ศูนย์ข่าวศรีราชา-จังหวัดจันทบุรีทุ่มงบก้อนแรกเกือบ 4,000 ล้านบาท แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ต้องเผชิญปัญหาซ้ำซากมานานหลายสิบปี
นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึง ปัญหาใหญ่ของจังหวัดจันทบุรี คือ ปัญหาภัยแล้งและปัญหาอุทกภัย เนื่องจากจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนตกรวมตลอดปีสูงมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาอุทกภัยขึ้น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นประจำทุกปี ในขณะเดียวกันจันทบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรม เป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย ทำให้มีความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรสูงมากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่ผลไม้กำลังอยู่ในช่วงออกผลผลิต
ด้านเกษตรกรจำเป็นต้องให้น้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพออกสู่ท้องตลาด ส่งผลทำให้น้ำไม่พอใช้ กลายเป็นปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงของจังหวัดจันทบุรีทุกๆปีเช่นเดียวกัน โดยปัญหาอุทกภัยและปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นซ้ำซากทุกปีไม่สิ้นสุด ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่รับผิดชอบ มีการวางแนวทางการแก้ไขมาโดยตลอด แต่ขาดการติดตามและประสานที่ดี ทำให้ปัญหายังไม่ลุล่วงด้วยดี
นายพูลศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น จึงต้องหามาตรการวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและปัญหาภัยแล้ง ให้หมดไปจากพื้นที่ โดยวางแผนในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการในครั้งนี้ จำนวน 3,900 ล้านบาท โดยในเร็วๆนี้จะต้องรีบดำเนินการขุดลอกคลองในหลายๆพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในระยะแรกก่อน
ที่ผ่านมาการศึกษาปัญหาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง ปัญหาเกิดจาก 5 กลุ่ม คือ 1.ลุ่มน้ำจันทบุรี (ต้นน้ำ) 2.ลุ่มน้ำจันทบุรี(กลางน้ำ-ปลายน้ำ) 3.ลุ่มน้ำวังโตนด 4. ลุ่มน้ำเวฬุ และ ลุ่มน้ำโตนเลสาป
ลุ่มน้ำต่างๆนั้นมีแนวทางในการแก้ปัญหา คือ 1.การก่อสร้างโครงการใหม่และปรับปรุงโครงการที่มีอยู่แล้ว 2. การแก้ไขโดยการบริหารจัดการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย การสร้าง เขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ในหลากหลายพื้นที่
นายพูลศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้น มีโครงการขุดลอกคลอง เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีการท่วมขัง ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็ว ส่วนพื้นที่ที่สามรรถสร้างอ่างเก็บกักน้ำได้ก็พร้อมจะดำเนินการ โดยการสร้างอ่างเก็บน้ำ จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ก็มีโครงการที่จะดำเนินการแล้วหลายโครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองตารอง ต.จันทเขลม กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ โดยใช้งบ1,181,351,000 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาไม้แก้ว ต.อ่างคีรี อ.มะขาม ใช้งบประมาณ จำนวน 10,350,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการขุดลอกคลอง มีการดำเนินการในหลายพื้นที่ เช่น ขุดลอกแก้มลิงหนองตะพอง ต.มะขาม อ.มะขาม งบประมาณจำนวน 40 ล้านบาท ,ขุดลอกสระชีระก่อ ต.ตกพรม อ.ขลุง งบประมาณ 20,006,560 ล้านบาท ,ขุดลอกคลองสระเก็บน้ำหนองฉวี ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ งบประมาณ 15,430,500 ล้านบาท ,ขุดลอกคลองนวล อ.ท่าใหม่ ใช้งบประมาณ 13,906,890 ล้านบาท
นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึง ปัญหาใหญ่ของจังหวัดจันทบุรี คือ ปัญหาภัยแล้งและปัญหาอุทกภัย เนื่องจากจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนตกรวมตลอดปีสูงมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาอุทกภัยขึ้น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นประจำทุกปี ในขณะเดียวกันจันทบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรม เป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย ทำให้มีความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรสูงมากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่ผลไม้กำลังอยู่ในช่วงออกผลผลิต
ด้านเกษตรกรจำเป็นต้องให้น้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพออกสู่ท้องตลาด ส่งผลทำให้น้ำไม่พอใช้ กลายเป็นปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงของจังหวัดจันทบุรีทุกๆปีเช่นเดียวกัน โดยปัญหาอุทกภัยและปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นซ้ำซากทุกปีไม่สิ้นสุด ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่รับผิดชอบ มีการวางแนวทางการแก้ไขมาโดยตลอด แต่ขาดการติดตามและประสานที่ดี ทำให้ปัญหายังไม่ลุล่วงด้วยดี
นายพูลศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น จึงต้องหามาตรการวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและปัญหาภัยแล้ง ให้หมดไปจากพื้นที่ โดยวางแผนในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการในครั้งนี้ จำนวน 3,900 ล้านบาท โดยในเร็วๆนี้จะต้องรีบดำเนินการขุดลอกคลองในหลายๆพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในระยะแรกก่อน
ที่ผ่านมาการศึกษาปัญหาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง ปัญหาเกิดจาก 5 กลุ่ม คือ 1.ลุ่มน้ำจันทบุรี (ต้นน้ำ) 2.ลุ่มน้ำจันทบุรี(กลางน้ำ-ปลายน้ำ) 3.ลุ่มน้ำวังโตนด 4. ลุ่มน้ำเวฬุ และ ลุ่มน้ำโตนเลสาป
ลุ่มน้ำต่างๆนั้นมีแนวทางในการแก้ปัญหา คือ 1.การก่อสร้างโครงการใหม่และปรับปรุงโครงการที่มีอยู่แล้ว 2. การแก้ไขโดยการบริหารจัดการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย การสร้าง เขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ในหลากหลายพื้นที่
นายพูลศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้น มีโครงการขุดลอกคลอง เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีการท่วมขัง ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็ว ส่วนพื้นที่ที่สามรรถสร้างอ่างเก็บกักน้ำได้ก็พร้อมจะดำเนินการ โดยการสร้างอ่างเก็บน้ำ จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ก็มีโครงการที่จะดำเนินการแล้วหลายโครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองตารอง ต.จันทเขลม กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ โดยใช้งบ1,181,351,000 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาไม้แก้ว ต.อ่างคีรี อ.มะขาม ใช้งบประมาณ จำนวน 10,350,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการขุดลอกคลอง มีการดำเนินการในหลายพื้นที่ เช่น ขุดลอกแก้มลิงหนองตะพอง ต.มะขาม อ.มะขาม งบประมาณจำนวน 40 ล้านบาท ,ขุดลอกสระชีระก่อ ต.ตกพรม อ.ขลุง งบประมาณ 20,006,560 ล้านบาท ,ขุดลอกคลองสระเก็บน้ำหนองฉวี ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ งบประมาณ 15,430,500 ล้านบาท ,ขุดลอกคลองนวล อ.ท่าใหม่ ใช้งบประมาณ 13,906,890 ล้านบาท
