xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งเสื้อแดงแตกกันเละชิงการนำ-น้ำเลี้ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- เสื้อแดงปิดถนนชุมนุมที่หน้าสำนักงานใหญ่แบงก์กรุงเทพ สีลม โจมตีผู้บริหารและป๋าเปรม ขณะที่แบงก์ปิดตั้งแต่เที่ยงเพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงชี้"แม้ว"เลือกแนวทางใช้ความรุนแรง ขณะที่แกนนำแย่งชิงน้ำเลี้ยง แตกกันเละ คาดระดมคนมาชุมนุมหลัง 26 ก.พ.ได้ไม่เกิน 1.5 หมื่น ส่วนพนักงานแบงก์-แม่ค้าละลายทรัพย์บ่นอุบไม่เคารพสิทธิคนอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (19 ก.พ.) กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ทยอยมาปักหลักชุมนุมหน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม โดยมีรถขยายเสียง 3 คัน และเริ่มตั้งเต้นท์ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เอารั้วมากั้นถนนสีลม 1 เลน เพื่อจอดรถและกางเต็นท์ ซึ่งต่อมาก็ต้องมีการปิดการจราจรตั้งแต่บริเวณปากซอยคอนแวนต์ไปจนถึงแยกนราธิวาสราชนครินทร์

ขณะที่มีคนนำป้ายกระดาษ ซึ่งมีข้อความว่า " ชาวสีลมไม่ต้อนรับคนเสื้อแดง" มาติดไว้ตามเสาไฟฟ้าหลายแห่ง ใกล้กับสถานที่ชุมนุม แต่เมื่อการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงมาพบเข้า ก็รีบดึงออกทันที

สำหรับเนื้อหาการปราศรัยของบรรดาแกนนำกลุ่มเสื้อแดงนั้น ส่วนใหญ่เป็นการโจมตีผู้บริหารของธนาคารกรุงเทพโดยอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการบุกรุกเขาสอยดาว จ.จันทบุรี และมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบทับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พร้อมทั้งเรียกร้องให้พนักงานธนาคารกรุงเทพออกมาต่อต้านผู้บริหารที่กระทำความผิดด้วย

นอกจากนี้ก็เป็นการโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ว่ามีความเกี่ยวพันสนับสนุนระบอบเผด็จการ ยึดอำนาจรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาบริษัทเอกชนทุกแห่ง รวมทั้งธนาคารกรุงเทพ และบริษัทซีพี ด้วย

สำหรับการรักษาความปลอดภัย ได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น มีตำรวจจากกองบัญชาการ ตำรวจนครบาล บก.น 5 และบก.น 3 ประมาณ 500 นาย คุมเข้มบริเวณโดยรอบ ขณะเดียวกันธนาคารได้ปิดรั้วหน้าสำนักงานใหญ่ หากมีลูกค้ามาติดต่อก็จะให้เข้าประตูรั้วด้านข้างแทน และมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้ามาในสาขาแต่ละคน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นลูกค้าจริง ต่อมาเวลา 12.00 น. ธนาคารกรุงเทพ ก็ได้สั่งปิดทำการ

ส่วนธนาคารกสิกรไทยสำนักงาน สีลม ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยังเปิดทำการปกติโดยส่งให้เจ้าหน้าที่ประจำสาขาจับตาดูการเคลื่อนไหวทุกครึ่งชั่วโมง ส่วนบรรยากาศการซื้อขายในซอยละลายทรัพย์ ยังมีการซื้อขายปกติแต่จำนวนของร้านค้า ลดลงกว่าครึ่ง
ทั้งนี้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง จนกระทั่งเวลา 18.00 น . ก็สลายการชุมนุม

**"เสื้อแดง"แตกกันเละ

แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า หลังจาก นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ประกาศต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ย่านสีลม โดยอ้างว่า จะชุมนุมใหญ่หลังวันที่ 26 ก.พ. เนื่องจากสถานการณ์สุกงอมแล้ว และเกิดความระส่ำหนักในหมู่แกนนำที่แย่งการนำ

ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองได้รายงานสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการติดตามสถานการณ์ให้รัฐบาล โดยระบุว่า การชุมนุมคนเสื้อแดง ตามพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ 1-10 ก.พ. 53 ปรากฎมียอดผู้ชุมนุม 18,346 คน พ.ต.ท.ทักษิณ โทรศัพท์มาพูดคุยในที่ชุมนุมรวม 7 ครั้ง การพูดคุยทุกครั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ย้ำให้สมาชิกกลุ่มเสื้อแดงทุกคน เดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯให้ได้

"การปราศรัยครั้งสุดท้าย กำหนดไว้ที่จ.นครสวรรค์ ใน 20 ก.พ. โดยเว้นวันว่างไม่ปราศรัยไว้ ตั้งแต่วันที่ 22-26 ก.พ. 53 เพื่อใช้เป็นห้วงเวลาในการชุมนุมในกรุงเทพฯ หลังจากนั้น วันที่ 27 ก.พ.ทางกลุ่มเสื้อแดง จะมีการปราศรัยขึ้นใหม่อีกครั้ง ที่ อ.เมือง จ.สุโขทัย"

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ปรับโครงสร้างใหม่ของกลุ่มคนเสื้อแดง 2 ประการ คือ

1. การจัดตั้งกองทัพประชาชน คิดเป็นปริมาณ 1 : 10 ของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งแกนนำหลายกลุ่มดำเนินการไปแล้ว เช่น กลุ่มคนรักอุดร จัดตั้งชายฉกรรจ์ประมาณ 200 คนใส่ชุดคล้ายทหาร ทำหน้าที่การ์ด กลุ่มเชียงใหม่ ประมาณ 100 คน

ในส่วนการจัดตั้งของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง มีประมาณ 150 คน ซึ่ง พล.ต.ขัตติยะ พยายามจะขอรับเงินค่าใช้จ่ายของการ์ด มาควบคุมเองโดยจ่ายให้คนละ1,000บาท/วัน ในการชุมนุมทุกครั้ง ถ้าเป็นการชุมนุมในกรุงเทพฯจะมียอดประมาณ 2 ล้านบาทต่อการชุมนุม 1 วัน อย่างไรก็ตาม นายวีระไม่ยอม เสธ.แดง จึงเกิดความขัดแย้งขึ้น

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ขัตติยะ ได้จัดงานปราศรัยขึ้นเอง เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 53 ที่ซอยพหลโยธิน 62 ขายโต๊ะจีน 300 โต๊ะแต่มีผู้มาร่วมงานเพียง 50 โต๊ะเท่านั้น

2. การจัดตั้งแนวร่วมข้าราชการเสื้อแดง ซึ่งมอบให้กลุ่มทหารรุ่น 10 ที่เข้ามาอยู่ในพรรคเพื่อไทย อดีตข้าราชการตำรวจ และมหาดไทย เป็นผู้ดำเนินงาน มียอดผู้สมัครเป็นสมาชิกแล้วประมาณ 2,000 คน ซึ่งเป็นการแย่งมวลชนจากกลุ่มเสื้อแดง อีกเช่นกัน

นอกจากนี้ เกิดความแตกแยกระหว่างแกนนำในกลุ่มของนายวีระ และกลุ่มของนายจักรภพ เพ็ญแข ( นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อยู่ในกลุ่มนี้ ) ก็มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกในขณะที่กลุ่มนายวีระก็เริ่มเกิดความแตกแยกขึ้น เนื่องจาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เห็นว่าควรให้ เสธ.แดง เข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วย

**"แม้ว"เลือกแนวทางใช้ความรุนแรง

ปัจจุบันการเตรียมงานจัดชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง เป็นไปอย่างไม่ราบรื่น แม้จะมีกำลังคนจากส.ส.เพิ่มเข้ามาก็ตาม แต่แกนนำเสื้อแดงในต่างจังหวัดหลายกลุ่ม ก็ไม่พอใจ เช่น ที่จ.เชียงใหม่ และอุดรฯ เพราะแกนนำเหล่านี้ต้องการลงสมัครส.ส. เช่นกัน
ดังนั้นการรวมกำลังแดงทั้งแผ่นดิน (กลุ่มนายวีระ) รวมกับกลุ่มส.ส.เพื่อไทย จึงไม่สมบูรณ์ มียอดผู้ชุมนุมที่ลงชื่อประมาณ 30,000 คน แต่เมื่อตรวจสอบลงไปถึงการชุมนุมยืดเยื้อ พบว่าจำนวนผู้ชุมนุมลดลงเหลือประมาณ 15,000 คน เท่านั้น แต่ก็จำเป็นต้องจัดชุมนุมตามคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจผิดในข้อมูลจำนวนผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม ว่ามีปริมาณสูงเป็นแสนคน

