ASTVผู้จัดการรายวัน-สถานฑูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย วอนแกนนำ-คนเสื้อแดงชุมนุมอย่างสันติตามกฎหมาย งดใช้ความรุนแรง จี้รัฐบาลไทยอดทนอดกลั้น ระบุการแก้ปัญหาควรทำผ่านสถาบันประชาธิปไตยไม่ใช่ความรุนแรง
วานนี้(11 มี.ค.) ฝ่ายสื่อมวลชนและวัฒนธรรม สถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ของสถานฑูตสหรัฐอเมริกา สำหรับสื่อมวลชน โดยมีหัวข้อว่า "ประเทศไทยเป็นมิตรที่ใกล้ชิดและพันธมิตรของสหรัฐอมเริกา" โดยมีใจความ 2 ย่อหน้าระบุว่า ในฐานะที่สหรัฐฯ เป็นมิตรประเทศที่เก่าแก่ของประเทศไทย เราจึงติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยในขณะนี้อย่างใกล้ชิด สหรัฐฯเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งควรกระทำผ่านสถาบันประชาธิปไตยของไทย ไม่ใช่ด้วยการใช้ความรุนแรง
อีกย่อหน้าระบุว่า "การประท้วงอย่างสันติถือเป็นเครื่องหมายของสังคมประชาธิปไตย เราเรียกร้องให้ผู้ประท้วงและแกนนำปฏิเสธการใช้ความรุนแรง และใช้สิทธิในการชุมนุมและการประท้วงโดยสันติตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย นอกจากนี้ เราขอให้รัฐบาลไทยใช้ความอดทนอดกลั้นต่อผู้ประท้วงด้วย
"กษิต"รอคำตอบยูเออีหยุดแม้ว
อีกด้านหนึ่งที่รัฐสภ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงต่างประเทศเชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เข้าพบเพื่อขอความร่วมมือกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยกระทรวงการต่างประเทศพิสูจน์แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ยูเออีเป็นฐานเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายในประเทศไทยว่า เมื่อวันที่10 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มารับหนังสือเพื่อขอให้อูเออียุติการเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยหวังว่าทางยูเออี จะพิจารณาในท่าทีที่ ที่ยูเออี ให้ที่พักพิง แต่กลับมีบทบาทการเมืองในการบ่อนทำลาย ระบบการเมือง ในระบบรัฐสภา ซึ่งถือเป็นการดำเนินการนอก
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ทราบว่าอดีตนายกรัฐมนตรี จะมาเคลื่อนไหว ในประเทศเพื่อบ้านหรือไม่ และไม่ขอวิเคราะห์ถึงการเดินทางออกนอกประเทศของคนใกล้ชิด อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า จะกระทบความสัมพันธ์กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า หวังว่าไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเราเคยมีผลประโยชน์ร่วมกันมหาศาล เมื่อเทียบกับคนๆเดียว
เมื่อถามว่า ห่วงว่าจะซ้ำรอยเหมือนกัมพูชาหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่าตนคิดว่าไม่ ส่วนพฤติกรรมของกัมพูชาไม่สามารถที่จะเป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่นได้ เมื่อถามว่าการทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ นายกษิตกล่าวว่า ได้เชิญทูตของประเทศต่างมาหลายครั้งแล้ว เมื่อถามว่า ครอบครัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกไปต่างประเทศเป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ นายกษิตหัวเราะและกล่าวว่า ไม่ต้องวิเคราะห์ และไม่ทราบว่าพ,ต,ท,ทักษิณจะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่
วานนี้(11 มี.ค.) ฝ่ายสื่อมวลชนและวัฒนธรรม สถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ของสถานฑูตสหรัฐอเมริกา สำหรับสื่อมวลชน โดยมีหัวข้อว่า "ประเทศไทยเป็นมิตรที่ใกล้ชิดและพันธมิตรของสหรัฐอมเริกา" โดยมีใจความ 2 ย่อหน้าระบุว่า ในฐานะที่สหรัฐฯ เป็นมิตรประเทศที่เก่าแก่ของประเทศไทย เราจึงติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยในขณะนี้อย่างใกล้ชิด สหรัฐฯเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งควรกระทำผ่านสถาบันประชาธิปไตยของไทย ไม่ใช่ด้วยการใช้ความรุนแรง
อีกย่อหน้าระบุว่า "การประท้วงอย่างสันติถือเป็นเครื่องหมายของสังคมประชาธิปไตย เราเรียกร้องให้ผู้ประท้วงและแกนนำปฏิเสธการใช้ความรุนแรง และใช้สิทธิในการชุมนุมและการประท้วงโดยสันติตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย นอกจากนี้ เราขอให้รัฐบาลไทยใช้ความอดทนอดกลั้นต่อผู้ประท้วงด้วย
"กษิต"รอคำตอบยูเออีหยุดแม้ว
อีกด้านหนึ่งที่รัฐสภ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงต่างประเทศเชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เข้าพบเพื่อขอความร่วมมือกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยกระทรวงการต่างประเทศพิสูจน์แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ยูเออีเป็นฐานเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายในประเทศไทยว่า เมื่อวันที่10 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มารับหนังสือเพื่อขอให้อูเออียุติการเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยหวังว่าทางยูเออี จะพิจารณาในท่าทีที่ ที่ยูเออี ให้ที่พักพิง แต่กลับมีบทบาทการเมืองในการบ่อนทำลาย ระบบการเมือง ในระบบรัฐสภา ซึ่งถือเป็นการดำเนินการนอก
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ทราบว่าอดีตนายกรัฐมนตรี จะมาเคลื่อนไหว ในประเทศเพื่อบ้านหรือไม่ และไม่ขอวิเคราะห์ถึงการเดินทางออกนอกประเทศของคนใกล้ชิด อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า จะกระทบความสัมพันธ์กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า หวังว่าไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเราเคยมีผลประโยชน์ร่วมกันมหาศาล เมื่อเทียบกับคนๆเดียว
เมื่อถามว่า ห่วงว่าจะซ้ำรอยเหมือนกัมพูชาหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่าตนคิดว่าไม่ ส่วนพฤติกรรมของกัมพูชาไม่สามารถที่จะเป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่นได้ เมื่อถามว่าการทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ นายกษิตกล่าวว่า ได้เชิญทูตของประเทศต่างมาหลายครั้งแล้ว เมื่อถามว่า ครอบครัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกไปต่างประเทศเป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ นายกษิตหัวเราะและกล่าวว่า ไม่ต้องวิเคราะห์ และไม่ทราบว่าพ,ต,ท,ทักษิณจะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่
