วานนี้ (15 ก.พ.) ป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ การจัดงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2553 ของเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นภาพนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ลูกชายนางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” คู่กับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี 1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และแกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่บริเวณ 5 แยกหัวรถไฟ เขตเทศบาลนครนครราชสีมานั้น ปรากฏว่ามีมือดีนำสีมาปาใส่บริเวณภาพใบหน้านายสุรวุฒิ และนายสุวัจน์ จนเลอะไปทั้งใบหน้าของทั้ง 2 คน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่พร้อมข้อความ “ความร่ำรวยมั่งคั่ง เกิดจากความประหยัด” ดังกล่าวทางเทศบาลนครฯ ได้ติดตั้งมากว่า 2 สัปดาห์ และต่อมากลุ่มนายสุวัจน์ ได้นำภาพของนายสุรวุฒิ ขึ้นป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ร่วมกับกลุ่มตนเองเป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่บริเวณ 3 แยกห้างฯบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ถ.มิตรภาพ นครราชสีมา-ขอนแก่น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับปรากฏการณ์การหันมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน ทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ระหว่างกลุ่มสุวัจน์ และกลุ่มเจ๊เกียว
อีกทั้งในห้วงเวลาเดียวกัน นักการเมืองพรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา กลุ่มเจ๊เกียว นำโดยนายอัสนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วน ลูกชายคนโต ก็ได้ทำการขึ้นป้ายโฆษณณาพื้นสีแดงขนาดใหญ่ เป็นภาพของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สวมเสื้อคอจีนสีม่วง บนผนังอาคารตึกร้างของเจ๊เกียว บริเวณ 4 แยกหนองบัวรอง ถ.บัวรอง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมข้อความเตือนให้ประชาชนชาวโคราช ระวังในปีเสือเศรษฐกิจ การเมือง สังคมมีปัญหามาก ทั้งนี้ อวดอ้างเพื่อจะได้อยู่ดีกินดี เหมือนสมัยที่เขาเป็นนายกฯ ยึดครองประเทศ
โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นจุดเดิมที่ติดตั้งป้ายภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมข้อความปลุกปั่นให้ชาวโคราช นำพาเขากลับประเทศไทยอย่างไม่ถูกต้อง และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯโคราช ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปลดป้ายเสนียดสร้างความแตกแยกในบ้านเมืองดังกล่าว ซึ่งล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนมาเป็น สำนักงานพรรคเพื่อไทย สาขานครราชสีมา แล้ว
**แฉ“นช.แม้ว”ตัวเชื่อม 2 แก๊งจูบปาก
แหล่งข่าวนักการเมืองโคราช เผยว่า เบื้องหลังผู้ที่เป็นตัวเชื่อมโยงให้กลุ่มสุวัจน์ และกลุ่มเจ๊เกียว หันหน้ามาร่วมมือทางการเมืองกันได้ในครั้งนี้ ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีนายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก อดีต ส.ส.นครราชสีมา 1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหาร ทรท. เป็นผู้ประสาน เนื่องจากนายประชาธิปไตย มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับนายอัสนี เชิดชัย เป็นพิเศษและต่อสายโทรศัพท์พูดกับพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เป็นประจำ ประกอบกับนายประชาธิปไตย เป็นผู้ที่ต้องการให้ กลุ่มสุวัจน์ และกลุ่มเจ๊เกียว เข้ามาร่วมงานทางการเมืองกัน และพยายามประสานมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การร่วมมือทางการเมืองข้างต้นถือได้ว่าสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากเป็นคู่ฟัด แข่งขันกันมานาน ทั้งการเมืองท้องถิ่นโดยเฉพาะเวทีการเลือกตั้งเทศบาลนครนครราชสีมา และการเมืองระดับชาติ กับการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งกลุ่มสุวัจน์ เองจากนี้ไปจักไม่ต้องเหนื่อยหนักกับการรักษาเก้าอี้ 3 ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 1 กับคู่แข่งจากกลุ่มเจ๊เกียว ที่คุมฐานอำนาจเบ็ดเสร็จในเทศบาลนครฯ อยู่ในขณะนี้
ขณะที่กลุ่มเจ๊เกียว ก็จะสามารถรักษา 3 ที่นั่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นครราชสีมา ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ไว้ได้อย่างไม่ยากลำบาก ไม่ต้องสิ้นเปลืองคลังกระสุนจำนวนมากเหมือนครั้งที่ผ่านมา เมื่อไร้คู่แข่งเจ้าของพื้นที่เดิมจากกลุ่มสุวัจน์ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน นายสุวัจน์ ค่อนข้างตกอยู่ในภาวะยากลำบากทางการเมือง ทั้งปัญหาการตีจากของบรรดาส.ส.และทุนการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งขณะนี้ อย่างน้อยมี ส.ส.ของพรรค 2 คน คือนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.เขต 4 และสามี คือนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน ได้ประกาศตัวย้ายไปหาเสียงในนามพรรคพท. ชัดเจนแล้ว
อีกทั้งนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.เขต 5 อีกคน การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองขณะนี้มีแนวโน้มย้ายไปซบพรรคภูมิใจไทยของนายเนวิน ชิดชอบ มากกว่าอยู่กับนายสุวัจน์ ที่ระยะหลังท่อน้ำเลี้ยงตีบตัน
