00 ในที่สุดก็ทำท่าไปต่อไม่ไหว คำขาดให้ยุบสภาก็ไม่มีผลใดๆ ไหนจะร้อน ไหนจะถูกคนกรุงเทพฯ มองด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลนตลอดเส้นทางที่ยกขบวนกันจากสะพานผ่านฟ้าไป กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไปแล้ว เมื่อวานนี้ ( 15 มี.ค.) ก็ยังมีมือดียิง เอ็ม 79 เข้าไปรั้วทหาร ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิตไม่ห่างกันนัก เพื่อสร้างสถานการณ์ยั่วให้ทหารออกมา แม้ยังไม่รู้ฝ่ายไหนจ้องป่วน แต่บรรดาแกนนำ “หัวขวด” ก็กลัวตายไม่รู้ว่าจะถูก “สังเวย” ตามข่าวลือหรือเปล่า จึงต้องสั่งโกยกลับตั้งแต่บ่าย
00 ส่วนมุกใหม่ที่ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” นำมาเล่น เช่น จะให้ม็อบแดงเจาะเลือดให้ได้วันละล้านซีซี เพื่อไปเทประท้วงบีบให้ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา แสดงให้เห็นแล้วว่า กำลังจะหาทางลงเอาดื้อๆ ไม่รู้จะไปต่อยังไงแล้ว
00 มิน่าโลกมันถึงได้วิปริต สภาพอากาศแปรปรวน เกิดเหตุอาเพศอยู่ตลอดเวลา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนชั่วมันยังลอยหน้าลอยตา โกหกพกลมอยู่ตลอดเวลานี่เอง พูดให้ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำได้ไม่อายปาก ในตอนนี้คนที่เป็นนักโทษ ถูกศาลตัดสินว่าทุจริตคดโกง หลบหนีคดี ทำมาหากินกับเผด็จการจนร่ำรวย แต่กลับกลายเป็นว่ากำลังถูกอุปโลกน์ให้เป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตย และล่าสุดกำลังจะถูกทำให้เป็น “หัวหน้าไพร่” หน้าตาเฉย
00 แต่ที่พิลึกพิลั่นก็คือ หัวหน้าไพร่ กำลังถูกโปรโมตขึ้นมาอยู่นั้น ดันเป็น “เศรษฐีแสนล้าน” ติดอันดับรวยระดับโลก ส่วนระดับการ “โกง” ก็อยู่ในขั้นแนวหน้า ขณะที่พวกลิ่วล้อเดินตามหลังก็ล้วนแล้วแต่พวกหาเช้ากินค่ำ บางคนแทบจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ แม้ว่าอาจมีข้อยกเว้นสำหรับขุนพลหัวหมู่ทะลวงฟันเช่น พวก “สามเกลอ” ที่ยิ่งสู้ยิ่งรวย อยู่บ้างก็ตาม
00 ถ้าใครได้ฟังคำพูดของ ทักษิณ ที่วีดิโอลิงก์เข้ามาในที่ชุมนุมเมื่อค่ำวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา แทบทุกคำพูดที่พ่นออกมาเหมือนกับคนคลุ้มคลั่ง ด่ากราดคนอื่นไปทั่ว บางครั้งเมื่อมีสติก็ทำตัวเป็น “บ่าง” เสี้ยมคนนั้นให้ชนกับคนนี้
00 คำพูดที่เตือน“ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” รอง ผบ.ทบ. ไม่ให้ทำการปฏิวัติก็จงใจให้เกิดความระแวงกันเองในหมู่ผู้นำกองทัพและรัฐบาล หรือจู่ๆ ก็หยิบยกเอากรณีของ คดีลอบสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล มาโยงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ก็อย่าได้แปลกใจ และขอร้องว่าไม่ต้องมาเสี้ยมเพื่อให้ปัญหาขยายลุกลามไปถึงพันธมิตรฯ เพราะ “คนเสื้อเหลือง” ไม่หลงกลลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้หรอก
00 สำหรับ “บิ๊กสีเขียว” ที่อยู่เบื้องหลังคดีลอบสังหาร สนธิ นั้นหลายฝ่ายมีข้อมูลตรงกันอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร เพียงแต่ว่ารอให้ทุกอย่าง “เปิดทาง” โล่งกว่านี้ รับรองว่ารอคิดบัญชีไม่ผิดตัวแน่ อีกไม่นานก็คงไม่สาย แต่ทุกอย่างย่อม “เป็นไปตามกรรม” ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น
00 ยืนยันกันไปแล้วจากปากของ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องยุบสภาตามคำขู่ของ “คนเสื้อแดง” เพียงแค่หยิบมือ อีกทั้งเมื่อประเมินสถานการณ์รอบด้านแล้ว แรงกดดันก็จะหันกลับมารัดคอแกนนำว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะยิ่งนานไปก็ยิ่งล้า โดยเฉพาะยิ่งสร้างความเกลียดชังจากคนกรุงเทพฯ มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เวลานี้หลายฝ่ายกำลังจับตามองว่าบรรดาแกนนำจะ “หาทางลง” ให้ตัวเองอย่างไรต่างหาก
00 อย่างไรก็ดี ที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยก็คือนับจากนี้ไปจะมีการสร้างสถานการณ์รุนแรงทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัดเพื่อให้เกิดจลาจล ซึ่งเป็นไพ่ตายสุดท้ายที่อาจจะงัดขึ้นมาใช้ และด้วยบรรยากาศที่แกนนำคุมไม่ได้เป็นเอกภาพ ต่างคนต่างทำแบบนี้แหละยิ่งน่าเป็นห่วง แต่เอาเป็นว่าหากพิจารณาตามรูปการณ์โดยรวมแล้ว นายกฯอภิสิทธิ์ ก็น่าจะผ่านไปได้ เพราะสังคมส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ยังให้การสนับสนุน ขณะที่อีกด้านหนึ่งชาวบ้านเขาไม่เอาด้วยกับคนเสื้อแดง กับ ทักษิณ ดังนั้นขืนยังดันทุรัง ก็ยิ่งจบเห่เร็วขึ้น !!