กรณีนี้ทางอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กลุ่มหนึ่ง ภายใต้การนำของนายจาตุรนต์ ฉายแสง ตกลงใจจะชี้แจงข้อมูลเรื่องนี้ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบ และเสนอให้มีการชุมนุมในรูปกดดันชั่วคราวเป็นระยะๆ ซึ่งจะกดดันรัฐบาลได้ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม แนวทางของนายจาตุรนต์ ไม่สอดคล้องกับแนวทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้ความสนใจการต่อสู้ในแนวทางรุนแรงของกองทัพประชาชนมากกว่า เพราะเห็นว่าเป็นหนทางเดียวที่จะได้รับชัยชนะ

**มาร์คย้ำต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมที่ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ ถนนสีลม จนทำต้องปิดทำการว่า ตนไม่ทราบว่าการตัดสินใจเป็นของใคร อย่างไร เมื่อถามว่าประเทศอังกฤษ ออสเตเลีย และอเมริกา ได้ส่งคำเตือนในการเดินทางมาประเทศไทย จะส่งผลต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ามันเป็นความกังวล เพราะมีการพูดถึงความรุนแรง จะเห็นได้ว่าในขณะนี้ เราไม่ได้ประกาศกฎหมายพิเศษ ในขั้นนี้ยืนยันว่าจะดูแลโดยใช้กฎหมายปกติได้ แต่เป็นจุดที่น่าจะย้ำให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่าจริงๆ แล้วตนอยากจะเห็นทุกฝ่ายทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เพราะเวลานี้หลายเรื่องไปในทางที่ดีโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่า การประกาศอย่างนี้จะกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันเป็นสิทธิของเขา เราพยายามชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้เกี่ยวข้องทราบว่า รัฐบาล มีมาตรการอย่างไร ฉะนั้นอยากขอทุกฝ่ายให้ความร่วมมือดีกว่า การเคลื่อนไหวการแสดงออก การแสดงความคิดเห็นก็ทำได้ แต่อย่าทำให้เกิดความเข้าใจว่า บ้านเมืองนี้จะมีแต่ความรุนแรง และการยุยงให้ใครใช้ความรุนแรง ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า จะมีการทำความเข้าใจกับสถานทูตต่างๆ เพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รมว.ต่างประเทศ ก็ทำเป็นระยะๆ และเราก็ใช้ทุกโอกาสในการชี้แจง เมื่อถามว่าหากมีความวุ่นวายอย่างนี้ เป้าที่วางไว้ว่าปลายปี จีดีพี จะถึง 4.7 เป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตัวเลขต้นสัปดาห์ จะมีตัวเลขของสภาพัฒน์ออกมา คงจะมาประเมินกันดูอีกที

**"เทือก"ไม่เปลี่ยนแผนคุมม็อบแดง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคน กล่าวถึงการดำเนินการของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในช่วงนี้ว่า ยังไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง ขณะนี้สิ่งที่กำหนดไว้เป็นแผนงานรองรับรับสถานการณ์ ยังคงปฏิบัติตามที่วางเอาไว้ ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก มีปัญหาก็ต้องแก้กัน ร่วมมือในการแก้ไขปัญหา

เมื่อถามว่า ถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาจะมีมาตรการเด็ดขาด ถึงขั้นจับกุมตัว 3 แกนนำหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พยายามติดตาม ถ้าเขาทำผิดกฎหมาย ก็ดำเนินคดีทันที ทั้งนี้ตนต้อง ติดตามทุกข่าวเพียงแต่ต้องระมัดระวังในการพูดจา

