พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.รัฐบาล เตรียมยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง ว่า เป็นการเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น แต่ถือเป็นสิทธิที่จะยื่นถอดถอนได้ ตนก็มีหน้าที่ไปชี้แจงความจริง เพียงแต่ตนไม่ทราบว่าจะยื่นถอดถอนด้วยเรื่องอะไร มั่นใจว่าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม ไม่มีปัญหา การที่มากล่าวหาว่าตนปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางนั้น ก็ขอให้ถามสื่อมวลชนทุกคนได้ เพราะเห็นการปฏิบัติหน้าที่ของตนในสภาตลอดเวลา มั่นใจว่ามีความเป็นกลาง และเป็นธรรม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส.เกิน 90 เปอร์เซ็นต์ โหวตว่าตนปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม และเป็นกลาง ไม่ทราบว่าจะยื่นถอดถอนด้วยเรื่องอะไร อาจจะบอกว่าไปขึ้นเวทีการจัดงานในเขตพื้นที่เลือกตั้ง ซึ่งบังเอิญว่าคนที่จัดเป็นพี่น้องประชาชนเสื้อแดง ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่เราต้องไปขึ้นเวที เหมือนกับท่านนายกรัฐมนตรี ที่ไปขึ้นเวทีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เหมือนกันทุกอย่าง แต่การขึ้นเวทีของตน ทำในที่รโหฐานทั้งสิ้น ทั้ง 3 ครั้ง ส่วนใหญ่จัดในสนามกีฬา แตกต่างจาก นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่ไปขึ้นเวทีที่ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์พูดอะไร
"หรือว่าไม่สบายใจที่ผมไปแถลงข่าวร่วมกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การที่ผมไปร่วมแถลงข่าวนั้น เป็นการแถลงด้วยหลักการทางวิชาการจริงๆ ผมไม่สบายใจที่คณะผู้ตัดสินพูดเสมือนหนึ่งว่า การทำรัฐประหาร เป็นความถูกต้องชอบธรรม ซึ่งไม่มีประเทศใดในโลกประพฤติปฏิบัติกัน" พ.อ.อภิวันท์กล่าว
** "ชัย"อ้างแถลงข่าวกับฝ่ายค้านเรื่องส่วนตัว
ด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่อง ที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอน ส่วนที่พ.อ.อภิวันท์ ไปร่วมแถลงข่าวยื่นญัตติไม่ไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง และเชื่อว่าจะไม่กระทบกับการทำหน้าที่รองประธานสภาฯ
เมื่อถามการร่วมแถลงข่าวกับพรรคเพื่อไทย เป็นการสูญเสียความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภา หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นเรื่องถอดถอนรองประธานสภาฯ ว่ามีเหตุมีผลอย่างไร การแถลงข่าวของ พ.อ.อภิวันท์ เป็นการพูดส่วนตัว ไม่ใช่การพูดในห้องประชุมสภา การพูดเป็นสิทธิของพ.อ.อภิวันท์ ที่ผ่านมา พ.อ.อภิวันท์ ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และมีความเป็นกลาง การออกไปแถลงข่าวดังกล่าว จึงไม่ถือเป็นการเสียความเป็นกลาง
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ ส.ส.รัฐบาลไม่อยากให้ พ.อ.อภิวันท์ อยู่เป็นเสี้ยนหนาม แต่นายชัย ชิดชอบ ก็ยังมองว่า การทำหน้าที่ของ พ.อ.อภิวันท์ ยังมีความเป็นกลางอยู่ ซึ่งตามกฎหมาย ก็คงจะไม่สามารถทำได้ นอกจากพ.อ.อภิวันท์ จะลาออกด้วยตัวเอง ซึ่งตนเห็นว่ารัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อยู่แล้ว หากใครทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ
ทั้งนี้ ตนเองในฐานะที่อยู่พรรคเดียวกัน บางครั้งยังมองว่า พ.อ.อภิวันท์ ไม่เป็นกลางต่อพรรค เข้าข้างอีกฝ่ายมากกว่า