00 นี่ก็ไม่รู้ว่ามาไม้ไหนกับการเรียกประชุมรัฐสภาวันนี้ (16 มี.ค.) เพื่อพิจารณาวาระด่วนหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นมีเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉวยโอกาสช่วงชุลมุน หรือเพิ่มแรงกดดัน หรือสร้างความปั่นป่วนเพิ่มขึ้นตามการชักใยของคน "ปากห้อย" หรือเปล่า ก็น่าจับตา ซึ่งไม่ต่างจากกรณีที่ ตำรวจ "สีน้ำเงิน" พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เตรียมออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯนับร้อย เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. ก่อนหน้านี้ แต่แป๊กเสียก่อน จึงตามด้วยแผนสอง หรือเปล่าให้จับตาอย่ากระพริบ !!
00 ทำตัวเป็นคนในรั้วในวัง อ้างว่ารับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทมาเกือบทั้งชีวิต และเป็นถึงกรรมการมูลนิธิสายใจไทย แต่ในที่สุด "ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล" ก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ด้วยการไปรากฏตัวที่เวที "พวกล้มเจ้า" ที่สะพานผ่านฟ้า เมื่อคืนวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ประกาศเป็นคนเสื้อแดงเต็มตัว พร้อมทั้งบริจาคเงินสนับสนุนให้ด้วย เล่นเอา"ไข่แม้วดำ" ถึงกับทำตาเยิ้ม ตาปรอย
00 ส่วนมุกใหม่ที่ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” นำมาเล่น เช่น จะให้ม็อบแดงเจาะเลือดให้ได้วันละล้านซีซี เพื่อไปเทประท้วงบีบให้ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา แสดงให้เห็นแล้วว่า กำลังจะหาทางลงเอาดื้อๆ ไม่รู้จะไปต่อยังไงแล้ว
00 มิน่าโลกมันถึงได้วิปริต สภาพอากาศแปรปรวน เกิดเหตุอาเพศอยู่ตลอดเวลา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนชั่วมันยังลอยหน้าลอยตา โกหกพกลมอยู่ตลอดเวลานี่เอง พูดให้ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำได้ไม่อายปาก ในตอนนี้คนที่เป็นนักโทษ ถูกศาลตัดสินว่าทุจริตคดโกง หลบหนีคดี ทำมาหากินกับเผด็จการจนร่ำรวย แต่กลับกลายเป็นว่ากำลังถูกอุปโลกน์ให้เป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตย และล่าสุดกำลังจะถูกทำให้เป็น “หัวหน้าไพร่” หน้าตาเฉย
00 แต่ที่พิลึกพิลั่นก็คือ หัวหน้าไพร่ กำลังถูกโปรโมตขึ้นมาอยู่นั้น ดันเป็น “เศรษฐีแสนล้าน” ติดอันดับรวยระดับโลก ส่วนระดับการ “โกง” ก็อยู่ในขั้นแนวหน้า ขณะที่พวกลิ่วล้อเดินตามหลังก็ล้วนแล้วแต่พวกหาเช้ากินค่ำ บางคนแทบจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ แม้ว่าอาจมีข้อยกเว้นสำหรับขุนพลหัวหมู่ทะลวงฟันเช่น พวก “สามเกลอ” ที่ยิ่งสู้ยิ่งรวย อยู่บ้างก็ตาม
00 ถ้าใครได้ฟังคำพูดของ ทักษิณ ที่วีดิโอลิงก์เข้ามาในที่ชุมนุมเมื่อค่ำวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา แทบทุกคำพูดที่พ่นออกมาเหมือนกับคนคลุ้มคลั่ง ด่ากราดคนอื่นไปทั่ว บางครั้งเมื่อมีสติก็ทำตัวเป็น “บ่าง” เสี้ยมคนนั้นให้ชนกับคนนี้
