ASTVผู้จัดการรายวัน - “เป้ย” งามไส้ แก้ผ้าเอานมชนนายแบบ แต่ยังแถต่อว่าใส่เสื้อผ้าครบ ทั้งที่มีภาพเบื้องหลังประจานว่อนเน็ต เจ้าตัวเผยไม่แคร์ใครจะมองว่าทำเพื่อเงิน เพราะที่มีกินเลี้ยงแม่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะเหล่านี้
กระแสภาพวิพากษ์วิจารณ์กรณีไปอ้าซ่าถ่างแข้งถ่างขาบนรถช็อปเปอร์ยังไม่ทันซา "เป้ย ปานวาด เหมมณี" ก็ไปถ่ายแฟชั่นเปลือยอกสะบึมปะทะกับซิกแพ็กนายแบบให้กับนิตยสารเล่มหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้แก้ผ้า ทั้งที่มีภาพเบื้องหลังเป้ยยืนกุมหน้าอกปกปิดของสงวนขณะถ่ายแบบประจานว่อนไปทั่ว
“ที่เป้ยตัดสินใจถ่ายแบบครั้งนี้ เพราะเป้ยไม่ได้ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมา 2-3 ปีแล้ว การกลับมาถ่ายอีกครั้งหนึ่งก็ได้มาร่วมงานกับพี่จ๊อด ธาดา เป็นช่างภาพที่เป้ยไว้ใจมั่นใจว่ายังไงก็ถ่ายสวยอยู่แล้ว และอีกอย่างการถ่ายครั้งนี้อยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลงบ้าง"
"ถ้าเกิดย้อนกลับไปดู 2-3 ปีที่แล้ว การถ่ายภาพของเป้ยก็จะเป็นแนวใสๆ อีกแบบหนึ่งแต่ถ้าจะถ่ายแบบเดิมๆ ช่างภาพคนเดิมก็คงจะไม่มีอะไรแตกต่าง หรือเปลี่ยนแปลงเท่าไรก็เลยขออะไรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ดูเซ็กซี่มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเทคนิคการถ่ายแต่ละครั้งที่ออกมา เป้ยเซฟทุกขั้นตอนไม่ได้ถอดจริง ทุกๆอย่างมีเซฟอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งชุดว่ายน้ำกึ่งนู้ด"
"เป้ยโพสท่าถ่ายแบบนะคะ เรารู้ว่าที่จริงมันไม่ได้โป๊มันมีครบทุกอย่าง อยู่บนตัวไม่ได้ถอดเป็นการรีทัช จริงๆ ไม่ได้ถอดเลยมีผ้าอยู่บนตัวหมดเลย และก็มีภาพหนึ่งที่เป็นซิลิโคนแปะอยู่ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ที่รีทัช ต้องบอกว่าเป็นความจงใจอีกอย่างหนึ่งที่พี่ๆ เขาต้องการให้เห็นว่าเราก็ไม่ได้ถอดอะไรขนาดนั้น ซึ่งพี่เขาก็เห็นใจเราซึ่งเป้ยเองก็รู้มาก่อนหน้านี้อยู่แล้วว่าจะมีการรีทัช แต่ไม่รู้ว่าจะแรงขนาดนี้”
“อย่างบางภาพก็จะดูเหมือนโดนตัวผู้ชาย แต่ที่จริงก็ไม่ได้โดนอะไรกันถึงขั้นนั้น ถ้าทุกคนได้เห็นชุดที่เป้ยเซฟมันก็จะเป็นชุดชั้นในมีซิลิโคนแล้วก็มีชุดว่ายน้ำอีกชั้นหนึ่งซึ่งไม่ได้ถอดไม่ได้หลุดออกจากตัวเลย ตลอดเวลาการถ่ายแบบไม่มีเสื้อผ้าหลุดออกจากตัวเป้ยเลยสักชิ้น เซฟเยอะด้วยเราก็เอาของเราไปเองบ้าง อย่างซิลิโคนเป็นชุดชั้นในแบบแปะเป็นกาวแปะหน้าอก และก็ต้องเซฟคนด้วยถ้าคนเยอะก็ไม่กล้า พี่ๆ ทีมงานช่างหน้าช่างผม”
