแลควบคุมสถานการณ์
ขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินทางนำมาโดยรถจักรยานยนต์กว่า 100 คัน และรถยนต์ รวมทั้งรถสี่ล้อแดงรับจ้างอีกหลายสิบคัน พร้อมรถเครื่องขยายเสียง ที่แห่รอบคูเมืองเชียงใหม่มาแล้วหนึ่งรอบ ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงได้ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงมีเนื้อหามุ่งโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนพาดพิงถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อมทั้งจุดพลุไฟพุ่งเข้าใส่ตัวอาคารสำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
จากนั้นทางกลุ่มเสื้อแดงนำโดยนายเพชรวรรต และแกนนำจำนวนหนึ่ง ได้นำพวงหรีดและโลงศพที่เขียนชื่อนายอภิสิทธิ์ ไปวางตั้งบริเวณลานหน้าสำนักงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ แล้วทำการสาปแช่งและเผา ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนที่จะเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์บานปลาย
**มทบ.33 ทำพิธีขอขมาพระเจ้ากาวิละ
เช้าวันเดียวกันที่อนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละในตัวเมืองเชียงใหม่ ทางมณฑลทหารบกที่ 33 โดย พล.ต.ชานุกร ตัณฑโกศล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 นำกำลังพล ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงสักการะดวงพระวิญญาณพระเจ้ากาวิละ อดีตเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ นำโดยพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้นำเลือดมาเทลงในกระถางธูปหน้าอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเกิดความไม่สบายใจเนื่องจากมองว่าเป็นการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
รายงานข่าวแจ้งว่าระหว่างที่ประกอบพิธีบวงสรวงสักการะดวงพระวิญญาณพระเจ้ากาวิละอยู่นั้น พลทหารนายหนึ่งที่เข้าร่วมพิธีอยู่ได้มีอาการชักและปัสสาวะราดออกมา ท่ามกลางความตื่นตกใจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเข้าช่วยกันปฐมพยาบาลเป็นการใหญ่
**ส่งทหารเข้าแจ้งเอาผิดพระครูจีวรแดง
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ยังได้มอบหมายให้ พ.ท.กิตติศักดิ์ พราหมณนันท์ นายทหารพระธรรมนูญ นำทหาร 3 นายคือ ส.อ.ศุภชัย ภิรักษ์ ส.ต.เจตนาพันธ์ บุญตันดี และ พลอาสาวสันต์ วุฒาธรรม เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ชัชพล องค์ศิริพร สารวัตรเวร สภ.แม่ปิง จากกรณีที่ถูกพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง สาดเลือดใส่ ระหว่างนำมวลชนเสื้อแดงทำพิธีที่หน้าอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วย
โดยแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 389 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใดๆ โดยประการที่น่าจะเป็นอันตราย หรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคล หรือเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครก เปรอะเปื้อน หรือน่าจะเปรอะเปื้อน ตัวบุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ
ทั้งนี้ หลังจากแจ้งความแล้วประมาณ 2 - 3 วัน ทางมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ค่ายกาวิละ จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิด พระครูสุเทพสิทธิคุณ อีก 1 คดี คือ "กระทำการที่ไม่บังควรต่ออนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพของชาวเชียงใหม่"
ด้านนายจำลอง กิติศรี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ติดตามพฤติกรรมของพระสงฆ์อย่างใกล้ชิดตามประกาศของมหาเถรสมาคม มาตรา 38 ระบุว่า ห้ามพระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ไม่มีบทลงโทษ ซึ่งการพิจารณาลงโทษพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง นั้น อยู่ที่คณะผู้ปกครองสงฆ์ตามลำดับชั้นที่มีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ไม่คบหาสมาคม และให้ออกจากวัด
