เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ที่กำกับดูแลกรมที่ดิน แถลงข่าวถึงการเปิดให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในวันหยุดราชการ โดยนายกรณ์ กล่าวว่า เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ทำให้มาตรการให้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยจัดเก็บในอัตราร้อยละ 0.1 และลดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน ในอสังหาริมทรัพย์ต้องหยุดลง ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ต้องการใช้บริการในการจดทะเบียนสิทธิ์ และทำนิติกรรมจำนวนมาก
ดังนั้น ตนจึงได้ประสานไปยังนายถาวร เพื่อสั่งให้กรมที่ดินขยายเวลาการให้บริการในวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. และในวันที่สุดท้าย วันที่ 28 มี.ค. หากมีผู้มาขอรับบริการจำนวนมาก ทางกรมที่ดินก็จะขยายเวลาให้บริการจนถึงเวลา 24.00 น.
ด้านนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผลที่ประชุมคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เห็นชอบการปรับปรุงสิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ในการแก้ไขเงื่อนไขจากเดิม ให้จัดตั้งสาขา 3 แห่ง ภายใน 1 ปี ผ่อนปรนเป็น 3 แห่ง ภายใน 5 ปี
ทั้งนี้พร้อมกับยกเลิกข้อกำหนดรายได้จากต่างประเทศ 50 % จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 10 % ตลอดไป เปลี่ยนเป็นยกเว้นภาษีนิติบุคคล 15 ปี โดยบริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายในประเทศปีละ 15 ล้านบาท ต่อปี หรือ 150 ล้านบาทต่อ 15 ปี จึงจะได้รับการลดหย่อนภาษี
“แม้ว่าภาครัฐอาจจะสูญเสียภาษีนิติบุคคลบางส่วน แต่จะไปช่วยกระตุ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT แทนได้ ถือเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศด้วย” ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
นายสถิตย์ กล่าวด้วยว่า บริษัทต่างชาติต้องมีเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงทำงานในประเทศด้วย เหตุผลเพื่อป้องกันบริษัทกระดาษที่ไม่มีตัวตนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะมีการจัดตั้งสาขาในประเทศเพิ่มมากขึ้น จากเดิมมีอยู่เพียง 80-90 แห่ง แม้ว่ามาตรการเดิมนั้นดำเนินการมาแล้ว 8 ปีก็ตาม
ดังนั้น ตนจึงได้ประสานไปยังนายถาวร เพื่อสั่งให้กรมที่ดินขยายเวลาการให้บริการในวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. และในวันที่สุดท้าย วันที่ 28 มี.ค. หากมีผู้มาขอรับบริการจำนวนมาก ทางกรมที่ดินก็จะขยายเวลาให้บริการจนถึงเวลา 24.00 น.
ด้านนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผลที่ประชุมคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เห็นชอบการปรับปรุงสิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ในการแก้ไขเงื่อนไขจากเดิม ให้จัดตั้งสาขา 3 แห่ง ภายใน 1 ปี ผ่อนปรนเป็น 3 แห่ง ภายใน 5 ปี
ทั้งนี้พร้อมกับยกเลิกข้อกำหนดรายได้จากต่างประเทศ 50 % จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 10 % ตลอดไป เปลี่ยนเป็นยกเว้นภาษีนิติบุคคล 15 ปี โดยบริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายในประเทศปีละ 15 ล้านบาท ต่อปี หรือ 150 ล้านบาทต่อ 15 ปี จึงจะได้รับการลดหย่อนภาษี
“แม้ว่าภาครัฐอาจจะสูญเสียภาษีนิติบุคคลบางส่วน แต่จะไปช่วยกระตุ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT แทนได้ ถือเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศด้วย” ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
นายสถิตย์ กล่าวด้วยว่า บริษัทต่างชาติต้องมีเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงทำงานในประเทศด้วย เหตุผลเพื่อป้องกันบริษัทกระดาษที่ไม่มีตัวตนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะมีการจัดตั้งสาขาในประเทศเพิ่มมากขึ้น จากเดิมมีอยู่เพียง 80-90 แห่ง แม้ว่ามาตรการเดิมนั้นดำเนินการมาแล้ว 8 ปีก็ตาม