**จวกเสื้อแดงกุข่าวดิสเครดิตรัฐบาล

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่แกนนำเสื้อแดงพยายามปล่อยข่าวว่ารัฐบาลมีแผนปรามปราบกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งการกุข่าวว่า รัฐบาลจะไปเคลื่อนไหวที่โรงพยาบาลศิริราช และ ที่อนุสาวรีย์ ร. 1 จ.ราชบุรี ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยคิดสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง และความเสียหาย แต่พยายามที่จะควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรง เช่นเดียวกับการกุข่าว เรื่องกรมอุทยานแห่งชาติพันธ์พืชและสัตว์ป่า จะขนคนพร้อมอาวุธ 6,000 คน เข้ามาสกัดคนเสื้อแดง ซึ่งต่อมาบอกว่าเหลือแค่ 3,000 คน และเก็บตัวอยู่ที่ อ.ไทรโยค จ. กาญจนบุรี นั้น ตนได้สอบถามไปยังอธิบดีกรมอุทยานฯ แล้ว ปรากฏว่าไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และรัฐบาลมีนโยบายที่จะขนคนเข้ามาปะทะกับมวลชน ไม่เหมือนกับรัฐบาลยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ช่วงที่มีการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีการเกณฑ์เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ มาเก็บตัวที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และที่เขาใหญ่ พร้อมอาวุธครบมือ

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า การชุมนุมเสื้อแดงในต่างจังหวัด มีการปลุกระดมประชาชน หลังจากล้มเหลวจาการปลุกระดมใน กทม. ซึ่งบุคคลที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการปลุกระดมก็คือพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นจากการโฟนอินมายัง จ.หนองบัวลำภู ในเวทีของคนเสื้อแดง ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เชิญชวนให้คนเดินทางเข้ากทม. ด้วยรถอีแต๋น รถไถ รถกระบะ เพราะหากเดินทางมาด้วยรถบัส อาจถูกสกัดกั้น ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะศักยภาพของเสื้อแดงที่ไม่สามารถระดมคนได้มาก จึงต้องอาศัยพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนไม่อยากให้การชุมนุมโดยนำคนต่างจังหวัดเข้ามาใน กทม. เพราะเชื่อว่า จะก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน เช่น การชุมนุมที่ถนนสีลม (19 ก.พ.) ก็ทำให้รถติดทั้งเมือง หากการชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ยังมีการระดมคนในต่างจังหวัดเข้ามาอีก ก็จะทำให้การจราจรในกทม. เป็นอัมพาตทั้งเมือง

"อยากถามว่า คนเสื้อแดงมีความสุขมากใช่หรือไม่ ในการเห็นบ้านเมืองพังต่อหน้าต่อตา จึงอยากเรียกร้องให้คน กทม. อย่าได้ตื่นตระหนกอย่าหวั่นไหว และอย่าเชื่อข่าวลือ ข่าวลวง ที่แกนนำคนเสื้อแดงพยายามปลุกปั่น คนเสื้อแดงไม่ใช้ยุทธวิธีแบบนี้ ก็จะทำให้คนเสื้อแดงน้อยแน่นอน เขาจึงพยายามสร้างสถานการณ์ทุกรูปแบบ แต่เชื่อมั่นว่าคน กทม.ที่รับรู้ข่าวสารมาตลอด จะไม่เข้าร่วมกับคนเหล่านี้อย่างแน่นอน" นายเทพไท กล่าว

**กำชับผู้ว่าฯทำความเข้าใจกับประชาชน

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่ตลอด ส่วนที่มีข่าวว่าจะเกณฑ์คนเข้ามาร่วมชุมนุมใน กทม. เพื่อสกัดการชุมนุมนั้น ยืนยันไม่มีการสกัดกั้นในเรื่องนี้ เพียงแต่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจไม่มาร่วมชุมนุม
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางฝ่ายความมั่นคง ยังไม่ได้ขอความร่วมมือใดๆมาที่กระทรวงมหาดไทยเป็นพิเศษ แต่ทุกฝ่ายก็เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เนื่องจากเป็นช่วงใกล้วันตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