**ชร.ก๊อก 2 กร่อยมีแค่ 30 คน
ส่วนที่ จ.เชียงราย มีรายงานข่าวว่า ในช่วง 1-2 วันมานี้บรรดาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วพื้นที่ได้รับคำสั่งให้มีการจัดหาและระดมคนเสื้อแดงเพื่อให้เดินทางไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ เพิ่มเติม เนื่องจากคนเสื้อแดงหลากหลายกลุ่มต่างทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยหลายคนมีท่าทีไม่ค่อยพอใจต่อผลการชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้มากนัก เพราะถูกลดความสำคัญจากแกนนำส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของนายชรุท ปราชญ์วีระกุล ประธานสภาแดงล้านนา กลุ่มเสื้อแดง อ.พาน จ.เชียงราย, กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงรายของ น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ ฯลฯ ที่นำมวลชนเข้ากรุงเทพฯ มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดคนเสื้อแดงจากเชียงรายด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ต้องมีการระดมคนไปเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนเพื่อชดเชยกลุ่มคนที่กลับมา โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมานายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้เปิดลานบ้านตัวเองให้คนเสื้อแดงที่ต้องการจะเดินทางไปชุมนุมเพื่อสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นผิดไปรวมตัวกัน แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านไปร่วมตัวประมาณ 20-30 คนเท่านั้น และได้เดินทางด้วยรถปิกอัพและรถบัสเข้ากรุงเทพฯไปแล้ว
**แดงพะเยากลับบ้าน เซ็ง นปช.
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดง จ.พะเยา ได้เริ่มทยอยกันเดินทางกลับจาก กทม.ถึงภูมิลำเนาแล้ว โดยให้เหตุผลว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ระดับแกนนำยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากสั่งให้นั่งฟังคำปราศรัยแบบเดิมๆ และเดินไปเดินมาตามจุดต่างๆ ที่แกนนำสั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดล้อมกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์เพื่อบีบให้นายอภิสิธิ์ ยุบสภา แสดงให้เห็นความไม่จริงใจและใจไม่เต็มร้อยในการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านเพื่อมาเป็นนายกฯเหมือนเดิม
แหล่งข่าวกลุ่มคนเสื้อแดง จ.พะเยา รายหนึ่งเผยว่า ไม่เฉพาะแต่ นปช.พะเยาเท่านั้นจังหวัดอื่นๆ ก็เริ่มทยอยกลับกันบ้างแล้ว เนื่องจากไม่พอใจแกนนำที่ไม่จริงใจ และคิดว่าในวันเสาร์นี้คนที่กลับบ้านก็คงไม่อยากเดินทางไปอีกรอบ
“แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยของพะเยาบางคน ยังไม่ยอมมาร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับชาวบ้าน ยังต่อไม่สู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำตัวเป็นอีแอบ ไม่ร่วมต่อสู้แล้วรอจะเอาแต่ผลงาน พวกผมจะต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวอยู่ทำไม กลับบ้านดีกว่า“
**แดงสุราษฎร์เข้ากรุงจ่าย 3 วัน 2 พัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานีว่า มีแกนนำกลุ่มเสื้อแดงหลายรายในสุราษฎร์ธานี ที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อส่วนใหญ่เป็นหัวคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทยครั้งที่ผ่านมาได้ใช้วิธีชักชวนเพื่อนฝูงคนที่รู้จักเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมในวันเสาร์นี้ โดยให้ค่าตอบแทน 3 วัน 2,000 บาทต่อคน โดยจะออกเดินทางในเย็นวันนี้ (19 มี.ค.) และเดินทางกลับเย็นวันที่ 20 มี.ค.
