xs
xsm
sm
md
lg

เอสเอฟผ่อนคันเร่งสาขาปีเสือ งัดแคมเปญรักษาฐานลาดพร้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ เนื่องจากว่า ปีนี้จะมีการขยายสาขาน้อยมาก อาจมีเพียงแค่สาขาเดียว ซึ่งแตกต่างจากเมื่อปีที่แล้วที่เอสเอฟมีการเปิดสาขาใหม่มากที่สุดถึง 6 สาขา นับตั้งแต่เริ่มธุรกิจมา
ทั้งนี้ปีนี้จะต้องหันมาปรับปรุงสาขาเดิมมากขึ้นรวมทั้งการจัดกิจกรรมการตลาดมากขึ้นด้วย รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกิจกรรมที่ร่วมกับค่ายหนังและสินค้าสปอนเซอร์ต่างๆ หรือการทำกิจกรรมเดี่ยว การจัดงานเปิดตัวหนัง เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าและกระตุ้นตลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอสเอฟเอ็กซ์ที่สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่จะต้องปิด เนื่องจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวจะทำการปิดศูนย์ประมาณ 6 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เพื่อทำการรีโนเวตใหม่ ซึ่งบริษัทฯก็จะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการรีโนเวตใหญ่เช่นกัน เพื่อ่ให้สาขาที่ลาดพร้าวนี้มีความทันสมัยสอดรับกับการปรับปรุงของศูนย์ฯด้วย ซึ่งคงได้รับผลกระทบบ้างแน่นอนในเรื่องของรายได้ เพราะไม่สามารถทำธุรกิจได้นานถึง 6 เดือน
ทั้งนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการวางแผนแคมเปญใหญ่ ที่จะจัดขึ้นมาสำหรับปัญหานี้โดยเฉพาะ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าของสาขาลาดพร้าวนี้โดยเฉพาะ โดยมีเป้หมายที่จะดึงให้ลูกค้ากลุ่มนี้ไปใช้บริการเอสเอฟในเครือในสาขาใกล้เคียง แทนที่ลูกค้าจะหันไปใช้บริการโรงหนังเครืออื่นในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตามในส่วนของรูปแบบแคมเปญใหญ่นี้ และรูปแบบของสาขาเอสเอฟลาดพร้าวที่จะรีโนเวต รวมทั้งงบประมาณทั้งหมดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ก็มีความมั่นใจว่า หลังจากที่สาขาลาดพร้าวนี้ปรับปรุงเสร็จและเปิดใช้บริการน่าจะทำให้ยอดขายตั๋วหนังและยอดคนดูเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน
สำหรับสาขาใหม่ปีนี้ นายสุพัฒน์กล่าวว่า โครงการใหม่ที่เตรียมจะเปิดในปีนี้คือ ที่ศูนย์การค้าเดอะเทอร์มินัล 21 อยู่ย่านอโศก ซึ่งถ้าหากศูนย์ฯก่อสร้างเสร็จและเปิดทันปีนี้ก็จะเปิดได้ทันเช่นกัน แต่รายละเอียดและงบประมาณของโครงการนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการวางแผน
ส่วนการทำตลาดรูปแบบโปรโมชั่นที่ทำอยู่คือ โปรโมชั่นมูฟวี่เดย์ ที่ช่วงแรกลดราคาตั๋วหนังเหลือแค่ 40 บาททุกวันพุธเท่านั้น ซึ่งมีเป้าหมายที่ต้องการจะกระตุ้นการดูหนังของลูกค้า ซึ่งผลปรากฎว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เพราะเพียงเค่ช่วง 2-3 อาทิตย์แรกของแคมเปญนี้ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น แม้ว่าในช่วงหลังบริษัทฯจะปรับราคาขึ้นมาเป็น 60 บาทในทุกวันพุธเหมือนเดิมก็ แต่ก็ยังได้รับการตอบรับดีเช่นเดิม โดยพบว่าจากแคมเปญนี้ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังไม่มีแคมเปญแบบนี้
นายสุพัฒน์ยังกล่าวให้ความเห็นถึงภาวะตลาดหนังในปีนี้ด้วยว่า ในปีนี้หนังฟอร์มใหญ่จะมีการเข้าฉายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังไทยหรือหนังฮอลลีวู้ด เช่น เรื่อง นเรศวรภาค 3 และ 4 องค์บากภาค 3 แฮรี่พอตเตอร์ นาร์เนีย เป็นต้น จะช่วยทำให้ตลาดหนังมีการเติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดหนังไทยเองปีนี้ก็น่าจะเติบโตเช่นกัน และจะทำให้หนังไทยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 45-50% จากเดิมที่หนังไทยมีสัดส่วนที่ 40-45% จากตลาดรวม แม้ว่ากลางปีนี้จะมีมหกรรมฟุตบอลโลกก็ตาม ที่จะมากระทบตลาดหนังบ้าง แต่ก็คาดว่าไม่มากนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น