**ปชป.ท้า"อภิวันท์"เดิมพันเก้าอี้
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.อ.อภิวันท์ ยืนยันว่า ปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง โดยมี ส.ส. 90 เปอร์เซ็นต์ให้การสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อไป ว่า ขอท้าไปยังพ.อ.อภิวันท์ ว่าถ้ามั่นใจว่ามีส.ส.ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง ตนก็จะตั้งโต๊ะล่าชื่อส.ส. หากได้ ส.ส.เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ที่เห็นว่า พ.อ.อภิวันท์ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 พ.อ.อภิวันท์ จะลาออกหรือไม่ ซึ่งถ้าพ.อ.อภิวันท์ รับคำท้า ตนจะตั้งโต๊ะล่าชื่อจากส.ส.ทุกพรรคทันที ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์อยากได้โควต้ารองประธานสภาฯ คืน และกรณีนี้ก็เป็นคนละเรื่องกับการถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่ยอมรับว่า หากรองประธานสภาฯไม่เป็นกลาง จะมีผลกระทบต่อการควบคุมการประชุมสภาฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะที่ผ่านมาประธาน และรองประธานสภาฯ จะมีความเป็นกลาง แต่มายุคนี้กลับมุ่งเน้นให้ประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่ง
"หรือว่าไม่สบายใจที่ผมไปแถลงข่าวร่วมกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การที่ผมไปร่วมแถลงข่าวนั้น เป็นการแถลงด้วยหลักการทางวิชาการจริงๆ ผมไม่สบายใจที่คณะผู้ตัดสินพูดเสมือนหนึ่งว่า การทำรัฐประหาร เป็นความถูกต้องชอบธรรม ซึ่งไม่มีประเทศใดในโลกประพฤติปฏิบัติกัน" พ.อ.อภิวันท์กล่าว
** "ชัย"อ้างแถลงข่าวกับฝ่ายค้านเรื่องส่วนตัว
ด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่อง ที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอน ส่วนที่พ.อ.อภิวันท์ ไปร่วมแถลงข่าวยื่นญัตติไม่ไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง และเชื่อว่าจะไม่กระทบกับการทำหน้าที่รองประธานสภาฯ
เมื่อถามการร่วมแถลงข่าวกับพรรคเพื่อไทย เป็นการสูญเสียความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภา หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นเรื่องถอดถอนรองประธานสภาฯ ว่ามีเหตุมีผลอย่างไร การแถลงข่าวของ พ.อ.อภิวันท์ เป็นการพูดส่วนตัว ไม่ใช่การพูดในห้องประชุมสภา การพูดเป็นสิทธิของพ.อ.อภิวันท์ ที่ผ่านมา พ.อ.อภิวันท์ ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และมีความเป็นกลาง การออกไปแถลงข่าวดังกล่าว จึงไม่ถือเป็นการเสียความเป็นกลาง
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ ส.ส.รัฐบาลไม่อยากให้ พ.อ.อภิวันท์ อยู่เป็นเสี้ยนหนาม แต่นายชัย ชิดชอบ ก็ยังมองว่า การทำหน้าที่ของ พ.อ.อภิวันท์ ยังมีความเป็นกลางอยู่ ซึ่งตามกฎหมาย ก็คงจะไม่สามารถทำได้ นอกจากพ.อ.อภิวันท์ จะลาออกด้วยตัวเอง ซึ่งตนเห็นว่ารัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อยู่แล้ว หากใครทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ
ทั้งนี้ ตนเองในฐานะที่อยู่พรรคเดียวกัน บางครั้งยังมองว่า พ.อ.อภิวันท์ ไม่เป็นกลางต่อพรรค เข้าข้างอีกฝ่ายมากกว่า
**ปชป.ท้า"อภิวันท์"เดิมพันเก้าอี้
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.อ.อภิวันท์ ยืนยันว่า ปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง โดยมี ส.ส. 90 เปอร์เซ็นต์ให้การสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อไป ว่า ขอท้าไปยังพ.อ.อภิวันท์ ว่าถ้ามั่นใจว่ามีส.ส.ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง ตนก็จะตั้งโต๊ะล่าชื่อส.ส. หากได้ ส.ส.เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ที่เห็นว่า พ.อ.อภิวันท์ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 พ.อ.อภิวันท์ จะลาออกหรือไม่ ซึ่งถ้าพ.อ.อภิวันท์ รับคำท้า ตนจะตั้งโต๊ะล่าชื่อจากส.ส.ทุกพรรคทันที ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์อยากได้โควต้ารองประธานสภาฯ คืน และกรณีนี้ก็เป็นคนละเรื่องกับการถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่ยอมรับว่า หากรองประธานสภาฯไม่เป็นกลาง จะมีผลกระทบต่อการควบคุมการประชุมสภาฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะที่ผ่านมาประธาน และรองประธานสภาฯ จะมีความเป็นกลาง แต่มายุคนี้กลับมุ่งเน้นให้ประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่ง