**คุยชุมนุมใหญ่จะเห็นแดงมหาศาล

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวกรองจากรัฐบาลว่า จำนวนมวลชนเสื้อแดงลดน้อยลงหลังเกิดความขัดแย้งอย่างหนักในส่วนแกนนำว่า ไม่จริง และหน่วยข่าวกรองพึ่งพาได้น้อยมาก ฉะนั้นข่าวเรื่องท่อน้ำเลี้ยง และกลุ่มเสื้อแดงแตก แดงแผ่วนั้น จึงไม่ใช่เรื่องจริง เพราะความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างทาง อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ทำให้เกิดความแตกแยก

ดังนั้นเมื่อไรที่กลุ่มเสื้อแดงมีการนัดชุมนุมใหญ่ จะได้เห็นภาพมวลชนมหาศาล ดังนั้นการที่หน่วยข่าวกรองของรัฐบาล ระบุว่า กลุ่มเสื้อแดงมีการเตรียมมวลชนเข้ามาชุมนุมใหญ่จำนวนสามหมื่นกว่าคนนั้น ก็ขัดแย้งกันเองกับสิ่งที่รัฐบาลบอกว่าจำนวนเสื้อแดงลดลง เพราะคนจำนวนสามหมื่น ก็ถือว่ามากแล้ว ตรงนี้จึงสะท้อนคำอธิบายในการหาข่าวของรัฐได้ดี

"เหตุที่คนเสื้อแดง ยังไม่กำหนดวันเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ ไม่ได้เกิดจากความไม่พร้อม หรือเกิดปัญหาแดงแตก อย่างที่หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลระบุ แต่เป็นเพราะเราทราบข้อมูลว่า จะมีการสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายโดยรัฐบาลหลายจุด เช่น จะมีการนำกลุ่มคนเสื้อแดงบุกโรงพยาบาลศิริราชนั้น ก็เป็นกรณีหนึ่งที่เราต้องออกมาประกาศให้สังคมรับรู้ ดักทางไว้ก่อน ยืนยันว่า เรายึดหลักสันติวิธีอย่างเคร่งครัด รัดกุม และเป็นฝ่ายกำหนดเกมเอง ไม่ไปเคลื่อนไหวอยู่ในเขตคิลลิ่งโซน ที่รัฐบาลเตรียมไว้ รวมทั้งไม่เป็นฝ่ายทำให้เกิดความรุนแรงก่อน" นายณัฐวุฒิกล่าว

**เย้ยรัฐบาลเต้นไปเองมีม็อบ 26 ก.พ.

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงก็ไม่เคยประกาศดีเดย์การชุมนุมก่อน หรือหลัง 26 ก.พ. แต่รัฐบาลไปเต้นเอง แต่ในวันที่ 26 ก.พ. ก็อาจจะมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่รักและห่วงใย พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปให้กำลังใจที่ศาลฎีกา แต่เราจะไม่ตั้งเวทีชุมนุมหรือเคลื่อนไหวใดๆแน่นอน เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปสร้างสถานการณ์ที่ศาล แต่เราคำนึงถึงการต่อสู้เป็นหลัก

**กองทัพแจงแผน 3 ขั้นรับมือเสื้อแดง

ในการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณารับทราบรายงานผลการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ ในการรักษาความปลอดภัยการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และรายงานผลการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่ดุสิต กรุงเทพมหานคร โดย ส.ว.หลายคนได้สอบถามถึงการรับมือการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่อาจเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า รวมถึงการที่รัฐจะพิจารณาออกกฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะ เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ละเลยเรื่องการพิจารณากฎหมายดังกล่าวมาโดยตลอด จนทำให้การชุมนุมบานปลาย

ทั้งนี้ การมีกฎหมายฉบับนี้ จะทำใสามารถบริหารจัดการพื้นที่ และการดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมได้ เพราะแม้รัฐบาลจะมีกฎหมายอื่นๆ เพื่อใช้รองรับและควบคุมการชุมน แต่ต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ หรือกฎหมายพิเศษ จะกระทบต่อความรู้สึกประชาชน ว่าอาจไม่ได้รับความปลอดภัยในพื้นที่ที่ใช้กฎหมายพิเศษ

ด้านพล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ ตัวแทนกองทัพบก ชี้แจงว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้เตรียมกฎหมายรองรับการชุมนุมไว้ 3 ระดับ คือ การใช้กฎหมายปกติ การประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และการประกาศ พรก. ฉุกเฉิน ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้นิ่งนอนใจในการควบคุมการชุมนุม แต่การพิจารณาออกกฎหมายอื่นๆ เพื่อใช้ควบคุมการชุมนุม เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมอภิปรายนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และปิดประชุมเวลา 14.50 น.