"ดังนั้น ฐานที่มั่นใหญ่โคราชของสุวัจน์ ในขณะนี้ที่ชัดเจนจริงๆ จึงมีเพียง 3 ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 1 เท่านั้น การดิ้นรนครั้งนี้ของสุวัจน์ จึงมีความเป็นได้สูง กับการพยายามต่อท่อน้ำเลี้ยงตรงจากคนต่างแดน สำหรับศึกการเลือกตั้งครั้งใหม่ กับการรักษาระดับไม่ให้เป็นพรรค ส.ส.ต่ำสิบ เพื่ออำนาจต่อรองร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นขั้วไหนก็ตาม"
ทั้งนี้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่พร้อมข้อความ “ความร่ำรวยมั่งคั่ง เกิดจากความประหยัด” ดังกล่าวทางเทศบาลนครฯ ได้ติดตั้งมากว่า 2 สัปดาห์ และต่อมากลุ่มนายสุวัจน์ ได้นำภาพของนายสุรวุฒิ ขึ้นป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ร่วมกับกลุ่มตนเองเป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่บริเวณ 3 แยกห้างฯบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ถ.มิตรภาพ นครราชสีมา-ขอนแก่น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับปรากฏการณ์การหันมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน ทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ระหว่างกลุ่มสุวัจน์ และกลุ่มเจ๊เกียว
อีกทั้งในห้วงเวลาเดียวกัน นักการเมืองพรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา กลุ่มเจ๊เกียว นำโดยนายอัสนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วน ลูกชายคนโต ก็ได้ทำการขึ้นป้ายโฆษณณาพื้นสีแดงขนาดใหญ่ เป็นภาพของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สวมเสื้อคอจีนสีม่วง บนผนังอาคารตึกร้างของเจ๊เกียว บริเวณ 4 แยกหนองบัวรอง ถ.บัวรอง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมข้อความเตือนให้ประชาชนชาวโคราช ระวังในปีเสือเศรษฐกิจ การเมือง สังคมมีปัญหามาก ทั้งนี้ อวดอ้างเพื่อจะได้อยู่ดีกินดี เหมือนสมัยที่เขาเป็นนายกฯ ยึดครองประเทศ
โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นจุดเดิมที่ติดตั้งป้ายภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมข้อความปลุกปั่นให้ชาวโคราช นำพาเขากลับประเทศไทยอย่างไม่ถูกต้อง และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯโคราช ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปลดป้ายเสนียดสร้างความแตกแยกในบ้านเมืองดังกล่าว ซึ่งล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนมาเป็น สำนักงานพรรคเพื่อไทย สาขานครราชสีมา แล้ว
**แฉ“นช.แม้ว”ตัวเชื่อม 2 แก๊งจูบปาก
แหล่งข่าวนักการเมืองโคราช เผยว่า เบื้องหลังผู้ที่เป็นตัวเชื่อมโยงให้กลุ่มสุวัจน์ และกลุ่มเจ๊เกียว หันหน้ามาร่วมมือทางการเมืองกันได้ในครั้งนี้ ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีนายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก อดีต ส.ส.นครราชสีมา 1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหาร ทรท. เป็นผู้ประสาน เนื่องจากนายประชาธิปไตย มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับนายอัสนี เชิดชัย เป็นพิเศษและต่อสายโทรศัพท์พูดกับพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เป็นประจำ ประกอบกับนายประชาธิปไตย เป็นผู้ที่ต้องการให้ กลุ่มสุวัจน์ และกลุ่มเจ๊เกียว เข้ามาร่วมงานทางการเมืองกัน และพยายามประสานมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การร่วมมือทางการเมืองข้างต้นถือได้ว่าสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากเป็นคู่ฟัด แข่งขันกันมานาน ทั้งการเมืองท้องถิ่นโดยเฉพาะเวทีการเลือกตั้งเทศบาลนครนครราชสีมา และการเมืองระดับชาติ กับการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งกลุ่มสุวัจน์ เองจากนี้ไปจักไม่ต้องเหนื่อยหนักกับการรักษาเก้าอี้ 3 ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 1 กับคู่แข่งจากกลุ่มเจ๊เกียว ที่คุมฐานอำนาจเบ็ดเสร็จในเทศบาลนครฯ อยู่ในขณะนี้
ขณะที่กลุ่มเจ๊เกียว ก็จะสามารถรักษา 3 ที่นั่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นครราชสีมา ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ไว้ได้อย่างไม่ยากลำบาก ไม่ต้องสิ้นเปลืองคลังกระสุนจำนวนมากเหมือนครั้งที่ผ่านมา เมื่อไร้คู่แข่งเจ้าของพื้นที่เดิมจากกลุ่มสุวัจน์ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน นายสุวัจน์ ค่อนข้างตกอยู่ในภาวะยากลำบากทางการเมือง ทั้งปัญหาการตีจากของบรรดาส.ส.และทุนการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งขณะนี้ อย่างน้อยมี ส.ส.ของพรรค 2 คน คือนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.เขต 4 และสามี คือนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน ได้ประกาศตัวย้ายไปหาเสียงในนามพรรคพท. ชัดเจนแล้ว
อีกทั้งนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.เขต 5 อีกคน การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองขณะนี้มีแนวโน้มย้ายไปซบพรรคภูมิใจไทยของนายเนวิน ชิดชอบ มากกว่าอยู่กับนายสุวัจน์ ที่ระยะหลังท่อน้ำเลี้ยงตีบตัน
"ดังนั้น ฐานที่มั่นใหญ่โคราชของสุวัจน์ ในขณะนี้ที่ชัดเจนจริงๆ จึงมีเพียง 3 ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 1 เท่านั้น การดิ้นรนครั้งนี้ของสุวัจน์ จึงมีความเป็นได้สูง กับการพยายามต่อท่อน้ำเลี้ยงตรงจากคนต่างแดน สำหรับศึกการเลือกตั้งครั้งใหม่ กับการรักษาระดับไม่ให้เป็นพรรค ส.ส.ต่ำสิบ เพื่ออำนาจต่อรองร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นขั้วไหนก็ตาม"