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปก่อนหน้านี้และกลับมาแล้วไม่ประสงค์จะไปอีก โดยอ้างว่าเมื่อถึงวันกลับไม่ได้กลับตามที่กำหนด โดยที่ชาวบ้านบางส่วนเริ่มต่อรองขอค่าตอบแทนวันละ 1,000 บาท และต้องจ่ายก่อนขึ้นรถ แต่ทางผู้ประสานงานยังไม่รับปาก โดยบอกว่าขอหารือกับแกนนำที่กรุงเทพฯก่อน
**"กรรม" ทิ้งบ้านไปชุมนุมไฟไหม้วอด
เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (18 มี.ค.) พ.ต.ท.พงษ์พิษณุ คงแสนคำ สารวัตรเวร สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 1 บ้านหนองแปน ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้ฉีดนำสกัดไม่ให้ลุกลามไปติดยุ้งฉางข้าวที่อยู่ใกล้กัน และสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านถูกเผาไหม้เสียหายทั้งหลัง
สอบสวน นายวีระวัฒน์ บุญมาก ผู้ใหญ่บ้านหนองแปนให้การว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายสุเทพ เวียงประวิง อายุ 54 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บ้านคนเดียว มักจะไม่อยู่บ้านเพราะเป็นเป็นสมาชิกชมรมคนรักอุดร จะปิดบ้านเดินทางไปร่วมชุมนุมเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันที่ 12 มี.ค.เห็นนายสุเทพ สวมเสื้อแดงสะพายกระเป๋าออกจากบ้าน และได้บอกนายกอง พรหมมา อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านว่า จะเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ โดยนายสุเทพ ได้ปิดบ้าน แต่เปิดไฟฟ้าทิ้งไว้ กระทั่งตกบ่ายวันนี้เพื่อนบ้านพบเห็นเพลิงลุกไหม้ภายในบ้าน จึงแจ้งตำรวจ และช่วยกันตักน้ำมาดับไฟ แต่เพราะเป็นบ้านไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนเสียหายทั้งหลัง
เบื้องต้น พ.ต.ท.พงษ์พิษณุ สารวัตรเวรสอบสวนสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และ ประเมินความเสียหายประมาณ 300,000 บาท และรอให้เจ้าของบ้านกลับมาเพื่อสอบสวนหาสาเหตุแท้จริงต่อไป.
เที่ยงวานนี้ (18 มี.ค.) กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษาของกลุ่ม นำสมาชิกกลุ่มประมาณ 500 คน รวมตัวชุมนุมที่บริเวณหน้าสำนักงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ตรงข้ามศาลปกครองเชียงใหม่ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดวางกำลังประมาณ 300 นาย ดูแลควบคุมสถานการณ์
ขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินทางนำมาโดยรถจักรยานยนต์กว่า 100 คัน และรถยนต์ รวมทั้งรถสี่ล้อแดงรับจ้างอีกหลายสิบคัน พร้อมรถเครื่องขยายเสียง ที่แห่รอบคูเมืองเชียงใหม่มาแล้วหนึ่งรอบ ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงได้ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงมีเนื้อหามุ่งโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนพาดพิงถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อมทั้งจุดพลุไฟพุ่งเข้าใส่ตัวอาคารสำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
จากนั้นทางกลุ่มเสื้อแดงนำโดยนายเพชรวรรต และแกนนำจำนวนหนึ่ง ได้นำพวงหรีดและโลงศพที่เขียนชื่อนายอภิสิทธิ์ ไปวางตั้งบริเวณลานหน้าสำนักงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ แล้วทำการสาปแช่งและเผา ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนที่จะเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์บานปลาย
**มทบ.33 ทำพิธีขอขมาพระเจ้ากาวิละ
เช้าวันเดียวกันที่อนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละในตัวเมืองเชียงใหม่ ทางมณฑลทหารบกที่ 33 โดย พล.ต.ชานุกร ตัณฑโกศล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 นำกำลังพล ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงสักการะดวงพระวิญญาณพระเจ้ากาวิละ อดีตเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ นำโดยพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้นำเลือดมาเทลงในกระถางธูปหน้าอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเกิดความไม่สบายใจเนื่องจากมองว่าเป็นการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