***คนแบงก์-แม่ค้าระอาเสื้อแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานที่ทำงานประจำที่ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ส่วนใหญ่รู้สึกเบื่อกับการที่กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุม เช่น นางสาวกิ๊บกล่าวว่า เดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเครื่องกระจายเสียงที่ดังมากจนไม่สามารถทำงานได้

"คนเรามีสิทธิที่จะประท้วงได้ตามกฎหมาย แต่ก็อย่าแสดงออกมาในลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะประชาชนคนอื่นเขาก็มีสิทธิที่จะอยู่อย่างสงบด้วย"

เธอฝากไว้ด้วยว่าการที่ออกมาเรียกร้องว่าสู้เพื่อประชาชน แต่การกระทำได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในประเทศนี้ด้วยกัน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ
พนักงานธนาคารกรุงเทพอีกราย ก็ระบุว่าตนเองก็ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงมาก เพราะปกติสามารถเข้า-ออกประตูของธนาคารได้หลายทางแต่ในวันนี้เข้า-ออกได้เพียงหนึ่งทางเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเมื่อใดที่ประเทศไทยจะรอดพ้นจากความวุ่นวายทางการเมือง เพราะทุกวันนี้มีแต่การประท้วงแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนอื่น

ส่วนแม่ค้าในซอยละลายทรัพย์ได้รับผลกระทบต่างก่นด่าผู้ชุมนุม เช่นเจ้าของร้านน้ำปั่น บอกว่า "การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก วันหนึ่งต้องเสียค่าเช่า 1 พันบาท หวังว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีแค่วันนี้วันเดียว"

ขณะเดียวกันร้านค้าในย่านสีลมก็ได้รับผลกระทบจากกรณีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเช่นกัน โดยร้านค้าเกือบทุกแห่งได้ปิดร้านตั้งแต่ช่วง 12.00 น. อย่างไรก็ตามพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นสมาชิกของกลุ่มเสื้อแดงที่นำอาหารและของอื่นๆ มาขายข้างถนนสีลมจากที่สังเกต ปรากฏว่าขายดีอย่างมาก เพราะได้รับการอุดหนุนจากกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยกัน

***ผู้บริหารบัวหลวงยอมรับโชคร้าย

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ก็ให้ความเห็นว่าการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ ยอมรับว่าถือเป็นความโชคร้ายของธนาคารมาก เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าธนาคารจะต้องมาประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารพร้อมรับเรื่องและชี้แจงเกี่ยวกับข้อสงสัยของกลุ่มคนเสื้อแดง และขอยืนยันว่า ยังคงเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนนายธีระ อภัยวงศ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ก็บอกว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ หากเป็นการมาชุมนุมโดยสันติและเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ก็ไม่มีอะไรน่าวิตก และธนาคารก็ได้ประสานงานไปยังสาขาต่างๆในพื้นที่ใกล้เคียงให้รองรับการใช้บริการลูกค้าที่อาจเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่มีสาขาตั้งอยู่บนถนนสีลมและอยู่ใกล้เคียงกับธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ก็ได้ทยอยปิดให้บริการสาขาชั่วคราว ดังนี้ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) มี 8 สาขาแต่ได้ปิดให้บริการชั่วคราวไป 4 สาขาคือสาขาสำนักสีลมปิดเมื่อเวลา 14.00 น. ส่วนสาขาคอนแวนต์ สาขาที่ตึกซีพีทาวเวอร์และสาขาที่ตุกยูไนเต็ดเซนเตอร์ปิดให้บริการเมื่อเวลา 14.20 น.
เนื่องจากไม่สะดวกทั้งในด้านการให้บริการลูกค้าที่จะมาใช้บริการ

ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ก็ได้ประกาศปิดให้บริการชั่วคราว สาขาทั้ง 3 สาขาเช่นกัน เมื่อเวลา 14.30 น. ส่วนธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) ปิดให้บริการ 14.50 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น