ASTVผู้จัดการรายวัน – ทายาท” เองตระกูล” สบช่องศัลยกรรมความงามเกาหลีบูม ทุ่ม 50 ล้านบาท ผุดบีบี คลินิก ศัลยกรรมความงามเกาหลีครบวงจร ปูพรม 3 ปี เท 50 ล้านบาท เปิด 5 สาขา ดึงพันธมิตรแดนโสม”ท๊อป คลินิก”ถ่ายทอดเทคนิคความงาม ทะลวงสาวไทยระดับบนอายุ 18-25 ปี ประเดิมสาขาแรกย่านทองหล่อ จ่อคิวนำเข้าเวชสำอางดร.จี เสริมทัพ สิ้นปีกวาดรายได้ 24 ล้านบาท
นางสาวสินีนารถ เองตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบี บิวตี้ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจคลินิกศัลยกรรมความงามภายใต้แบรนด์บีบี คลินิก เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท เปิดบริษัทบีบี บิวตี้ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ดำเนินธุรกิจคลินิกศัลยกรรมความงามครบวงจรในรูปแบบเกาหลี ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นกลุ่มเองตระกูล ซึ่งเป็นลูกสาวของนายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในสัดส่วน 50% นายแพทย์ฉันทัส กลกิจโกวินท์ 30% และนางสาวชัญญาณ์ภัช จันทร์ประสิทธิ์ 20% โดยวางเป้าหมาย 3 ปี เปิดให้ครบ 5 สาขา ภายใต้การใช้งบ 25-50 ล้านบาท หรือโดยเฉลี่ยสาขาละ 5-10 ล้านบาท บนพื้นที่ 100-150 ตร.ม.
ทั้งนี้บริษัทได้จับมือร่วมกับท๊อปคลินิก ประเทศเกาหลี พันธมิตรทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญศัลยกรรมจมูก ตา โดยมีส่วนแบ่ง 2% จากตลาดศัลยกรรมประเทศเกาหลี 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีรายได้กว่า 4,800 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ท๊อปคลินิกขยายความร่วมมือมาแล้ว 2 ประเทศ คือ จีน เวียดนาม และล่าสุดไทยเป็นประเทศที่ 3 โดยท๊อป คลินิกจะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคนิคศัลยกรรมความงามให้กับแพทย์ไทยที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นจุดแข็งและได้เปรียบทางธุรกิจของบริษัท อีกทั้งยังแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
นางสาวสินีนารถ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้ามาดำเนินธุรกิจศัลยกรรมความงามรูปแบบเกาหลี เนื่องจากเป็นตลาดที่มีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10-15% โดยมีจำนวนคลินิกและสถานพยาบาลกว่า 1.7 หมื่นแห่ง อีกทั้งกระแสวัฒนธรรมเกาหลีมาแรงในประเทศไทย โดยพบว่าคนไทยเดินทางไปทำศัลยกรรมประเทศเกาหลีเติบโตเพิ่มขึ้น 18% และจากการสำรวจคนไทย 200 คน 50-60% สนใจทำศัลยกรรมความงาม และ 30-50% ต้องการทำจมูกเป็นอันดับแรก ตามด้วยดวงตา การรักษาผิว ปรับเปลี่ยนรูปหน้า เป็นต้น
สำหรับแผนการตลาดบีบี คลินิก มุ่งเน้นสร้างการรับรู้และความเข้าใจเรื่องการทำศัลยกรรมตกแต่งรูปแบบเกาหลี เนื่องจากพบว่า คนไทยมีความกลัวต่อการทำศัลยกรรม เพราะกังวลด้านความปลอดภัย และมองว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เมื่อเทียบกับพฤติกรรมของคนเกาหลีนิยมทำศัลยกรรมมากกว่า โดยบีบี คลินิกจัดกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะช่องทางสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนอายุ 18-25 ปี
ล่าสุดบีบี คลินิก ได้เปิดตัวสาขาแรก ที่ ทองหล่อ 13 และในอนาคตจะนำเข้าผลิตภัณฑ์เวชสำอางภายใต้แบรนด์ ดร.จี มาทำตลาด เพื่อผลักดันให้บีบีคลินิก ครบวงจรมากยิ่งขึ้น สำหรับผลประกอบการปีแรกจากการเปิดบีบี คลินิก 1 สาขา คือ 24 ล้านบาท หรือโดยเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อเดือน ตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอัตราการเติบโต 30-50% พร้อมกับการวางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำศัลยกรรมตาและจมูก
นางสาวสินีนารถ เองตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบี บิวตี้ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจคลินิกศัลยกรรมความงามภายใต้แบรนด์บีบี คลินิก เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท เปิดบริษัทบีบี บิวตี้ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ดำเนินธุรกิจคลินิกศัลยกรรมความงามครบวงจรในรูปแบบเกาหลี ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นกลุ่มเองตระกูล ซึ่งเป็นลูกสาวของนายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในสัดส่วน 50% นายแพทย์ฉันทัส กลกิจโกวินท์ 30% และนางสาวชัญญาณ์ภัช จันทร์ประสิทธิ์ 20% โดยวางเป้าหมาย 3 ปี เปิดให้ครบ 5 สาขา ภายใต้การใช้งบ 25-50 ล้านบาท หรือโดยเฉลี่ยสาขาละ 5-10 ล้านบาท บนพื้นที่ 100-150 ตร.ม.
ทั้งนี้บริษัทได้จับมือร่วมกับท๊อปคลินิก ประเทศเกาหลี พันธมิตรทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญศัลยกรรมจมูก ตา โดยมีส่วนแบ่ง 2% จากตลาดศัลยกรรมประเทศเกาหลี 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีรายได้กว่า 4,800 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ท๊อปคลินิกขยายความร่วมมือมาแล้ว 2 ประเทศ คือ จีน เวียดนาม และล่าสุดไทยเป็นประเทศที่ 3 โดยท๊อป คลินิกจะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคนิคศัลยกรรมความงามให้กับแพทย์ไทยที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นจุดแข็งและได้เปรียบทางธุรกิจของบริษัท อีกทั้งยังแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
นางสาวสินีนารถ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้ามาดำเนินธุรกิจศัลยกรรมความงามรูปแบบเกาหลี เนื่องจากเป็นตลาดที่มีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10-15% โดยมีจำนวนคลินิกและสถานพยาบาลกว่า 1.7 หมื่นแห่ง อีกทั้งกระแสวัฒนธรรมเกาหลีมาแรงในประเทศไทย โดยพบว่าคนไทยเดินทางไปทำศัลยกรรมประเทศเกาหลีเติบโตเพิ่มขึ้น 18% และจากการสำรวจคนไทย 200 คน 50-60% สนใจทำศัลยกรรมความงาม และ 30-50% ต้องการทำจมูกเป็นอันดับแรก ตามด้วยดวงตา การรักษาผิว ปรับเปลี่ยนรูปหน้า เป็นต้น
สำหรับแผนการตลาดบีบี คลินิก มุ่งเน้นสร้างการรับรู้และความเข้าใจเรื่องการทำศัลยกรรมตกแต่งรูปแบบเกาหลี เนื่องจากพบว่า คนไทยมีความกลัวต่อการทำศัลยกรรม เพราะกังวลด้านความปลอดภัย และมองว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เมื่อเทียบกับพฤติกรรมของคนเกาหลีนิยมทำศัลยกรรมมากกว่า โดยบีบี คลินิกจัดกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะช่องทางสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนอายุ 18-25 ปี
ล่าสุดบีบี คลินิก ได้เปิดตัวสาขาแรก ที่ ทองหล่อ 13 และในอนาคตจะนำเข้าผลิตภัณฑ์เวชสำอางภายใต้แบรนด์ ดร.จี มาทำตลาด เพื่อผลักดันให้บีบีคลินิก ครบวงจรมากยิ่งขึ้น สำหรับผลประกอบการปีแรกจากการเปิดบีบี คลินิก 1 สาขา คือ 24 ล้านบาท หรือโดยเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อเดือน ตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอัตราการเติบโต 30-50% พร้อมกับการวางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำศัลยกรรมตาและจมูก