ไม่พบน้ำทะเลสงขลาปนเปื้อนน้ำมัน ผู้ว่าฯสั่งชะลอสร้างฐานขุดเจาะเพิ่ม

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เผยผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลอ่าวไทยในเบื้องต้น ไม่พบการปนเปื้อนของน้ำมัน แต่ผู้ว่าฯสงขลาสั่งชะลอสร้างฐานขุดเจาะน้ำมันอีก 3 ฐาน รอผลการพิสูจน์คุณภาพน้ำ พร้อมขอร้องชาวประมงอย่าออกมาประท้วงจนกว่าจะได้ข้อสรุป

จากกรณีที่พบกากของเสียสีดำคล้ายน้ำมันดิบ ถูกคลื่นซัดขึ้นมาจากทะเลอ่าวไทยทั่วทั้งชายหาดสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา ตลอดความยาวเกือบ 6 กิโลเมตร หลายวันที่ผ่านมา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจมาจากการขุดเจาะสำรวจน้ำมัน ของ บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย)จำกัด ในอ่าวไทย ซึ่งได้มีการบินสำรวจของกองเรือภาค 3 เมื่อ 2 วันก่อน และการเก็บตัวอย่างคุณภาพน้ำทะเลโดยรอบฐานขุดเจาะน้ำมัน เพื่อตรวจสอบว่า มีการปนเปื้อนของสารน้ำมันหรือไม่ เพื่อหาตัวการที่ก่อปัญหาดังกล่าว

ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.สงขลา และเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมที่ 16 ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำทะเลในอ่าวไทยจำนวน 10 จุด ประกอบด้วยรอบฐานขุดเจาะน้ำมันทั้ง 3 ฐานรวม 8 จุด และพื้นที่อ่าวไทยรอบนอกฐานขุดเจาะจนถึงชายฝั่งสงขลา 2 จุด หลังจากที่พบปัญหามีกากของเสียคล้ายน้ำมันดิบลอยมาบนชายหาดสงขลา และสิ่งปนเปื้อนซึ่งเป็นของเหลวสีดำกระจายเกลื่อนทั่วทะเลอ่าวไทย เพื่อนำตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์หาสารประกอบที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำทะเลว่าเป็นชนิดเดียวกันกับที่พบบนฝั่งหรือไม่

ทั้งนี้ นางสาวสุภาพร องสารา นักวิชาการประมงชำนาญการรักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ระบุว่า การการตรวจพิสูจน์ในเบื้องต้นพบว่าน้ำในทะเลอ่าวไทยรอบฐานขุดเจาะน้ำมันทั้ง3 ฐานรวมทั้งในพื้นที่อ่าวไทยรอบนอกไม่พบการปนเปื้อนของคราบน้ำมันปิโตรเลียม แต่ เจ้าหน้าที่จะนำตัวอย่างน้ำทะเลไปตรวจพิสูจน์หาสารประกอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยคาดว่าน่าจะรู้ผลภายใน 10 วัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหน้าที่คณะทั้งหมดได้นำข้อสรุปในเบื้องต้นรายงานต่อ นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รับทราบและในเบื้องต้นจังหวัดได้ขอให้บริษัทนิวคอสตอล (ประเทศไทย)จำกัด หยุดขยายฐานขุดเจาะน้ำมันที่จะดำเนินการขุดเจาะเพิ่มเติมอีก 3 ฐาน ตามแผนที่วางไว้ออกไปก่อน ยกเว้น 3 ฐานแรกที่ได้ดำเนินการไปแล้วจนกว่าผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำจะออกมา และยังได้ขอร้องไปยังกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอสงขลาอย่างเพิ่งมาชุมนุมเคลื่อนไหวในขณะนี้จนกว่าจะทราบผล