บอกที่บ้านไม่มีปัญหายันครอบครัวเข้าใจดี รวมไปถึง “บิ๊ก ทองภูมิ” หวานใจ ก็เข้าใจการทำงานและนักแสดงหนุ่มก็ได้เห็นภาพก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าตัวคุยฟุ้งถ่ายแบบครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่องาน แต่เรื่องกระแสวิจารณ์ต้องขอน้อมรับไว้
“คุณแม่เป้ยเขาเห็นภาพแล้วก็รู้สึกตกใจนิดนึง แต่เขาก็รู้เพราะเป้ยเล่าให้ฟังว่ามีการเซฟนั่นนี่ เขาก็ไม่ว่าอะไรและเขาก็รู้ว่าเราทำงานยังไง ส่วนบิ๊กเขาก็ได้เห็นแล้ว คือเขาเห็นรูปเบื้องหลังแล้วค่ะเป้ยส่งให้เขาดู พอเขาได้เห็นรูปเบื้องหลังแล้วก็รู้ว่าเป้ยเป็นยังไงเขาก็เลยไม่ว่าอะไร แต่ก็มีแซวบ้างบางรูปที่ถ่ายกับผู้ชาย รูปอื่นก็ไม่ได้แซวอะไรผลกระทบต่องานอื่น ณ ตอนนี้ยังไม่ได้กระทบอะไรนะคะ แต่มีบ้างที่มีกระแสวิจารณ์ที่รุนแรงอันนี้ก็ต้องน้อมรับฟัง”
ไม่ปฏิเสธ ฟันค่าตัวสูงถึง 7 แสนบาท ไม่แคร์ใครจะหาว่าทำเพื่อเงิน เจ้าตัวบอกที่ทุกวันนี้มีข้าวกิน เลี้ยงแม่ได้ ก็เพราะงานแบบนี้ และไม่รับปากว่าจะเลิกแขวนเต้า ขอแค่ซาๆ ลงดีกว่า
“เรื่องค่าตัวถ่ายแฟชั่น ถึง 7 แสนไหม อืม...คือมันก็ประมาณนึง ถามว่าตัดสินใจเพราะเงินหรือเปล่า ก็คือมันเป็นการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำเลยไม่ได้ไปซีเรียสคิดอะไรมากมาย แต่ถ้าใครจะมองว่าเป้ยทำเพื่อเงิน ก็ได้เป้ยไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร ที่เป้ยอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเงินค่ะ แต่ว่าเงินไม่ได้ซื้อเป้ยได้ เป้ยก็เลือกงานดูลิมิตทุกอย่าง อะไรที่เกินความสามารถหรือแก้ผ้าจริงๆ เราก็เลือกที่จะไม่ทำ”.
กระแสภาพวิพากษ์วิจารณ์กรณีไปอ้าซ่าถ่างแข้งถ่างขาบนรถช็อปเปอร์ยังไม่ทันซา "เป้ย ปานวาด เหมมณี" ก็ไปถ่ายแฟชั่นเปลือยอกสะบึมปะทะกับซิกแพ็กนายแบบให้กับนิตยสารเล่มหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้แก้ผ้า ทั้งที่มีภาพเบื้องหลังเป้ยยืนกุมหน้าอกปกปิดของสงวนขณะถ่ายแบบประจานว่อนไปทั่ว
“ที่เป้ยตัดสินใจถ่ายแบบครั้งนี้ เพราะเป้ยไม่ได้ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมา 2-3 ปีแล้ว การกลับมาถ่ายอีกครั้งหนึ่งก็ได้มาร่วมงานกับพี่จ๊อด ธาดา เป็นช่างภาพที่เป้ยไว้ใจมั่นใจว่ายังไงก็ถ่ายสวยอยู่แล้ว และอีกอย่างการถ่ายครั้งนี้อยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลงบ้าง"
"ถ้าเกิดย้อนกลับไปดู 2-3 ปีที่แล้ว การถ่ายภาพของเป้ยก็จะเป็นแนวใสๆ อีกแบบหนึ่งแต่ถ้าจะถ่ายแบบเดิมๆ ช่างภาพคนเดิมก็คงจะไม่มีอะไรแตกต่าง หรือเปลี่ยนแปลงเท่าไรก็เลยขออะไรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ดูเซ็กซี่มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเทคนิคการถ่ายแต่ละครั้งที่ออกมา เป้ยเซฟทุกขั้นตอนไม่ได้ถอดจริง ทุกๆอย่างมีเซฟอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งชุดว่ายน้ำกึ่งนู้ด"