00 คำพูดที่เตือน“ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” รอง ผบ.ทบ. ไม่ให้ทำการปฏิวัติก็จงใจให้เกิดความระแวงกันเองในหมู่ผู้นำกองทัพและรัฐบาล หรือจู่ๆ ก็หยิบยกเอากรณีของ คดีลอบสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล มาโยงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ก็อย่าได้แปลกใจ และขอร้องว่าไม่ต้องมาเสี้ยมเพื่อให้ปัญหาขยายลุกลามไปถึงพันธมิตรฯ เพราะ “คนเสื้อเหลือง” ไม่หลงกลลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้หรอก
00 สำหรับ “บิ๊กสีเขียว” ที่อยู่เบื้องหลังคดีลอบสังหาร สนธิ นั้นหลายฝ่ายมีข้อมูลตรงกันอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร เพียงแต่ว่ารอให้ทุกอย่าง “เปิดทาง” โล่งกว่านี้ รับรองว่ารอคิดบัญชีไม่ผิดตัวแน่ อีกไม่นานก็คงไม่สาย แต่ทุกอย่างย่อม “เป็นไปตามกรรม” ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น
00 ยืนยันกันไปแล้วจากปากของ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องยุบสภาตามคำขู่ของ “คนเสื้อแดง” เพียงแค่หยิบมือ อีกทั้งเมื่อประเมินสถานการณ์รอบด้านแล้ว แรงกดดันก็จะหันกลับมารัดคอแกนนำว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะยิ่งนานไปก็ยิ่งล้า โดยเฉพาะยิ่งสร้างความเกลียดชังจากคนกรุงเทพฯ มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เวลานี้หลายฝ่ายกำลังจับตามองว่าบรรดาแกนนำจะ “หาทางลง” ให้ตัวเองอย่างไรต่างหาก
00 อย่างไรก็ดี ที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยก็คือนับจากนี้ไปจะมีการสร้างสถานการณ์รุนแรงทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัดเพื่อให้เกิดจลาจล ซึ่งเป็นไพ่ตายสุดท้ายที่อาจจะงัดขึ้นมาใช้ และด้วยบรรยากาศที่แกนนำคุมไม่ได้เป็นเอกภาพ ต่างคนต่างทำแบบนี้แหละยิ่งน่าเป็นห่วง แต่เอาเป็นว่าหากพิจารณาตามรูปการณ์โดยรวมแล้ว นายกฯอภิสิทธิ์ ก็น่าจะผ่านไปได้ เพราะสังคมส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ยังให้การสนับสนุน ขณะที่อีกด้านหนึ่งชาวบ้านเขาไม่เอาด้วยกับคนเสื้อแดง กับ ทักษิณ ดังนั้นขืนยังดันทุรัง ก็ยิ่งจบเห่เร็วขึ้น !!
00 นี่ก็ไม่รู้ว่ามาไม้ไหนกับการเรียกประชุมรัฐสภาวันนี้ (16 มี.ค.) เพื่อพิจารณาวาระด่วนหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นมีเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉวยโอกาสช่วงชุลมุน หรือเพิ่มแรงกดดัน หรือสร้างความปั่นป่วนเพิ่มขึ้นตามการชักใยของคน "ปากห้อย" หรือเปล่า ก็น่าจับตา ซึ่งไม่ต่างจากกรณีที่ ตำรวจ "สีน้ำเงิน" พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เตรียมออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯนับร้อย เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. ก่อนหน้านี้ แต่แป๊กเสียก่อน จึงตามด้วยแผนสอง หรือเปล่าให้จับตาอย่ากระพริบ !!
00 ทำตัวเป็นคนในรั้วในวัง อ้างว่ารับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทมาเกือบทั้งชีวิต และเป็นถึงกรรมการมูลนิธิสายใจไทย แต่ในที่สุด "ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล" ก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ด้วยการไปรากฏตัวที่เวที "พวกล้มเจ้า" ที่สะพานผ่านฟ้า เมื่อคืนวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ประกาศเป็นคนเสื้อแดงเต็มตัว พร้อมทั้งบริจาคเงินสนับสนุนให้ด้วย เล่นเอา"ไข่แม้วดำ" ถึงกับทำตาเยิ้ม ตาปรอย