รายงานข่าวแจ้งว่าระหว่างที่ประกอบพิธีบวงสรวงสักการะดวงพระวิญญาณพระเจ้ากาวิละอยู่นั้น พลทหารนายหนึ่งที่เข้าร่วมพิธีอยู่ได้มีอาการชักและปัสสาวะราดออกมา ท่ามกลางความตื่นตกใจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเข้าช่วยกันปฐมพยาบาลเป็นการใหญ่
**ส่งทหารเข้าแจ้งเอาผิดพระครูจีวรแดง
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ยังได้มอบหมายให้ พ.ท.กิตติศักดิ์ พราหมณนันท์ นายทหารพระธรรมนูญ นำทหาร 3 นายคือ ส.อ.ศุภชัย ภิรักษ์ ส.ต.เจตนาพันธ์ บุญตันดี และ พลอาสาวสันต์ วุฒาธรรม เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ชัชพล องค์ศิริพร สารวัตรเวร สภ.แม่ปิง จากกรณีที่ถูกพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง สาดเลือดใส่ ระหว่างนำมวลชนเสื้อแดงทำพิธีที่หน้าอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วย
โดยแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 389 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใดๆ โดยประการที่น่าจะเป็นอันตราย หรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคล หรือเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครก เปรอะเปื้อน หรือน่าจะเปรอะเปื้อน ตัวบุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ
ทั้งนี้ หลังจากแจ้งความแล้วประมาณ 2 - 3 วัน ทางมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ค่ายกาวิละ จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิด พระครูสุเทพสิทธิคุณ อีก 1 คดี คือ "กระทำการที่ไม่บังควรต่ออนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพของชาวเชียงใหม่"
ด้านนายจำลอง กิติศรี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ติดตามพฤติกรรมของพระสงฆ์อย่างใกล้ชิดตามประกาศของมหาเถรสมาคม มาตรา 38 ระบุว่า ห้ามพระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ไม่มีบทลงโทษ ซึ่งการพิจารณาลงโทษพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง นั้น อยู่ที่คณะผู้ปกครองสงฆ์ตามลำดับชั้นที่มีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ไม่คบหาสมาคม และให้ออกจากวัด
**ชร.ก๊อก 2 กร่อยมีแค่ 30 คน
ส่วนที่ จ.เชียงราย มีรายงานข่าวว่า ในช่วง 1-2 วันมานี้บรรดาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วพื้นที่ได้รับคำสั่งให้มีการจัดหาและระดมคนเสื้อแดงเพื่อให้เดินทางไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ เพิ่มเติม เนื่องจากคนเสื้อแดงหลากหลายกลุ่มต่างทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยหลายคนมีท่าทีไม่ค่อยพอใจต่อผลการชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้มากนัก เพราะถูกลดความสำคัญจากแกนนำส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของนายชรุท ปราชญ์วีระกุล ประธานสภาแดงล้านนา กลุ่มเสื้อแดง อ.พาน จ.เชียงราย, กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงรายของ น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ ฯลฯ ที่นำมวลชนเข้ากรุงเทพฯ มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดคนเสื้อแดงจากเชียงรายด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ต้องมีการระดมคนไปเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนเพื่อชดเชยกลุ่มคนที่กลับมา โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมานายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้เปิดลานบ้านตัวเองให้คนเสื้อแดงที่ต้องการจะเดินทางไปชุมนุมเพื่อสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นผิดไปรวมตัวกัน แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านไปร่วมตัวประมาณ 20-30 คนเท่านั้น และได้เดินทางด้วยรถปิกอัพและรถบัสเข้ากรุงเทพฯไปแล้ว
