ASTVผู้จัดการรายวัน – ยูเซอริน เร่งปั้นแบรนด์ไอคอนดูแลผิวเพื่อความงาม 5 ปี มัดใจหญิงไทยในตลาดเวชสำอาง ควักเงิน 7.5 พันล้านบาทต่อปี วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ชูความเหนือชั้นผู้นำนวัตกรรมตอกย้ำบัลลังก์กวาดแชร์ 70% สกัดคู่แข่งทะลัก หลังตลาด1.8 พันล้านบาท โตพรวดไม่ต่ำกว่า 20% เปิดตัวยูเซอริน ไมโคร ดีพ ฟิลเลอร์ ซีรั่ม ลุยตลาดชะลอริ้วรอย
เภสัชกรหญิงสุวรรณี ศรีธัญญะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอางยูเซอริน เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดยูเซอรินบริษัทได้วางเป้าหมาย 5 ปี ผลักดันให้เป็นแบรนด์ไอคอนด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและความงามในตลาดเวชสำอาง ภายใต้การใช้กลยุทธ์การเป็นผู้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ด้วยงบการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 7,500 ล้านบาทต่อปี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเวชสำอาง และผลักดันให้ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนเวชสำอาง 10% ของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับแมส 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวยูเซอริน ไมโคร ดีพ ฟิลเลอร์ ซีรั่ม ลงสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอยในประเทศไทยแห่งแรกในเอเชีย โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ไฮยาลูรอนิค แอซิด โมเลกุลเล็ก 50 เท่า ต่อยอดจากการเปิดตัวไฮยาลูรอนิค เมื่อปี 2550 หรือ 3ปีที่ผ่านมา โดยสินค้าใหม่เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งบริษัทได้เตรียมดำเนินการตลาดครบวงจร
นำร่องเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนไทยครั้งแรก”เยลหลี แมคอินทอช” และการจัดกิจกรรม แจกสินค้าตัวอย่าง โดยจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลักดันให้ยูเซอริน มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 60% เป็น 70% ในตลาดผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย
แนวโน้มตลาดเวชสำอาง ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 20% ขึ้นไป เมื่อเทียบกับปีที่ผานมา โตกว่า 20% ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากผู้หญิงไทยค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องความงาม และยังคงจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าด้านความงาม และส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนจากการใช้ผลิตภัณฑ์เคาน์เตอร์แบรนด์มาเป็นเวชสำอาง
เพราะมีราคาถูกกว่า 30-40% ซึ่งตลาดเวชสำอางนับว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับตลาดดูแลผิวระดับแมส เติบโต 5-6% ต่อปี
“จากการสำรวจตลาดพบว่า 72% ของคนไทยมีปัญหาเรื่องริ้วรอยเพิ่มขึ้น และกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เริ่มมีอายุที่น้อยลง หรืออายุ 25 ปีก็เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย ส่งผลให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 2-3 แบรนด์ต่อปี”
อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหรือปี 2557 ของยูเซอริสู่การเป็นแบรนด์ไอคอนาสำหรับกลุ่มเป้าหมาย และจะผลักดันให้กลุ่มยูเซอริน มีรายได้เพิ่มจาก 20% เป็น 25% ของรายได้รวม จากปัจจุบันกลุ่มเวชสำอางยูเซอรินเป็นผู้นำตลาดเวชสำอาง ครองส่วนแบ่ง 70% จากตลาด 1.7-1.8 ล้านบาท แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย เพื่อผิวขาว ผลิตภัณฑ์กันแดด และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว
โดยมีสัดส่วนรายได้ใกล้เคียงกันหมด
เภสัชกรหญิงสุวรรณี ศรีธัญญะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอางยูเซอริน เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดยูเซอรินบริษัทได้วางเป้าหมาย 5 ปี ผลักดันให้เป็นแบรนด์ไอคอนด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและความงามในตลาดเวชสำอาง ภายใต้การใช้กลยุทธ์การเป็นผู้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ด้วยงบการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 7,500 ล้านบาทต่อปี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเวชสำอาง และผลักดันให้ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนเวชสำอาง 10% ของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับแมส 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวยูเซอริน ไมโคร ดีพ ฟิลเลอร์ ซีรั่ม ลงสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอยในประเทศไทยแห่งแรกในเอเชีย โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ไฮยาลูรอนิค แอซิด โมเลกุลเล็ก 50 เท่า ต่อยอดจากการเปิดตัวไฮยาลูรอนิค เมื่อปี 2550 หรือ 3ปีที่ผ่านมา โดยสินค้าใหม่เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งบริษัทได้เตรียมดำเนินการตลาดครบวงจร
นำร่องเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนไทยครั้งแรก”เยลหลี แมคอินทอช” และการจัดกิจกรรม แจกสินค้าตัวอย่าง โดยจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลักดันให้ยูเซอริน มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 60% เป็น 70% ในตลาดผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย
แนวโน้มตลาดเวชสำอาง ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 20% ขึ้นไป เมื่อเทียบกับปีที่ผานมา โตกว่า 20% ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากผู้หญิงไทยค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องความงาม และยังคงจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าด้านความงาม และส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนจากการใช้ผลิตภัณฑ์เคาน์เตอร์แบรนด์มาเป็นเวชสำอาง
เพราะมีราคาถูกกว่า 30-40% ซึ่งตลาดเวชสำอางนับว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับตลาดดูแลผิวระดับแมส เติบโต 5-6% ต่อปี
“จากการสำรวจตลาดพบว่า 72% ของคนไทยมีปัญหาเรื่องริ้วรอยเพิ่มขึ้น และกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เริ่มมีอายุที่น้อยลง หรืออายุ 25 ปีก็เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย ส่งผลให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 2-3 แบรนด์ต่อปี”
อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหรือปี 2557 ของยูเซอริสู่การเป็นแบรนด์ไอคอนาสำหรับกลุ่มเป้าหมาย และจะผลักดันให้กลุ่มยูเซอริน มีรายได้เพิ่มจาก 20% เป็น 25% ของรายได้รวม จากปัจจุบันกลุ่มเวชสำอางยูเซอรินเป็นผู้นำตลาดเวชสำอาง ครองส่วนแบ่ง 70% จากตลาด 1.7-1.8 ล้านบาท แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย เพื่อผิวขาว ผลิตภัณฑ์กันแดด และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว
โดยมีสัดส่วนรายได้ใกล้เคียงกันหมด