"เป้ยโพสท่าถ่ายแบบนะคะ เรารู้ว่าที่จริงมันไม่ได้โป๊มันมีครบทุกอย่าง อยู่บนตัวไม่ได้ถอดเป็นการรีทัช จริงๆ ไม่ได้ถอดเลยมีผ้าอยู่บนตัวหมดเลย และก็มีภาพหนึ่งที่เป็นซิลิโคนแปะอยู่ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ที่รีทัช ต้องบอกว่าเป็นความจงใจอีกอย่างหนึ่งที่พี่ๆ เขาต้องการให้เห็นว่าเราก็ไม่ได้ถอดอะไรขนาดนั้น ซึ่งพี่เขาก็เห็นใจเราซึ่งเป้ยเองก็รู้มาก่อนหน้านี้อยู่แล้วว่าจะมีการรีทัช แต่ไม่รู้ว่าจะแรงขนาดนี้”
“อย่างบางภาพก็จะดูเหมือนโดนตัวผู้ชาย แต่ที่จริงก็ไม่ได้โดนอะไรกันถึงขั้นนั้น ถ้าทุกคนได้เห็นชุดที่เป้ยเซฟมันก็จะเป็นชุดชั้นในมีซิลิโคนแล้วก็มีชุดว่ายน้ำอีกชั้นหนึ่งซึ่งไม่ได้ถอดไม่ได้หลุดออกจากตัวเลย ตลอดเวลาการถ่ายแบบไม่มีเสื้อผ้าหลุดออกจากตัวเป้ยเลยสักชิ้น เซฟเยอะด้วยเราก็เอาของเราไปเองบ้าง อย่างซิลิโคนเป็นชุดชั้นในแบบแปะเป็นกาวแปะหน้าอก และก็ต้องเซฟคนด้วยถ้าคนเยอะก็ไม่กล้า พี่ๆ ทีมงานช่างหน้าช่างผม”
บอกที่บ้านไม่มีปัญหายันครอบครัวเข้าใจดี รวมไปถึง “บิ๊ก ทองภูมิ” หวานใจ ก็เข้าใจการทำงานและนักแสดงหนุ่มก็ได้เห็นภาพก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าตัวคุยฟุ้งถ่ายแบบครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่องาน แต่เรื่องกระแสวิจารณ์ต้องขอน้อมรับไว้
“คุณแม่เป้ยเขาเห็นภาพแล้วก็รู้สึกตกใจนิดนึง แต่เขาก็รู้เพราะเป้ยเล่าให้ฟังว่ามีการเซฟนั่นนี่ เขาก็ไม่ว่าอะไรและเขาก็รู้ว่าเราทำงานยังไง ส่วนบิ๊กเขาก็ได้เห็นแล้ว คือเขาเห็นรูปเบื้องหลังแล้วค่ะเป้ยส่งให้เขาดู พอเขาได้เห็นรูปเบื้องหลังแล้วก็รู้ว่าเป้ยเป็นยังไงเขาก็เลยไม่ว่าอะไร แต่ก็มีแซวบ้างบางรูปที่ถ่ายกับผู้ชาย รูปอื่นก็ไม่ได้แซวอะไรผลกระทบต่องานอื่น ณ ตอนนี้ยังไม่ได้กระทบอะไรนะคะ แต่มีบ้างที่มีกระแสวิจารณ์ที่รุนแรงอันนี้ก็ต้องน้อมรับฟัง”
ไม่ปฏิเสธ ฟันค่าตัวสูงถึง 7 แสนบาท ไม่แคร์ใครจะหาว่าทำเพื่อเงิน เจ้าตัวบอกที่ทุกวันนี้มีข้าวกิน เลี้ยงแม่ได้ ก็เพราะงานแบบนี้ และไม่รับปากว่าจะเลิกแขวนเต้า ขอแค่ซาๆ ลงดีกว่า
“เรื่องค่าตัวถ่ายแฟชั่น ถึง 7 แสนไหม อืม...คือมันก็ประมาณนึง ถามว่าตัดสินใจเพราะเงินหรือเปล่า ก็คือมันเป็นการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำเลยไม่ได้ไปซีเรียสคิดอะไรมากมาย แต่ถ้าใครจะมองว่าเป้ยทำเพื่อเงิน ก็ได้เป้ยไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร ที่เป้ยอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเงินค่ะ แต่ว่าเงินไม่ได้ซื้อเป้ยได้ เป้ยก็เลือกงานดูลิมิตทุกอย่าง อะไรที่เกินความสามารถหรือแก้ผ้าจริงๆ เราก็เลือกที่จะไม่ทำ”.