**แดงพะเยากลับบ้าน เซ็ง นปช.
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดง จ.พะเยา ได้เริ่มทยอยกันเดินทางกลับจาก กทม.ถึงภูมิลำเนาแล้ว โดยให้เหตุผลว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ระดับแกนนำยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากสั่งให้นั่งฟังคำปราศรัยแบบเดิมๆ และเดินไปเดินมาตามจุดต่างๆ ที่แกนนำสั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดล้อมกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์เพื่อบีบให้นายอภิสิธิ์ ยุบสภา แสดงให้เห็นความไม่จริงใจและใจไม่เต็มร้อยในการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านเพื่อมาเป็นนายกฯเหมือนเดิม
แหล่งข่าวกลุ่มคนเสื้อแดง จ.พะเยา รายหนึ่งเผยว่า ไม่เฉพาะแต่ นปช.พะเยาเท่านั้นจังหวัดอื่นๆ ก็เริ่มทยอยกลับกันบ้างแล้ว เนื่องจากไม่พอใจแกนนำที่ไม่จริงใจ และคิดว่าในวันเสาร์นี้คนที่กลับบ้านก็คงไม่อยากเดินทางไปอีกรอบ
“แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยของพะเยาบางคน ยังไม่ยอมมาร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับชาวบ้าน ยังต่อไม่สู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำตัวเป็นอีแอบ ไม่ร่วมต่อสู้แล้วรอจะเอาแต่ผลงาน พวกผมจะต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวอยู่ทำไม กลับบ้านดีกว่า“
**แดงสุราษฎร์เข้ากรุงจ่าย 3 วัน 2 พัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานีว่า มีแกนนำกลุ่มเสื้อแดงหลายรายในสุราษฎร์ธานี ที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อส่วนใหญ่เป็นหัวคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทยครั้งที่ผ่านมาได้ใช้วิธีชักชวนเพื่อนฝูงคนที่รู้จักเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมในวันเสาร์นี้ โดยให้ค่าตอบแทน 3 วัน 2,000 บาทต่อคน โดยจะออกเดินทางในเย็นวันนี้ (19 มี.ค.) และเดินทางกลับเย็นวันที่ 20 มี.ค.
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปก่อนหน้านี้และกลับมาแล้วไม่ประสงค์จะไปอีก โดยอ้างว่าเมื่อถึงวันกลับไม่ได้กลับตามที่กำหนด โดยที่ชาวบ้านบางส่วนเริ่มต่อรองขอค่าตอบแทนวันละ 1,000 บาท และต้องจ่ายก่อนขึ้นรถ แต่ทางผู้ประสานงานยังไม่รับปาก โดยบอกว่าขอหารือกับแกนนำที่กรุงเทพฯก่อน
**"กรรม" ทิ้งบ้านไปชุมนุมไฟไหม้วอด
เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (18 มี.ค.) พ.ต.ท.พงษ์พิษณุ คงแสนคำ สารวัตรเวร สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 1 บ้านหนองแปน ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้ฉีดนำสกัดไม่ให้ลุกลามไปติดยุ้งฉางข้าวที่อยู่ใกล้กัน และสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านถูกเผาไหม้เสียหายทั้งหลัง
สอบสวน นายวีระวัฒน์ บุญมาก ผู้ใหญ่บ้านหนองแปนให้การว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายสุเทพ เวียงประวิง อายุ 54 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บ้านคนเดียว มักจะไม่อยู่บ้านเพราะเป็นเป็นสมาชิกชมรมคนรักอุดร จะปิดบ้านเดินทางไปร่วมชุมนุมเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันที่ 12 มี.ค.เห็นนายสุเทพ สวมเสื้อแดงสะพายกระเป๋าออกจากบ้าน และได้บอกนายกอง พรหมมา อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านว่า จะเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ โดยนายสุเทพ ได้ปิดบ้าน แต่เปิดไฟฟ้าทิ้งไว้ กระทั่งตกบ่ายวันนี้เพื่อนบ้านพบเห็นเพลิงลุกไหม้ภายในบ้าน จึงแจ้งตำรวจ และช่วยกันตักน้ำมาดับไฟ แต่เพราะเป็นบ้านไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนเสียหายทั้งหลัง
เบื้องต้น พ.ต.ท.พงษ์พิษณุ สารวัตรเวรสอบสวนสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และ ประเมินความเสียหายประมาณ 300,000 บาท และรอให้เจ้าของบ้านกลับมาเพื่อสอบสวนหาสาเหตุแท้จริงต่อไป.